|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เจ้าของจักรยาน LA และกลุ่มธุรกิจสิ่งทอ ลุยธุรกิจอสังหาฯ ประเดิมโครงการแรก "อิมเมจ เพลส" มูลค่า 1,600 ล้าน หวังสร้างชื่อในย่านพุทธมณฑลสาย 4 ยันพัฒนาต่อเนื่อง แต่ขอดูภาวะเศรษฐกิจก่อนลงมือ เล็งหาที่ดินกว่า 400 ไร่สร้างอาณาจักร "ติยะวัชรพงศ์"
นายสุรสิทธิ์ ติยะวัชรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมเมจ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท โดยเปิดโครงการแรกภายใต้ชื่อ "อิมเมจ เพลส (IMAGE PLACE)" ตั้งอยู่บนทำเลติดถนนใหญ่พุทธมณฑลสาย 4 จ.นครปฐม เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 327 ยูนิต บนพื้นที่ 85 ไร่ ขนาดตั้งแต่ 50-80 ตร.ว. ราคา 3.9-7 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท
"โครงการฯ นี้เป็นโครงการแรกของเราเพื่อต้องการก้าวเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว และสร้างรากฐานให้ธุรกิจนี้เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ของครอบครัว ไม่ได้ยึดอยู่เพียงแค่ธุรกิจในอุตสาหกรรมสิ่งทอและธุรกิจอื่นๆ ของครอบครัวที่สร้างรากฐานมานานตั้งแต่ดั้งเดิมเท่านั้น อีกทั้งเรามีเป้าหมายผลักดันให้บริษัทฯนี้เติบโตอย่างมั่นคง เป็นบริษัทฯ ระดับชั้นนำในวงการต่อไปด้วย" นายสุรสิทธิ์กล่าว
นายสุรสิทธิ์กล่าวอีกว่า ได้เล็งเห็นแล้วว่า ทิศทางและโอกาสการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ในสภาวะตกต่ำ มีปัจจัยลบภายนอกต่างๆ มากระทบ แต่ธุรกิจนี้ต่างก็ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ยังเป็นธุรกิจที่คงอยู่ต่อไปและบ้านถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่ทุกคนฝันอยากจะมีที่อยู่อาศัยที่ดีเป็นของตนเอง
นอกจากนี้ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงผันผวน แต่หากสินค้าที่พัฒนาตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ การพัฒนาคุณภาพสูง ก็เชื่อว่าการทำการตลาดจะไม่ยาก ซึ่งทำเลที่ตั้งของโครงการฯถือว่าอยู่ในเขตควบคุมอาคารพุทธมณฑล ที่กำหนดให้การสร้างอาคารในรัศมี 1 กิโลเมตรต้องสูงไม่เกิน 18 เมตร เนื้อที่ไม่เกิน 1,000 ตร.ม. ในรัศมีไม่เกิน 300 เมตร สร้างอาคารสูงได้ไม่เกิน 12 เมตร จึงเชื่อได้ว่าเขตดังกล่าวจะไม่มีตึกสูงเกิดขึ้น จึงเหมาะที่จะอยู่อาศัยอย่างยิ่ง
สำหรับโครงการ 2 ที่จะพัฒนาตามมาต่อเนื่องนั้น นายสุรสิทธิ์กล่าวว่า จะมุ่งพัฒนาที่ดินในย่านพุทธมณฑลเป็นพื้นที่หลัก ในลักษณะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยบ้านเดี่ยว ขณะนี้กำลังทำการรวบรวมแลนด์แบงก์ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 50 ไร่ รวมถึงพิจารณาลักษณะที่อยู่อาศัยในประเภทต่างๆ โดยศึกษาอย่างละเอียดทั้งคู่แข่ง กลุ่มลูกค้า ความต้องการที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงปัจจัยลบ นอกจากนี้ยังรอดูภาวะตลาดอสังหาฯโดยรวมและภาวะเศรษฐกิจก่อนพัฒนาด้วย นอกจากนี้ยังมีที่ดินริมแม่น้ำท่าจีนอีกกว่า 100 ไร่แต่ขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะพัฒนา
นายสุรพล ธนโชติวรพงศ์ ผู้จัดการโครงการฯ กล่าวว่า ถือเป็นโครงการที่มุ่งสร้างคุณภาพและมาตรฐานของที่อยู่อาศัยที่ดีในระดับเทียบเท่ากับโครงการบ้านหรู เพื่อทำชื่อเสียงที่ดีให้แก่บริษัทฯ ปูทางสู่โครงการอื่นๆ ต่อไปในอนาคต ดังนั้น จากสภาวะตลาดที่อยู่อาศัยในย่านพุทธมณฑลสาย 4 ที่ส่วนใหญ่ 80% มาจากผู้ประกอบการท้องถิ่น มีลักษณะเป็นโครงการเล็ก ขนาดไม่ใหญ่ จะมีเพียงส่วนน้อยที่มาจากผู้ประกอบการรายใหญ่และมักเป็น บ้านขนาด 100 ตารางวาในระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ท่ามกลางสภาวะตลาดบ้านแพงมีการแข่งขันสูง และยังไม่มีโครงการที่อยู่อาศัยระดับกลางขนาดใหญ่ 200 ยูนิตขึ้นไปในย่านนี้มาก่อน จึงเป็นช่องว่างตลาดที่โครงการอิมเมจ เพลส มุ่งทำตลาดบ้านเดี่ยวคุณภาพดีมีมาตรฐานระดับกลาง
ทั้งนี้ เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย จากทาวน์เฮาส์ บ้านขนาดเล็ก หรืออาคารพาณิชย์ มาเป็นบ้านเดี่ยวขนาดที่ใหญ่ขึ้น เป็นครอบครัวในระดับปานกลาง คนรุ่นใหม่ที่มีรายได้รวมกันในระดับตั้งแต่ 4-5 หมื่นบาทขึ้นไป ในพื้นที่บริเวณย่านพุทธมณฑลสาย 4 เพชรเกษม ศาลายา อ้อมใหญ่ อ้อมน้อย หนองแขม และย่านพุทธมณฑลสาย 5
บริษัทฯ จึงวางจุดเด่นโครงการเพื่อตอบสนองกลุ่มเป้าหมาย ให้เป็น "สังคมที่สมบูรณ์พร้อม" โดยจัดสรรพื้นที่ส่วนกลาง 5% พร้อมโซนที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านหน้าโครงการ ได้แก่ Sport Center ที่ประกอบด้วย ฟิตเนส สปา สระว่ายน้ำมาตรฐาน สร้างเป็นศูนย์สุขภาพชั้นนำระดับมาตรฐานสากล ศูนย์การเรียนการสอนบนพื้นที่ 3 ไร่ ส่วนพื้นที่พลาซา ในเนื้อที่ 5 ไร่เศษสร้างเป็นร้านค้า และร้านอาหาร
ด้านการขายของบริษัทมุ่งขายบ้าน 2 ลักษณะในสไตล์แบบบ้านยูโรเปี้ยนคลาสสิก คือ ส่วนที่เป็นกลุ่มบ้านพร้อมอยู่ ขณะนี้ทำการขายพรีเซลช่วง 6 เดือนที่ผ่านไปแล้วจำนวน 110 หลัง มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท และในช่วงเปิดตัวเป็นทางการเดือน ก.ค.-ส.ค. นี้คาดว่าจะขายได้เพิ่มอีก 40 หลัง และยังมีส่วนที่เป็นกลุ่มบ้านสั่งสร้างบริเวณเฟสด้านหน้าจำนวน 40 ยูนิต ซึ่งปัจจุบันเปิดให้จองในช่วงเปิดโครงการนี้ด้วย สำหรับโครงการนี้แบ่งการพัฒนาออกเป็น 7 เฟส ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาเฟสที่ 3 จำนวน 50 ยูนิต
ดังนั้น เพื่อกระตุ้นการขายในช่วงเปิดตัวเป็นทางการดังกล่าว บริษัทฯ จัดรายการส่งเสริมการขายโดยการให้ส่วนลดค่าที่ดินตารางวาละ 2,000 บาท ส่วนลดราคาบ้านหลังละ 1 แสนบาท แถมชุดครัว แอร์ ติดวอลเปเปอร์ให้ จัดสวนทุกหลัง เฉพาะ 20 หลังแรกที่ตัดสินใจจองในช่วง Grand Opening จะได้รับ Gift Voucher มูลค่า 1 แสนบาท จาก SB Furniture ส่วนความคืบหน้าด้านการ ก่อสร้าง ทางโครงการฯเริ่มดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่เดือน ก.ค. 2547 การก่อสร้างคืบหน้าไปประมาณ 40% คาดว่าจะแล้วเสร็จ ก.ค. 2550 มีธนาคารกรุงเทพฯ เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินให้แก่โครงการฯวงเงิน 300 กว่าล้านบาท
ในปัจจุบันแต่ละบริษัทในกลุ่มจะมีโรงงานผลิตกระจายอยู่ในย่านพุทธมณฑล นครปฐม ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่จะจัดหาที่ดินขนาด 400-500 ไร่ เพื่อนำมาพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมของตระกูล "ติยะวัชรพงศ์" โดยจะรวมเอาโรงงานทุกโรงเข้ามาไว้ในนิคมฯ นี้เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการ
|
|
|
|
|