|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ศาลล้มละลายกลางยกคำร้องทีพีไอโพลีนที่ขอให้ตัวแทนบริษัทฯ มีสิทธิซื้อหุ้นทีพีไอโพลีน 249 ล้านหุ้น ก่อนผู้ซื้อรายอื่นเพื่อแลกโรงงานแอลดีพีอี หลังคลังยื่นคำแถลงขอยุติการเจรจาไกล่เกลี่ยหวังเดินหน้าประมูลขายหุ้นทีพีไอโพลีน 9 ส.ค.นี้ แนะให้นายประชัยเข้าร่วมประมูลหากต้องการหุ้นจริง แต่หากขายหุ้นไม่ได้ในวันที่ 10 พ.ย.นี้ คลังจะโอนหุ้นทีพีไอโพลีนทั้งหมดให้เจ้าหนี้เพื่อตีชำระหนี้ 250 ล้านเหรียญสหรัฐ
วานนี้ (25 ก.ค.) ศาลล้มละลายกลาง นัดพร้อมคดีบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2547 ขอเพื่อ ขอให้ศาลมีคำสั่งให้บุคคลที่ทีพีไอโพลีน กำหนดเป็นผู้มีสิทธิซื้อหุ้นทีพีไอโพลีนจำนวน 249 ล้านหุ้น ที่ถือกรรมสิทธิ์โดยบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) (ทีพีไอ) ก่อนบุคคลอื่นเพื่อแลกเปลี่ยนกับโรงงานเม็ดพลาสติกแอลดีพีอีของทีพีไอโพลีน
ด้านตัวแทนกระทรวงการคลังในฐานะผู้บริหารแผนฯ ทีพีไอได้ยื่นคำแถลงขอให้ ศาลดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีและมีคำสั่งตามคำร้องของทีพีไอโพลีนฉบับลงวันที่ 15 ธ.ค. 2547 โดยไม่ประสงค์ให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ย หรือเจรจาใดๆ เนื่องจากผู้บริหารแผนฯ ทีพีไอมีหน้าที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการเพื่อให้สามารถฟื้นฟูต่อไปได้
สืบเนื่องจากผู้บริหารแผนฯ ทีพีไอได้พิจารณาข้อเสนอและเงื่อนไขของทีพีไอโพลีนเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดในราคาหุ้นละ 1 เหรียญสหรัฐ โดยมีเงื่อนไขผูกมัดว่าทีพีไอจะต้องซื้อโรงงานแอลดี พีอีจากทีพีไอโพลีนในราคาไม่ต่ำกว่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐ หากทำตามข้อเสนอดังกล่าวจะขัดกับข้อกำหนดของแผนฟื้นฟูฯทีพีไอที่จะขายหุ้นทีพีไอโพลีนเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ 250 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่จะต้องดำเนินการตามหลักธุรกิจปกติ โปร่งใส ไม่ดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของบุคคลใดเป็นการเฉพาะเจาะจง ซึ่งผู้บริหารแผนฯ ได้ดำเนินการขายโดยวิธีประมูลราคาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ 9 ส.ค.นี้
ด้านตัวแทนของทีพีไอโพลีน ได้เสนอขอให้ทีพีไอเลื่อนการประมูลขายหุ้นทีพีไอโพลีนจำนวน 249 ล้านหุ้นออกไปก่อน และให้มีการตั้งบริษัทอิสระเพื่อประเมินมูลค่าทรัพย์สินโรงงานเม็ดพลาสติกแอลดีพีอีตามที่เคยได้มีข้อตกลงเรื่องการแลกหุ้นกับโรงงานแอลดี พีอีไปก่อนหน้านี้ เพื่อจะได้หุ้นสวอปกันได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางบล.เมอร์ริล ลินช์ ภัทร ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเคยทำการประเมินโรงงานแอลดีพีอีไว้ที่ 180-300 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ การเร่งขายหุ้นทีพีไอโพลีนดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้นเดิม
ศาลเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้ โดยได้มีคำสั่งให้ยกคำร้องดังกล่าว เนื่องจากตามแผนฟื้นฟูฯทีพีไอ ระบุว่า กระทรวงการคลังมีอำนาจเด็ดขาดในการขายหุ้นทีพีไอโพลีน 249 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 30.8% ไม่ช้าไปกว่า 8 สัปดาห์ก่อนสิ้นสุดแผนฟื้นฟูฯ 31 ธ.ค.48 และดำเนินการ เพื่อให้ได้โรงงานแอลดีพีอี เพื่อจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของทีพีไอให้ผู้บริหารแผนฯเป็นผู้ดำเนินการ โดยการซื้อ/เช่า หรือวิธีอื่นในเชิงพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นข้อแนะนำของผู้ไกล่เกลี่ยที่จะให้แลกหุ้นกับโรงงานแอลดีพีอี ไม่ถือว่าเป็นนิติกรรมที่จะมีผลบังคับได้
นายกมล ธีระเวชพลกุล รองอธิบดีศาลล้มละลายกลาง กล่าวว่า เดิมศาลเห็นว่า ผู้บริหารแผนฯ ทั้งสองสามารถตกลงเจรจากันได้เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย จึงให้มีการเจรจาตกลงกัน ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีการเจรจาตกลงกันหรือไม่ หรือเจรจากันแบบใด ศาลฯ ไม่อาจรู้ได้ แต่สุดท้ายคลังก็ตัดสินใจยุติการไกล่เกลี่ยแล้ว ส่วนที่จะให้ทีพีไอเลื่อนการขายหุ้นทีพีไอโพลีนออกไป เนื่องจากนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารลูกหนี้ทีพีไอ เตรียมหาเงิน 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ มาชำระคืนหนี้ทีพีไอ ตามสิทธิผู้ค้ำประกันนั้น ศาลเห็นว่าเป็นคนละเรื่องกับคดีนี้เพราะเป็นเรื่องอนาคต
แหล่งข่าวจากทีมงานคณะผู้บริหารแผนฯ ทีพีไอกล่าวว่า ผู้บริหารทีพีไอโพลีนไม่มีความจริงใจที่จะเจรจาไกล่เกลี่ย โดยไม่ยอมมีข้อเสนออะไร เพียงแต่ต้องการแลกหุ้นกับโรงงานแอลดีพีอี จนเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ทีพีไอโพลีนได้ทำหนังสือขอซื้อหุ้นทีพีไอโพลีนในราคาหุ้นละ 1 เหรียญสหรัฐ โดยมีเงื่อนไขว่าทีพีไอต้องซื้อโรงงานแอลดีพีอี 250 ล้านเหรียญสหรัฐด้วย ซึ่งก็เป็นข้อเสนอในการแลกหุ้นกับโรงงานเหมือนเดิม
"การซื้อโรงงานแอลดีพีอีจะต้องอยู่ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งเราอยากจะซื้อและผู้ร่วมลงทุนก็อยากให้เราจัดระบบทรัพย์สินให้เรียบร้อย เพราะยังมีความกังวลในเรื่องนี้อยู่ หากไม่มีโรงงานแอลดีพีอีก็ไม่ส่งผลเสียหายต่อทีพีไอ เพราะมาร์จิ้นเม็ดพลาสติกต่ำและเอทีลีนสามารถส่งออกได้"
ปัจจุบันมีผู้แสดงความจำนงขอเข้าร่วมประมูลโดยซื้อเอกสารการประมูลราคาแล้ว 5 ราย มาจากผู้ประกอบการปูนซีเมนต์และสถาบันการเงินทั้งไทยและต่างประเทศ หากตัวแทนของทีพีไอโพลีนต้องการหุ้นก็สามารถเข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ได้ ซึ่งการประมูลครั้งนี้จะไม่เปิดโอกาสให้ทำการตรวจสอบสถานะและกิจการ (ดิว ดิลิเจนซ์) ทำให้กลุ่มนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ในฐานะผู้บริหารทีพีไอโพลีนมีความได้เปรียบ ผู้เข้าร่วมประมูลรายอื่นๆด้วย
อย่างไรก็ตาม หากผู้บริหารแผนฯไม่สามารถขายหุ้นทีพีไอโพลีนได้ทันวันที่ 10 พ.ย. นี้ ก็จะดำเนินการโอนหุ้นดังกล่าวให้เจ้าหนี้ เพื่อตีชำระหนี้ 250 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามที่ระบุไว้ในแผนฟื้นฟูฯทีพีไอฉบับใหม่ ส่วนนาง อรพิน เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารทีพีไอโพลีน กล่าว ภายหลังการฟังคำตัดสินยกคำร้องของศาลฯ ว่า ยังไม่มีความเห็นใดๆ
แหล่งข่าวจากทีพีไอโพลีน กล่าวว่า ผู้ชนะการประมูลซื้อหุ้นทีพีไอโพลีนในครั้งนี้จะไม่มีอำนาจในการบริหารงานบริษัทเป็นเวลา 2 ปี สิ้นสุดธ.ค.2550 ซึ่งเชื่อว่าสุดท้ายจะก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นใหม่กับผู้บริหารแผนฯ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อผู้ลงทุน ดังนั้นทางทีพีไอโพลีนจึงเสนอให้ขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมแทนที่จะขายให้แก่บริษัทข้ามชาติ
|
|
|
|
|