เมื่อเดือนธันวาคมปี 1998 ราคาน้ำมันตกลงแตะระดับต่ำที่สุด ในรอบหลายทศวรรษ อาร์ชี ดับบลิว. ดันแฮม (Archie W. Dunham) ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโคโนโค อิงค์ (Conoco Inc.) บริษัทด้านพลังงานชั้นนำในสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจทำสิ่งที่นับว่าแปลก ประหลาดอย่างยิ่งในเวลานั้น กล่าวคือ แทน ที่จะปิดโรงงานหรือลดค่าใช้ จ่าย เขากลับลงทุนก้อนโตกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ดันแฮมตัดสินใจ อนุมัติโครงการพัฒนาผู้นำหลักสูตรเร่งรัด ที่ชื่อว่า เทรลเบลเซอร์ (Traiblazer) "ถึงราคาน้ำมันจะลงไปอยู ที่ 10 ดอลลาร์ ผมก็คิดว่าผมตัดสินใจถูก" ดันแฮมให้ความเห็น และ เสริมว่า "เราจะประสบความสำเร็จในระยะยาว ถ้าเราได้คนที่มีความรู้ความสามารถ"

แต่เดิมองค์กรธุรกิจมักถือว่าการศึกษาอบรมของผู้บริหารเป็นภาระ พิเศษนอกเหนือจากหน้าที่การงานประจำ แต่ทุกวันนี้การศึกษากลับกลาย เป็นอาวุธเชิงกลยุทธ์ ที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทุกคนต้องใช้ บริษัทธุรกิจ ชั้นนำของสหรัฐฯ ต่างมีข้อสรุปตรงกันแล้วว่า การลงทุนด้านบุคลากรคือ วิธีการที่ธุรกิจจะก้าวไปยืนอยู่แถวหน้า ทุกวันนี้สิ่งดึงดูดใจผู้บริหาร จึงไม่ใช่ การเสนอผลตอบแทนสูงๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการให้โอกาสผู้บริหารได้ พัฒนางานของตนด้วย ทั้งนี้ก็เพราะพนักงานทุกคนรู้แล้วว่าการศึกษาช่วยให้ พวกเขาก้าวหน้าในอาชีพการงาน

ผู้บริหารยังต้องมองหาหนทางในการบริหารการเปลี่ยนแปลงด้วย แนวโน้มเช่นนี้เป็นผลมาจากความหวาดกลัว ว่าตนจะล้าหลังในโลกแห่ง เทคโนโลยี ยิ่งกว่านั้น เทคโนโลยีไม่ได้เพียงแค่ผลักดันให้เกิดความต้องการการ ศึกษาเพิ่มเติมในหมู่นักบริหาร แต่ยังปฏิวัติวิธีการจัดการศึกษาอีกด้วย กล่าวคือ แต่เดิมนั้น องค์กรธุรกิจจะต้องส่งผู้บริหารไปเข้าอบรมในชั้นเรียน ตามสถาบันการศึกษาต่างๆ หรือไม่ก็จัดโครงการหรือ หลักสูตรฝึกอบรม ภายในหน่วยงาน แต่ตอนนี้ผู้บริหารกำลังมีทางเลือกใหม่มากขึ้นด้วยการใช้ อินเตอร์เน็ต สถาบันการศึกษา ที่เปิดสอนมาช้านานอย่างฮาร์วาร์ด บิสซิเนส สกูล และวาร์ตัน สกูลแห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียต่างก็ตระหนักว่าจะ ต้องปรับตัวตามเทคโนโลยี เพื่อแข่งขันกับสถาบันการศึกษาอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวก็มิได้มาจากสถาบันการศึกษา ทางธุรกิจชั้นนำ ที่เคยสนองตอบต่อความต้องการทางการศึกษาของผู้บริหาร ระดับสงมาตลอด ขณะนี้ โรงเรียนธุรกิจต่างๆ กำลังเผชิญหน้ากับคู่แข่งราย ใหม่ ซึ่งได้แก่บริษัทที่ปรึกษา บริษัทธุรกิจด้านการเรียนรู้โดยผ่านระบบเว็บ และผู้เชี่ยวชาญอิสระ ที่เสนอแนวทางการเรียนรู้แบบตลอดชีวิต ทางเลือก ที่ มากมายเช่น นี้ ทำให้ต้องมีการคัดเลือกเกิดขึ้น "ผมได้รับจดหมายเสนอเกี่ยว กับหลักสูตรการศึกษาของผู้บริหารถึงวันละหกฉบับ" สตู ฟรีดแมน ผู้ อำนวยการศูนย์พัฒนาผู้นำของฟอร์ด มอเตอร์ บอก "มันยากเหมือน กัน ที่จะประเมินคุณภาพของหลักสูตรพวกนี้"

ด้วยเหตุนี้เอง ปีนี้จึงเป็นปีแรก ที่ผลสำรวจเกี่ยวกับการศึกษาของผู้ บริหารของบิสซิเนสวีคจึงได้รวมเอาองค์กรเอกชน และองค์กร ที่ไม่แสวงหา กำไรไว้กับรายชื่อมหาวิทยาลัยทางด้านธ ุรกิจชั้นนำเก่าแก่ เพราะเล็งเห็นว่า แม้มหาวิทยาลัยทางด้านธุรกิจจะยังคงมีบทบาทสำคัญ แต่ไม่ได้หมายความ ว่าเป็นสถาบันประเภทเดียว ที่ให้บริการด้านนี้ นอกจากนั้น ยังขยายผล การสำรวจให้ครอบคลุมหน่วยงาน ที่ให้การศึกษาแก่ผู้บริหารถึง 63 แห่ง เพิ่มจากสถาบันภาครัฐ 35 แห่ง ที่เคยจัดอันดับในปี 1997 ส่วนผลสำรวจ หลักสูตรเอ็มบีเอสำหรับผู้บริหารก็เพิ่มขึ้นเป็น 100 สถาบัน มากกว่าเดิมถึง 39 แห่ง

ทิศทางดังกล่าวจึงแสดงให้เห็นโอกาสอันดีของบรรดานักบริหาร ข้อมูลพบว่าปีที่แล้วบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ ใช้เงินเฉลี่ยแล้ว 10 ล้านดอลลาร์ ในการพัฒนาบุคลากรระดับบริหาร ทั้งในรูปแบบภายในองค์กร และนอกองค์กร โดย 76% ของบริษัท ที่ตอบแบบสอบถามระบุว่าบริษัทได้ส่งผู้ บริหารเป็นจำนวนเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิมเข้าอบรมหลักสูตรทางด้านการ บริหารธุรกิจ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อห้าปีก่อน

โดยรวมแล้วค่าใช้จ่าย ที่เกี่ยวกับการศึกษา และฝึกอบรม ที่บริษัทชั้นนำ ของสหรัฐฯ ใช้จ่ายไปในปีที่แล้วคิดเป็นจำนวนถึง 16,500 ล้านดอลลาร์ สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 17% จากปีที่แล้ว ยิ่งกว่านั้น ยอดรายได้ในปี 1998-1999 ของสถาบัน 63 แห่งจากผลสำรวจ ก็มีรายได้เฉลี่ยราว 11.9 ล้านดอลลาร์