Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 กรกฎาคม 2548
ไมโครซอฟท์กำไรพุ่ง 37 เปอร์เซ็นต์             
 


   
www resources

Microsoft Homepage

   
search resources

Microsoft Corporation
Computer




ผลประกอบการไตรมาส 4 ปีการเงินของไมโครซอฟท์นั้นสร้างความฮือฮาด้วยตัวเลขกำไรที่เพิ่มขึ้นถึง 37 เปอร์เซ็นต์ ผลพวงจากความแข็งแกร่งของยอดขายในหลายสายผลิตภัณฑ์ ไล่ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ตระกูลเซิร์ฟเวอร์ไปจนถึงธุรกิจวีดีโอเกมอย่าง Xbox

ตลอดไตรมาสที่สี่ของปีการเงินไมโครซอฟท์ ซึ่งสิ้นสุดที่ 30 มิถุยายนที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์รายงานว่ารายได้สุทธินั้นเพิ่มขึ้นเป็น 3,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 152,884 ล้านบาท) หรือ 34 เซนต์ต่อหุ้น (ราว 14.05 บาทต่อหุ้น) เพิ่มจาก 2,690 ล้านเหรียญ หรือ 25 เซนต์ต่อหุ้นในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ยอดขายรวมเพิ่มขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์เป็น 10,200 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจาก 9,300 ล้านเหรียญในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว

ตัวเลขรายได้สุทธิข้างต้นนี้หักค่าเงินปันผลมูลค่า 3 เซนต์ต่อหุ้น, ค่าธรรมเนียมด้านกฎหมาย 5 เซนต์ต่อหุ้น และค่าภาษี 9 เซนต์ต่อหุ้นแล้ว

ผลประกอบการที่ไมโครซอฟท์ประกาศนี้ใกล้เคียงกับ 33 เซนต์ต่อหุ้นที่นักวิเคราะห์ของธอมป์สัน ไฟแนนเชียล (Thomson Financial) และวอลล์สตรีท (Wall Street) คาดการณ์ไว้

กำไรก่อนหักภาษีช่วงไตรมาสที่ผ่านมาของไมโครซอฟท์อยู่ที่ 12,250 ล้านเหรียญ (506,170 ล้านบาท) หรือประมาณ 1.12 เหรียญต่อหุ้น (46.28 บาทต่อหุ้น) เพิ่มขึ้นเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์จาก 8,170 ล้านเหรียญ หรือ 75 เซนต์ต่อหุ้นในไตรมาสเดียวกันของปีงบประมาณที่แล้ว

รายได้รวมของไมโครซอฟท์ประจำปี 2005 อยู่ที่ 39,800 ล้านเหรียญ (1,644,536 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 36,840 ล้านเหรียญ (1,522,228 ล้านบาท) ในปีงบการเงิน 2004

"ปี 2005 เป็นปีที่ดีกว่าที่เราคาดการณ์ไว้" คริส ลิดเดิล (Chris Liddell) ประธานฝ่ายการเงินของไมโครซอฟท์กล่าวในแถลงการ

ความสำเร็จในไตรมาสนี้ของไมโครซอฟท์ ลิดเดิลยกความดีให้กับความต้องการในตลาดพีซีที่เพิ่มขึ้น, ยอดขายผลิตภัณฑ์และทูลส์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่เพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว เช่นเดียวกับยอดขายวีดีโอเกมและเกมคอนโซล Xbox รวมถึงจำนวนสมาชิกบริการเกมออนไลน์ในเครือไมโครซอฟท์

ยอดขายพีซีดัน

ยอดขายคอมพิวเตอร์พีซีที่ตื่นตัวเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รายรับในส่วนผลิตภัณฑ์ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) ของไมโครซอฟท์ขยายตัว วินโดวส์นั้นทำกำไรให้ไมโครซอฟท์ถึง 2,180 ล้านเหรียญ (ประมาณ 90,077.6 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 2,030 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว

วินโดวส์เป็นผลิตภัณฑ์หลักที่สร้างรายได้เข้ากระเป๋าไมโครซอฟท์โดยรวม 3,030 ล้านเหรียญ (125,199 ล้านบาท) เพิ่มจาก 2,760 ล้านเหรียญในไตรมาสเดียวกันของปี 2004

รองลงมาเป็นผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ออฟฟิศ (Office) เงินได้รวมจากโปรแกรมออฟฟิศอยู่ที่ 2,910 ล้านเหรียญ (120,241บาท) เพิ่มขึ้นจาก 2,840 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว

จุดที่น่าสังเกตหนึ่งคือแม้รายได้จากผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ออฟฟิศ (Office) จะเพิ่มขึ้น แต่กลับโกยกำไรไป 2,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 82,640 ล้านบาท) ลดลง 20 ล้านเหรียญจากไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว

กำไรที่ลดลงของโปรแกรมออฟฟิศนั้น แมทท์ รูซอฟฟ์ (Matt Rosoff) นักวิเคราะห์ที่จับตามองความเคลื่อนไหวของไมโครซอฟท์อย่างใกล้ชิดให้ข้อสังเกตว่าตัวเลขรายได้ที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรของไมโครซอฟท์นั้นเพิ่มขึ้น รายได้ที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรเป็นเงินที่บริษัทจะไม่นำมาคำนวณและเชื่อว่าจะเกิดเป็นกำไรในภายภาคหน้า โดยลำพังโปรแกรมออฟฟิศตัวเดียว ทำให้รายได้ที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรของไมโครซอฟท์เพิ่มขึ้นจาก 2,270 ล้านเหรียญในไตรมาสที่สามมาเป็น 2,810 ล้านเหรียญในไตรมาสที่สี่

"มันเพิ่มขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด" รูซอฟฟ์กล่าว "นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับไมโครซอฟท์ เพราะมันเป็นอุปสรรค์ต่อการเติบโตของไมโครซอฟท์"

ขาดทุนน้อยลง

สัดส่วนยอดขายของ Xbox กว่า 22 เปอร์เซ็นต์มีส่วนช่วยให้ปัญหาการขาดทุนของแผนกธุรกิจโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์ลดน้อยลง เหลือ 179 ล้านเหรียญ จากเดิม 340 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว

"ผมคิดว่า โมเดลุรกิจของไมโครซอฟท์จะหันไปหนใจที่ธุรกิจเกมคอนโซลมากขึ้น" รูซอฟฟ์กล่าว "ไมโครซอฟท์จำหน่ายเกมได้มากกว่าผลิตภัณฑ์เครื่องเล่นเกมคอนโซล นี่เป็นโมเดลธุรกิขจองแท้ ซึ่งอาจจะแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์นั้นแพลงเกินกว่าที่ตลาดจะยอมรับได้"

ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์พกพาของไมโครซอฟท์นั้นขยายตัวเช่นกัน ตัวเลขรายรับเพิ่มขึ้น 39 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ตัวเลขการขาดทุนลดลงเหลือ 14 ล้านเหรียญ จากเดิม 39 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว

"ผมไม่ประหลาดใจเลยถ้าธุรกิจซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์พกพาของไมโครซอฟท์จะสามารถทำกำไรในไม่ช้านี้" โจ วิลคอกซ์ (Joe Wilcox) นักวิเคราะห์จากจูปิเตอร์รีเสิร์ช (Jupiter Research) กล่าว

ด้านกำไรจากผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์และซอฟต์แวร์ทูลทั้งหลาย เพิ่มขึ้นเป็น 800 ล้านเหรียญในไตรมาสนี้ จาก 608 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว

นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังได้คาดการณ์ตัวเลขผลประกอบการของปีการเงินประจำปี 2006 ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายนปี 2006 ด้วย โดยระบุว่ากำไรของไมโครซอฟท์จะอยู่ที่ 1.27 ถึง 1.32 เหรียญต่อหุ้น หรือประมาณ 52.48 ถึง 54.54 บาท บนรายรับรวม 43,700 ล้านเหรียญถึง 44,500 ล้านเหรียญ ราว 1,805,684 ถึง 1,838,740 ล้านบาท

ส่วนในไตรมาสที่จะถึงนี้ (สิ้นสุดที่ 30 กันยายน 2005) คาดว่ากำไรของไมโครซอฟท์จะอยู่ที่ 29 ถึง 31 เซนต์ต่อหุ้น หรือประมาณ 11.98-12.81 บาท บนรายรับรวม 9,700 ล้านเหรียญถึง 9,800 ล้านเหรียญ ราว 400,804-404,936 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us