|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ สิงหาคม 2548
|
|
10 ปีก่อน เมื่อครั้งที่ กรณ์ จาติกวณิช ยังอยู่ในภาคการเงิน เวลาที่เขาต้องติดต่อกับรัฐมนตรี หรือผู้ว่าการแบงก์ชาติ เขามักอาศัยเส้นทางถนนอู่ทอง ซึ่งผ่านหน้าอาคารรัฐสภาอยู่เสมอ อดีตคนขับรถของไกรศรี จาติกวณิช บิดาของเขาที่กลายมาเป็นเพื่อนร่วมทางของเขามานานร่วม 20 ปี เคยสัพยอกเขาไว้ว่า "สักวันหนึ่งจะขับรถพานายมาทำงานที่นี่"
กรณ์ยังจำคำพูดนั้นได้ดีจนกระทั่งถึงวันที่คนขับรถขับพาเขาเข้ามาทำงานที่รัฐสภา ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยแรก
"วันนั้นเรานั่งรถมาด้วยกัน ไม่มีใครพูดอะไร จนผมถามว่ายังจำได้ ไหมว่าเคยพูดอะไรไว้ เขาบอกว่าจำได้ครับนาย เขาเองก็กำลังคิดอยู่เลย ปกติเราไม่ค่อยคุยกันเท่าไร แต่ตอนนั้นมันเป็นความรู้สึกที่ดี"
อดีตแม้จะเคยสนใจการเมืองอยู่บ้างตามประสานักธุรกิจ นอกจากมองว่าคนที่จะเข้ามาต้อง มีความกล้า ซึ่งไม่เพียงแต่ในเรื่องการเสียสละ แต่ต้องมีใจรักจึงเข้ามาทำแล้ว ก็ไม่เคยมีวันใดที่กรณ์จะอาจหาญคิดลงเล่นการเมือง
จุดเปลี่ยนในชีวิตกรณ์เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน หลังขายหุ้นใน บล.เจ.เอฟ.ธนาคม ให้ธนาคาร JP Morgan Chase ด้วยเห็นว่า แผนธุรกิจการลงทุนของเขาบรรลุผลแล้ว เมื่อพิจารณา ถึงตัวงานที่ได้ทำมา ก็เกือบครบในสิ่งที่คนวงการการเงินต้องการทำแล้ว
"ตั้งแต่ตั้งเป้ามา ผมคิดว่าผมจบด้วยวันนั้น ให้พูดตามตรงผมเริ่มรู้สึกว่าจำเจ เวลาที่ผมใช้ กับงานมันน้อยลงๆ คือทำมามากเสียจนคิดว่าวันหนึ่งผมทำงานนิดเดียวก็เสร็จ ลูกน้องก็เก่งกันมากแล้ว ซึ่งนี่ก็อาจเป็นประเด็นสำคัญด้วย"
แม้จะตั้งใจไว้ว่าจบลงที่ตรงนั้น แต่กรณ์ก็ต้องเปลี่ยนใจอีกครั้ง เมื่อ JP Morgan Chase เสนอให้เขาเข้ามาดูแลกิจการโดยรวมทั้งหมด แทนที่จะจำกัดอยู่แค่เพียงธุรกิจหลักทรัพย์อย่างเดียว
การได้เข้ามามีส่วนร่วมกับธนาคารชั้นนำระดับโลก ไม่ใช่เป็นแค่ประสบการณ์ที่น่าสนใจแต่เพียงอย่างเดียวสำหรับกรณ์ แต่เขายังถือความรับผิดชอบที่ต้องช่วยธนาคารแห่งนี้ให้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนตามคาดหวังหลังจากได้ซื้อหุ้นของเขาไปแล้ว ดังนั้นจึงตัดสินใจร่วมงานต่อ
เขาใช้เวลาอีก 4 ปีทำงานให้ JP Morgan Chase จนกระทั่งเริ่มรู้สึกว่าตัวเองหมดความคิดใหม่ๆ มานำเสนอ และอาจกลายเป็นตัวถ่วงต่อธุรกิจในอนาคต
"ช่วงท้ายๆ ผมคิดว่าผมหมดวาระตรงนั้นแล้ว ผมไม่เคยคิดว่าใครก็ตามในองค์กรไหนก็แล้วแต่ ควรต้องอยู่ในตำแหน่งสูงสุดเป็นเวลานานเกิน สำหรับผมรู้สึกว่ามันเกินเวลามามากแล้ว ควรให้คนใหม่เข้าทำหน้าที่แทนได้แล้ว พอถึงเวลาการตัดสินใจมันก็ง่ายขึ้น"
เขาใช้เวลาคิดอยู่เพียงไม่กี่เดือน ก็ตัดสินใจลาออก เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง
|
|
|
|
|