Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 กรกฎาคม 2548
ไอซีทีนัด 2 บอร์ดถกภาระไม่แปรสัญญาสั่งทีโอทีห้ามตัดท่อต่อตรงเอกชนมือถือ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
โฮมเพจ กสท โทรคมนาคม
โฮมเพจ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

   
search resources

กสท โทรคมนาคม, บมจ.
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
Mobile Phone
ทีโอที, บมจ.




ไอซีทีเรียก 2 ประธานบอร์ด 2 ซีอีโอ ทีโอทีและกสท โทรคมนาคม ถอดรหัสการแบกภาระแทนเอกชน ตามนโยบายรัฐที่ไม่ให้มีการแปรสัญญา พร้อมสั่งทีโอทีต้องให้โอเปอเรเตอร์มือถือต่อเชื่อมตรงระหว่างกันต่อไป เชื่อเป็นทางแก้ปัญหาโทร.ไม่ติดที่ถูกต้อง ถึงแม้ทีโอทีจะขยายวงจรและให้ทุกรายต่อผ่านทีโอทีแล้วก็ตาม

นายคณวัฒน์ วศินสังวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่าในวันนี้ (25 ก.ค.) นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที จะเรียกประธานบอร์ดและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท ทีโอที และบริษัท กสท โทรคมนาคม เข้าประชุมร่วมกันเพื่อหารือถึงผลของนโยบายรัฐ ที่จะไม่ให้มีการแปรสัญญาร่วมการงานของทั้ง 2 หน่วยงาน ก่อนที่จะมีการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

"ไอซีทีต้องการให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่า จากนโยบายที่ไม่ต้องแปรสัญญาแล้วจะทำให้ 2 หน่วยงานรับผิดชอบเรื่องอะไรบ้างในส่วนของเอกชนที่เป็นคู่สัญญาร่วมการงาน"

เรื่องที่จะมีการหารือร่วมกันเช่นเรื่องค่าเชื่อมโครงข่าย (อินเตอร์คอนเนกชันชาร์จ) ที่ทั้ง 2 หน่วยงาน เสนอให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในเรื่องอัตราที่มี 3 รูปแบบ คือออริจิเนต ทรานซิส และเทอร์มิเนต และคำจำกัดความต่างๆ รวมทั้งในเรื่องภาระต่างๆ ที่ทั้ง 2 หน่วยงานในฐานะเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจะต้องรับผิดชอบแทนเอกชนคู่สัญญาไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าธรรมเนียมในการใช้เลขหมาย ค่าธรรมเนียมในการใช้คลื่นความถี่ รวมทั้งต้องการให้ทั้ง 2 หน่วยงานแสดงรายละเอียดของแผนงานสำหรับการให้บริการ USO รวมทั้งค่าชดเชยต่างๆ ที่สมควรจะได้รับ เพื่อกำหนดบทบาทที่ชัดเจน

นอกจากนี้ในวันที่ 26 ก.ค.ที่จะถึงนี้ กระทรวงไอซีทีจะเชิญกทช.เข้าหารือเรื่องเกี่ยวกับบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (Universal Service Obligation หรือ USO) ที่กทช.จะมีหลักเกณฑ์การเก็บเงินในลักษณะส่วนแบ่งรายได้จากผู้ได้รับใบอนุญาต 6% ของรายได้ ซึ่งกระทรวงไอซีทีมีความเห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะใช้หลักการดังกล่าว แต่เงินที่เก็บเข้ากองทุน USO ควรเป็นลักษณะพอเพียงกับการชดเชยในเรื่องการให้บริการจะมีความเหมาะสมกว่าการเก็บเป็นส่วนแบ่งรายได้

นายคณวัฒน์กล่าวว่าสำหรับปัญหาการใช้บริการโทรศัพท์มือถือของประชาชนที่ยังได้รับความเดือดร้อนจากการโทร.ข้ามเครือข่ายลำบากในช่วงตอนเย็นที่มีการใช้งานหนาแน่น กระทรวงไอซีทีเห็นว่าถึงแม้ทีโอทีจะมีการลงทุนขยายวงจรเชื่อมโยงกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้ง 3 รายคือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิสหรือเอไอเอส บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นหรือดีแทค และบริษัท ทีเอออเร้นจ์ โดยให้ทุกรายต่อผ่านทีโอทีทั้งหมดแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่น่าจะสามารถแก้ปัญหาการโทร.ไม่ติดได้ เพราะการโอนทราฟิกหรือสัญญาณโทรศัพท์ทั้งหมดมาผ่านทีโอทีอาจทำให้เกิดการกระจุกตัวและอาจเกิดปัญหาเหมือนเดิม

ดังนั้นกระทรวงไอซีทีจึงมีนโยบายให้โอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือทั้ง 3 ราย สามารถต่อเชื่อมวงจรโดยตรงได้ เพื่อประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้บริการเป็นหลัก และในอนาคตเมื่อมีการนำเรื่องค่าเชื่อมโครงข่ายมาใช้ ก็จะยิ่งทำให้การใช้งานได้สะดวกมากขึ้นเพราะโอเปอเรเตอร์ด้านรับสายก็จะมีรายได้และพร้อมลงทุนวงจรเชื่อมต่อ

"ถึงแม้จะให้ต่อผ่านทีโอที แต่การต่อตรงระหว่างโอเปอเรเตอร์ก็จำเป็น และถือเป็นประโยชน์กับผู้ใช้บริการโดยรวม ผมไม่เห็นความจำเป็นที่เมื่อต่อผ่านทีโอทีแล้วจะต้องไม่อนุญาตให้เอกชนต่อตรงกันเอง"

ก่อนหน้านี้นายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอที มีความเห็นว่าการต่อเชื่อมตรงระหว่างโอเปอเรเตอร์เป็นเรื่องที่ผิดสัญญาร่วมการงาน และถือว่าไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป หลังจากที่ทีโอทีดำเนินการขยายวงจรเชื่อมโยงทั้งหมด 2,140 วงจร ภายในเดือนส.ค.แบ่งเป็นวงจรระหว่างทีโอทีกับเอไอเอส 960 วงจร ทีโอทีกับดีแทคจำนวน 700 วงจรและทีโอที กับ ทีเอออเร้นจ์อีก 480 วงจรซึ่งจะทำให้สามารถรองรับปริมาณการโทร.ของทั้ง 3 โอเปอเรเตอร์พร้อมกันได้ 6.4 หมื่นเลขหมาย ซึ่งหมายถึงโอเปอเรเตอร์ทุกรายต้องตัดการเชื่อมต่อตรงระหว่างกันตั้งแต่เดือนก.ย.เป็นต้นไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us