"มหาจำลอง" นำทัพม็อบเบียร์ช้างร่วม 20,000 คน บุก "ก.ล.ต.-ตลท." ขอให้ยกเลิกมติคณะกรรมการ ก.ล.ต. ปี 2538 ที่เปิดทางเบียร์ช้างระดมทุน นำกว่า 6 หมื่นรายชื่อ ยื่นต่อรัฐสภาเสนอร่าง "กฎหมายควบคุมการจดทะเบียนและซื้อขายหลักทรัพย์ของกิจการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่" ด้าน "วิจิตร" ประธานตลาดหุ้น ยินดีรับหนังสือค้านไว้พิจารณา แต่สุดท้ายต้องยึดตามข้อกฎหมายและระเบียบเป็นหลัก ส่วนบลจ.ทหารไทย ชี้หุ้นขนาดใหญ่เข้าจดทะเบียนช่วยให้ตลาดหุ้นโต รายได้บริษัทจดทะเบียนควรเท่าจีดีพีประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานวานนี้ (20 ก.ค.) เวลา 8.30 น.กลุ่มผู้คัดค้านบริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจส์ จำกัด (มหาชน) หรือ เบียร์ช้าง เข้าตลาดหุ้น นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, พล.อ.อ.วีระวุธ ลวะเปารยะ และองค์กรต่างๆประกอบด้วย 128 องค์กร เครือข่ายงดเหล้า, เครือข่ายภาคประชาชน, ตัวแทนผู้นำนิสิตนักศึกษา 50 สถาบัน, สมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชุมชนไทย, สมาคมผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลแห่ง ประเทศไทย, คณะสงฆ์, ผู้นำศานาอิสลาม, ผู้นำศาสนาคริสต์, เครือข่ายเยาวชนคนรักชาติ รวมกว่า 20,000 คน เดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และตัวแทนรัฐบาล โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นคณะสงฆ์ 3,000 รูป

ทั้งนี้สาระสำคัญในหนังสือที่กลุ่มผู้คัดค้านยื่นต่อ ก.ล.ต. คือ ให้พิจารณายกเลิกมติคณะกรรมการ ก.ล.ต. ปี 2538 ที่อนุญาตให้ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถกระจายหุ้นให้แก่ประชานชนได้ และมีมติห้ามธุรกิจประเภทดังกล่าวกระจายหุ้นให้ประชานชนทั่วไปได้ โดยมีนางนัฐญา นิยมานุสรณ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเลขาธิการ ก.ล.ต. เป็นผู้รับหนังสือคัดค้านดังกล่าว

จากนั้นเดินทางไปที่ตลาดหลักทรัพย์ฯในเวลา 11.00 น.โดยประมาณ เพื่อไม่ให้ตลาดหลักทรัพย์ฯอนุมัติหุ้นเบียร์ช้างเข้า ตลท.

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ประธานกองทัพธรรมมูลนิธิ แกนนำคัดค้าน เปิดเผยว่า การรวมตัวเพื่อคัดค้านในครั้งนี้ ก็เพื่อยืนยันเสียงเรียกร้องของประชาชนที่คัดค้านการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของบริษัทผู้ผลิตเหล้า เบียร์ บุหรี่ โดยหลังจากการเรียกร้องให้มีการยกเลิกการนำบริษัทในกลุ่มดังกล่าวเข้าจดทะเบียนจนส่งผลให้คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯมีมติเลื่อนการพิจารณารับบริษัทธุรกิจต้องห้ามเข้าจดทะเบียนอย่างไม่มีกำหนด

อย่างไรก็ตาม บริษัทดังกล่าวยังมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนล่าสุดได้มีข่าวเรื่องการยื่นข้อมูลเพื่อให้มีการพิจารณาแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) กลุ่มผู้คัดค้านจึงได้มีการรวมกลุ่มเพื่อแสดงพลังในการคัดค้าน นอกจากนี้ยังได้ มีการรวบรวมรายชื่อผู้คัดค้าน เพื่อร่วมเสนอรายชื่อเพื่อขอเสนอร่าง "กฎหมายควบคุมการจดทะเบียนและซื้อขายหลักทรัพย์ของกิจการเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์และบุหรี่" โดยล่าสุดได้มีการรวบรวมรายชื่อผู้คัดค้านได้แล้ว 63,942 รายชื่อ เราจะไม่หยุดเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าวหาก ยังมีการดำเนินต่อไป เราจะหยุดก็ต่อเมื่อพวกท่านหยุด" พลตรีจำลองกล่าว

พลอากาศเอกวีระวุธ ลวะเปารยะ ประธานสหพันธ์รวมใจไทยทั้งชาติ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่บริษัทดังกล่าวต้องการเข้าตลาดหุ้นไทยก็เพราะต้องการกำแพงมนุษย์ ซึ่งถ้าหากบริษัทดังกล่าวจะไป จดทะเบียนในต่างประเทศกลุ่มผู้คัดค้านก็คงไม่เข้าไปคัดค้านแต่จะมีการรณรงค์ในเรื่องดังกล่าวต่อไป

"เราไม่เชื่อว่าคณะกรรมการตลท.จะกล้าพิจารณาแน่นอน เพราะจะเป็นการขัดแย้งกับความรู้สึกประชาชนจำนวนมาก ต่อจากนี้คงต้องรอความชัดเจนว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีท่าทีกับเรื่องดังกล่าวอย่างไร" ประธานสหพันธ์รวมใจไทยทั้งชาติกล่าว

ตัวแทนคณะสงฆ์ กล่าวว่า ที่ต้องมีการรวมตัวกันในวันนี้ เนื่องจากหากจะมีการรวมตัวในช่วงที่เข้าพรรษาจะยุ่งยากกว่า แม้ว่าจะมีข้ออนุญาตให้พระสงฆ์สามารถปฏิบัติกิจนอกวัดได้เป็นเวลา 7 วันก็ตาม

ทั้งนี้แม้เรื่องดังกล่าวพระสงฆ์ไม่ควรจะเข้ามาก้าวก่ายเกี่ยวกับเรื่องในทางโลก แต่ก็อยากให้ทางบริษัทหยุดการกระทำก่อน คณะสงฆ์จะไม่ประท้วงต่อหากบริษัทนำบริษัทไปจดทะเบียนในต่างประเทศ

"หากนำบริษัทไปจดทะเบียนในต่างประเทศ กลุ่มนักลงสถาบันก็จะเป็นกลุ่มต่างประเทศมากกว่าคนไทยก็จะได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของน้อยลง เราไม่อยากให้ประชาชนไทยร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจที่เกี่ยวกับอบายมุข" ตัวแทนคณะสงฆ์กล่าว

นายสัมพันธ์ เสริมชีพ นักวิชาการประจำคณะกรรมาธิการการปกครองวุฒิสภา กล่าวว่า ส่วนตัวมีความเชื่อว่าเสียงของประชาชนที่ร่วมกันคัดค้านในครั้งนี้น่าจะสามารถสะท้อนกระแสการต่อต้านได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งหากเรื่องดังกล่าวไม่มีการตอบรับที่ดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะมีการรวมกลุ่มเพื่อคัดค้านต่อไป

ส่วนกรณีที่หากบริษัทสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ จำนวนหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนทั่วไปเพียง 30% แสดงให้เห็นว่านักลงทุนรายย่อยก็ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องในเรื่องต่างๆได้ เพราะคะแนนเสียงมีน้อยกว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่มาก

ตลท.รับเรื่องค้าน "เบียร์ช้าง"

นายวิจิตร สุพินิจ ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรณีการยื่นหนังสือคัดค้านการเข้าจดทะเบียนของ บมจ. ไทยเบฟเวอร์เรจส์ ในทางปฏิบัติตลาดหลักทรัพย์ก็ต้องรับข้อเสนอของกลุ่มผู้คัดค้าน แต่ทุกอย่างคงต้องยึดกฎหมายและระเบียบของ ก.ล.ต.และ ตลท. ด้วย

"เท่าที่ฟังมาเบียร์ช้างได้ยื่นไฟลิ่งต่อตลท. และก.ล.ต.แล้ว และทุกอย่างคงต้องดำเนินไปตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ซึ่งหลักเกณฑ์ของตลท.ก็ใกล้เคียงกับสำนักงานก.ล.ต." ประธานคณะกรรมการตลท.กล่าว

นางภัทรียา เบญจพลชัย รองผู้จัดการตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตัวแทนตลท.ผู้รับหนังสือคัดค้าน กล่าวว่า หลังจากรับหนังสือคัดค้านจากตัวแทนกลุ่มผู้คัดค้าน จะมีการนำหนังสือดังกล่าว ให้ฝ่ายจัดการเป็นผู้พิจารณาอีกครั้งว่าจะมีการส่งเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์หรือไม่ ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการพิจารณาก่อนจะได้ข้อสรุปต่อไป

บลจ.ยังหวังหุ้นยักษ์เข้าตลท.

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด กล่าวว่า การที่จะมีหุ้นบริษัทขนาดใหญ่รวมถึงรัฐวิสาหกิจจะเข้าจดทะเบียนนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อภาคการลงทุน เนื่องจากจะช่วงเพิ่มมูลค่าตลาดรวม (มาร์เกตแคป) ให้ตลาดหุ้นไทย ซึ่งจะส่งให้น้ำหนักการลงทุนของ MSCI อาจจะมีการปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น

นอกจากนี้การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะยังช่วยให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้นทั้งในเรื่องระบบบัญชี ภาษี เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นในต่างประเทศ รายได้ของบริษัทจดทะเบียนจะมีค่าเท่ากับหรือมากกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะสะท้อนให้เห็นภาวะเศรษฐกิจของประเทศ

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยรายได้ของบริษัทจดทะเบียนยังน้อยมากเมื่อเทียบกับจีดีพีประเทศ ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทที่มีขนาดใหญ่ในประเทศยังมีอีกหลายบริษัทที่ยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งหากบริษัทเหล่านั้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยก็จะเป็นเรื่องที่ดี

ขณะเดียวกัน ในเวลา 14.30 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมด้วยประชาชน 100 คน ได้นำบัญชีรายชื่อของประชาชนทั่วประเทศประมาณ 63,000 คน ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการจดทะเบียนฯ ยื่นต่อนายสุชน ชาลีเครือ รองประธานรัฐสภา ที่มารับเรื่องแทนนายโภคิน พลกุล ประธานรัฐสภา

ด้านนายสุชนกล่าวว่า ในฐานะที่รักษาการประธานรัฐสภาจะนำรายชื่อส่งไปยังฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาให้ตรวจสอบ โดยเป็นเรื่องที่ดีที่ประชาชนได้ทำตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 โดยเข้าชื่อ 50,000 รายชื่อเสนอกฎหมาย ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีของประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ

พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ ผู้บังคับการตำรวจ นครบาล 5 กล่าวว่า การดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมวานนี้ มีตำรวจเข้าสังเกตการณ์และอำนวยความสะดวกประมาณ 800 คน จากกองบังคับการตำรวจนครบาล 5, 6, 7, 8, 9 และตำรวจในพื้นที่ประมาณ 60 นาย ซึ่งการชุมนุมถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นกลุ่มศาสนาเป็นหลัก ซึ่งประเมินกลุ่มผู้ชุมนุมที่ร่วมคัดค้านประมาณ 7,000 คน โดยเรื่องดังกล่าวตำรวจมีการเตรียมการเพื่อรับมือมาก่อนหน้าประมาณ 2 วัน