ปี 2548 ขาลงหุ้นกลุ่มชินวัตร เผยตลาดหุ้นซบฉุดมูลค่าตลาดหุ้นในกลุ่มหายวับ 5.3 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 60% ของมูลค่าตลาดรวมที่หายไป 9 หมื่นล้านบาท บรรยากาศซื้อขายล่าสุดไม่กระเตื้องถูกถล่มขายนำโด่งทุกกลุ่มในตลาดกดดัชนีฯทรุดต่ออีก เหตุนักลงทุนไทยยังหวาดหวั่นเงินต่างชาติเข้าลงทุนจริงหรือไม่ คาดภาวะตลาดผันผวนเป็นระยะๆ นักวิเคราะห์ชี้ต้องติดตามผลประชุม กทช. และตัวเลขจีดีพีแบงก์ชาติ
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (26 ก.ค.) ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบๆ และขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 660 จุด ก่อนจะมีแรงเทขายออกมากดดัชนีปิดที่ระดับ 656.91 จุด ลดลง 2.73 จุด (0.41%) โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 660.28 จุด ส่วนจุดต่ำสุดอยู่ที่ 655.27 จุด มูลค่าการซื้อขาย 10,242.26 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 882.26 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 362.04 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 520.23 ล้านบาท
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นกลุ่มสื่อสารปรับลดลงมากสุด โดยดัชนีปิดที่ 94.98 จุด ลดลง 1.17 จุด (1.22%) มูลค่าการซื้อขาย 1,470.20 ล้านบาท ตามด้วยดัชนีกลุ่มขนส่งและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เปิดเผยว่า นักลงทุนในประเทศยังไม่กล้าเข้าลงทุน และเกาะติดการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติว่าจะยังเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากราคาหุ้นไทยในสายตานักลงทุนต่างชาติยังถูก เพียงแต่ยังไม่กล้าเข้ามาซื้อหุ้น นักลงทุนรายย่อยจึงมีอาการ กล้าๆ กลัวๆ และการลงทุนของทั้งต่างชาติและราย ย่อยขณะนี้เป็นไปในลักษณะเก็งกำไรเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นในระยะนี้มองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะมีความผันผวนต่อไป
หุ้นสื่อสารค่ายชินวัตรทรุด
สำหรับหุ้นกลุ่มสื่อสารนอกจากหุ้นแอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (AIT) ร่วงหนักสุดปิดที่ 13.20 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 3.65% มูลค่าการซื้อขาย 3.918 ล้านบาท พบว่าหุ้นในกลุ่มตระกูลชินวัตรล้วนปรับตัวลดลง
หุ้นชินแซทเทลไลท์ (SATTEL) ปิดที่ 13.60 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 2.16% มูลค่าการซื้อขาย 135.02 ล้านบาท, หุ้นชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN) ปิดที่ 36.50 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 2.01% มูลค่าการซื้อขาย 194.26 ล้านบาท ส่วนหุ้นแอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส (ADVANC) ปิดที่ 98 บาท ลดลง 1 บาท หรือ 1.01% มูลค่าการซื้อขาย 801.707 ล้านบาท
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายงานค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเพกซ์ จำกัด กล่าวว่า นักลงทุนต้องจับตาการประชุมในวันที่ 28 ก.ค.นี้เกี่ยวกับการพิจารณาของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. เรื่องการเปิดเสรีธุรกิจกิจการโทรคมนาคม หลายฝ่ายเริ่มมองผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการพิจารณาซึ่งอาจจะส่งผลต่อราคาหุ้นในกลุ่ม
นอกจากนี้ยังต้องติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ของธนาคารแห่งประเทศไทยว่าจะเป็นไปในทิศทางใด
ทั้งนี้ มองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีในวันนี้ แนวต้านที่ 660-662 จุด แนวรับที่ 647-652 จุด มูลค่าหุ้นชินวัตรหาย 5.3 หมื่นล้าน
"ผู้จัดการรายวัน" ได้สำรวจมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) หุ้นที่ตระกูลชินวัตรถือหุ้นใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ทั้ง 6 บริษัท คือ บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, บริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SHIN, บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SATTEL, ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB, บริษัทเอสซีแอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC, บริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่องจากสิ้นปี 2547
จนกระทั่งปี 2548 ยังพบว่ามาร์เกตแคป หรือ มูลค่าหุ้นในกลุ่มชินวัตรปรับลดลงมาแล้วกว่า 5 หมื่นล้านบาท
โดยมูลค่าหุ้นหรือมาร์เกตแคปหุ้นกลุ่มชินวัตรทั้ง 6 บริษัท ณ 25 ก.ค. อยู่ที่ 484,761.63 ล้านบาท ลดลง 53,027.75 ล้านบาท (9.86%) จากเมื่อวันที่ 4 ม.ค.48 ซึ่งมีมาร์เกตแคปอยู่ที่ 537,789.38 ล้านบาท ขณะที่มาร์เกตแคปตลาดหลักทรัพย์รวม (SET) ลดลง 90,534.74 ล้านบาท (1.95%) จากเมื่อวันที่ 4 ม.ค.48 อยู่ที่ 4.6 ล้านล้านบาท
เท่ากับว่ามูลค่าตลาดหุ้นไทยที่หายไปเป็นมูลค่าของหุ้นในกลุ่มชินวัตรกว่า 60%
ทั้งนี้ แบ่งเป็นการลดลงของมาร์เกตแคปหุ้นแอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส 35,055.24 ล้านบาท (10.72%), ชิน คอร์ปอเรชั่น ลดลง 9,393.38 ล้านบาท (7.75%), ชินแซทเทลไลท์ ลดลง 886.26 ล้านบาท (5.52%), ธนาคารทหารไทย ลดลง 1,863.99 ล้านบาท (3.58%),เอสซีแอสเสท คอร์ปอเรชั่น ลดลง 1,508.70 ล้านบาท (31.33%), ไอทีวี ลดลง 4,320.18 ล้านบาท (25.43%)
ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มชินวัตร ปี 2548 ADVANC สูงสุดที่ 121 บาท (9 ก.พ.) ต่ำสุดที่ 87 บาท (26 พ.ค.), SHIN สูงสุดที่ 47.75 บาท ( 9 ก.พ.) ต่ำสุดที่ 33.75 บาท (26 พ.ค.), SATTEL สูงสุดที่ 19.40 บาท(10 ก.พ.) ต่ำสุดที่ 13.10 บาท (20 ก.ค.), TMB สูงสุดอยู่ที่ 4.76 บาท (16 ก.พ.) ต่ำสุดที่ 3.46 บาท (4 เม.ย.), SC สูงสุดอยู่ที่ 17.70 บาท (8 ก.พ.) ขณะที่ต่ำสุดที่ 9.95 บาท (12 ก.ค.), ITV สูงสุดที่ 16.20 บาท (7 ก.พ.) ต่ำสุดที่ 9.90 บาท (29 เม.ย.) นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มสื่อสารกลุ่มชินวัตรประมาณ 3 บริษัท มีความ เคลื่อนไหวในลักษณะเก็งกำไรเพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับข้อสรุปของคณะกรรมการกิจการโทรคมนา-คมแห่งชาติ หรือ กทช. โดยกลุ่มที่จะได้รับผลดีไม่ว่าจะเป็น บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ที่จะมีความชัดเจนในการดำเนินธุรกิจซึ่งจะส่งผลดีต่อ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ด้วยเนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส
ดังนั้น นักลงทุนในหุ้นกลุ่มสื่อสารควรติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงมีการเลื่อนการพิจารณามาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ซึ่งราคาหุ้นในกลุ่มสื่อสารในปัจจุบันยังถือว่าน่าลงทุน หากมองผลประโยชน์ในอนาคตที่จะได้หลังจากมีความชัดเจนเรื่องดังกล่าว
นอกจากนี้นักวิเคราะห์ยังตั้งข้อสังเกตว่า หุ้นกลุ่มชินวัตรเกือบทุกบริษัทก่อนหน้านี้มีการจัดสรรหุ้นให้แก่ผู้บริหารและพนักงาน หรือ โครงการ ESOP มาต่อเนื่อง
ส่วนบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) ก็มีเรื่องราวของการเลื่อนยิงดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) มาเป็นระยะ โดยก่อนหน้านี้ได้มีการเลื่อนยิงดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) จากวันที่ 8 ก.ค. เป็นวันที่ 11 ก.ค. หลังจากที่พบความผิดปกติอุปกรณ์ ภาคพื้นดินของฐานยิงจรวด
โบรกเกอร์ยังเชื่อใจแนะซื้อ
นายวรุฒน์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของ SHIN วานนี้เป็นการปรับตัวลดลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นปรับขึ้นไปค่อนข้างมากซึ่งรวมถึงหุ้น ADVANC ก็มีถูกเทขายทำกำไรออกมาเช่นกัน แต่โดยหากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของ บริษัทแล้วยังไม่มีความเปลี่ยนแปลง
โดยบล.โกลเบล็กยังคงแนะนำ "ซื้อ" ทั้ง 2 ตัว โดย SHIN มีราคาเหมาะสมที่ 49 บาท และ ADVANC มีราคาเหมาะสมที่ 100 บาท
บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน ระบุว่า จากการที่ กทช.ได้กำหนดหลักเกณฑ์การออกค่า ธรรมเนียมใบอนุญาตสำหรับกิจการโทรคมนาคมประเภทต่างๆ แล้ว ถือเป็นปัจจัยบวกต่อผู้ประกอบการเอกชน ซึ่งจะเป็นกรอบที่ผู้ประกอบการเอกชนสามารถใช้เป็นแนวทางสำหรับการขอใบอนุญาตสำหรับแต่ละธุรกิจในอนาคตจาก กทช.โดยจะมีรายละเอียดของเงื่อนไขใบอนุญาต ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต รวมถึงกรอบอย่างกว้างๆ สำหรับ Interconnection charge
ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึงมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มสื่อสารในระยะยาว และคงคำแนะนำ "ซื้อ" ADVANC, UCOM, TRUE, SHIN และ TT&T
|