|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ สิงหาคม 2548
|
|
คอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นที่อยู่ในฝันของคนหลายคน แต่หลังเกิดวิกฤติการเงินเมื่อปี 2540 โครงการต่างๆ ก็ดูเหมือนจะเงียบหายไป ที่ปรากฏอยู่ส่วนใหญ่เป็นโครงการเก่า สร้างเสร็จมานานกว่า 10 ปี โครงการสุดท้ายที่สร้างเสร็จก่อนเกิดวิกฤติ คือบ้านเจ้าพระยา ของกลุ่มสมประสงค์
ตลาดของคอนโดริมน้ำที่หยุดไปเกือบ 10 ปี ทำให้นักลงทุน หลายคนเล็งหาที่ดินเพื่อพัฒนาในรอบใหม่นี้ แต่มักติดปัญหาเรื่อง การหาซื้อที่ดินแปลงใหญ่ และกฎระเบียบใหม่ของทางราชการที่จำกัด เรื่องความสูง ซึ่งมีผลกับต้นทุนของการพัฒนาที่ดินริมน้ำอย่างมาก
อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ยืนยันข้อมูลว่า คอนโดมิเนียมเก่าริมน้ำมีทั้งหมด 12 อาคาร 6,000 กว่ายูนิต แต่ที่กำลังก่อสร้างใหม่รวมทั้งโครงการเก่าที่นำมาพัฒนาขายใหม่มีทั้งหมดประมาณ 10 โครงการ 3,000 ยูนิต ขณะที่ ตัวเลขของคอนโดมิเนียมทั้งตลาดที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างมีถึง 14,000 ยูนิต ซึ่งนับว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก
เป็นช่องทางการตลาดที่สุริยน พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์ มองเห็น ดังนั้นหลังประสบความสำเร็จ จากการขายคอนโดหรู "Hampton" ในซอยทองหล่อมาแล้ว ก็ได้เปิดโครงการ Water Mark ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทันที ตั้งแต่ปี 2527 และเมื่อรวบรวมที่ดินได้พื้นที่ถึง 11 ไร่ จึงสามารถสร้างตึกสูงได้ถึง 2 อาคารคือ ตึกเอ 52 ชั้น ตึกบี 28 ชั้น ทั้งหมดประมาณ 500 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 74,000 บาทต่อตารางเมตร ราคาสูงสุดอยู่ที่ตารางเมตรละประมาณ 1 แสนบาท
จากข้อมูลพื้นฐานที่ว่าโครงการคอนโดริมน้ำเกิดขึ้นได้ยาก มีอยู่น้อย ในขณะที่ชาวต่างชาตินิยมซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองไทยมากขึ้น
สุริยนจึงได้ชักจูงใจลูกค้าด้วยการเสนอ "Leasing Guarantee Program" หรือการค้ำประกันปล่อยเช่า ซึ่งประกันผลตอบแทนให้กับลูกค้าด้วยอัตรา 5 เปอร์เซ็นต์ต่อปีของราคาซื้อขาย ภายในเวลา 2 ปีหลังจากโครงการสร้างเสร็จ โดยรับเช่าห้องพักจากลูกค้าเพื่อนำไปปล่อยเช่าต่อโดยมีกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติเป็นเป้าหมายหลัก
หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ "Tenancy Management Package" ซึ่งบริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย รับเป็นบริษัทคนกลาง บริหารการลงทุนให้กับลูกค้า ด้วยการหาคนเช่าและเก็บค่าเช่าให้รวมทั้งดูแลห้องเช่า โดยวิธีนี้อาจจะได้ผลตอบแทนมากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่มีการรับประกัน
เป็นกลยุทธ์กระตุ้นยอดขายอีกทางหนึ่งของโครงการคอนโด มิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่สูงที่สุด และมีจำนวนยูนิตขายมากที่สุด ในปัจจุบัน และคาดว่าจะเสร็จสิ้นทั้งโครงการในปี 2550
|
|
|
|
|