บริษัทปตท.สำรวจและผลิต จำกัด (มหาชน) จากไทย ก้าวเต็มขั้นเข้าลงทุนในการสำรวจขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในพม่าบริเวณอ่าวเมาะตะมะอีกหนึ่งโครงการ และได้มีการลงนามในข้อตกลงดังกล่าวไปเมื่อวันจันทร์ (25 ก.ค.) ที่ผ่านมา ณ กรุงย่างกุ้ง โดยมี นายแพทย์ พรหมินทร์ เสิศสุริย์เดช รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของไทยร่วมเป็นสักขีพยาน

นายมารุต มฤคทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศเรื่องการลงนามนี้ใน รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยระบุว่า บริษัทฯ ได้ซึ่งการเข้าร่วมลงทุน ก็เพื่อเป็นการสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ของ ปตท.สผ. ที่ต้องการจะขยายฐานการลงทุนไปต่างประเทศเพื่อเพิ่มสัดส่วนปริมาณสำรองปิโตรเลียมของบริษัท และเพื่อรองรับความต้องการพลังงาน ของประเทศ

การเข้าลงทุนดังกล่าว ปตท.สผ. ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัทแก๊สและน้ำมันแห่งชาติของไทย ได้รับสิทธิ แต่เพียงผู้เดียวในโครงการสำรวจปิโตรเลียม แปลงหมายเลข M-11 ในบริเวณอ่าวเมาะตะมะ ซึ่งพื้นที่รวมทั้งหมดกว่า 7,200 ตารางกิโลเมตร ทั้งนี้ ปตท.สผ. มีแผนที่จะทำการศึกษาทางธรณีวิทยาและธรณีฟิสิกส์ งานสำรวจทางธรณีศาสตร์และการเจาะหลุมสำรวจ 1 หลุม โดยที่ไม่ได้ระบุว่างบประมาณในการลงทุนในครั้งนี้เป็นมูลค่าเท่าไร

โครงการตามข้อตกลงนี้เป็นการ สำรวจร่วมกันระหว่าง ปตท.สผ. และ Myanmar Oil and Gas Enterprise (MOGE) ซึ่งเท่าที่ผ่านมาการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ นั้นไม่ค่อยได้ เป็นข่าวเท่าไรนัก จนเมื่อไม่นานมานี้ นายสิทธิชัย ชัยยันต์ (Sidhichai Jayant) โฆษกประจำ ปตท.สผ. กล่าวกับหนังสือพิมพ์อิรวดีออนไลน์ สื่อของชาวพม่าในต่างแดน

แปลงที่ M-11 นี้ นับเป็นโครงการล่าสุดซึ่งเป็นลำดับที่ 5 ของ ปตท.สผ ที่เข้าไปลงทุนด้านพลังงานบริเวณนอกชายฝั่งของพม่า หลังจากที่ได้เริ่มโครงการครั้งแรกในบริเวณรัฐยะไข่ เมื่อปี 2546 โดยในโครงการล่าสุดนี้ได้วางแผนเรื่องงบประมาณการลงทุนไว้ถึง 23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงระยะเวลา 5 ปีต่อจากนี้

ปตท.สผ. ถือหุ้นอยู่ในแหล่งก๊าซยาดานา(Yadana) จำนวน 19% โดยที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของโครงการ คือ บริษัทโทเทิ่ลออยล์ (Total) ของฝรั่งเศส ซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ อยู่ในขณะนี้ว่ามีส่วนในการสนับสนุนในเรื่องการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนในพม่า