"เนวิน" สั่งกรมการค้าภายในเชิญสมาคมรองเท้า เครื่องหนัง และเครื่อง
สำอางให้ปากคำกรณีเซ็นทรัลบังคับให้เข้าสู่ระบบ RC วันที่ 8 ส.ค.นี้ เผยผลการพิจารณาในเบื้องต้นของคณะอนุกรรมการการแข่งขันทางการค้าพบว่าระบบ
RC ของเซ็นทรัลเข้าข่ายผูกขาดตลาด ผิดพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้ามาตรา 29
ชัดเจน เพราะไม่เปิดโอกาสให้ซัปพลายเออร์มีทางเลือก แฉอีกล่าสุดเซ็นทรัลบีบ
"สหพัฒน์" เข้าระบบ จากเดิมยอมให้ ส่งสินค้าช่วงกลางคืนได้ ส่งผลให้รายกลางและรายเล็กหมดทางเลือก
หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้พยายามเข้ามาจัดระบบการค้าปลีก ไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างร้านค้าปลีกรายใหญ
่กับร้านค้าปลีกรายย่อย แต่ผลการดำเนินการที่ผ่านมาหลายๆ ฝ่ายมองว่ากระทรวงพาณิชย์มีการเอนเอียง
เพราะเข้าไปจัดการปัญหาเฉพาะร้านค้าปลีกต่างชาติที่ได้มีการเอารัดเอาเปรียบผู้ผลิตสินค้า
(ซัปพลายเออร์) ของไทยเท่านั้น แต่กลับไม่มองว่าร้านค้าปลีกของไทยเองกลับเป็นผู้ที่ฉก
ฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบซัปพลายเออร์ไม่แพ้กัน
นายเนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีร้านค้าปลีกของไทยเอา
เปรียบซัปพลายเออร์ว่า กรมการค้า ภายใน ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการแข่งขันทางการค้า
ได้มีหนังสือไปยังห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับระบบผูกขาดการส่งสินค้าเข้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล
หรือการบังคับให้ซัปพลายเออร์ต้องส่งสินค้าที่ศูนย์เติมและกระจายสินค้า (RC)
ของเซ็นทรัลเพียงแห่งเดียว จากเดิมที่จัดส่งไปยังสาขาต่างๆ ของเซ็นทรัลได้แล้ว
และหลังจากที่เซ็นทรัลได้มีหนังสือตอบกลับ มา คณะอนุกรรมการฯ ได้มีการพิจารณาในการประชุมเมื่อวันที่
2 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเห็นว่าคำชี้แจงของเซ็นทรัลยังมีความไม่ชัดเจน เพราะเซ็นทรัลอ้างว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นการบังคับ
แต่เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับซัป-พลายเออร์ ขณะที่ซัปพลายเออร์ยืนยันว่าเซ็นทรัลบังคับ
และไม่ได้เปิดโอกาสให้มีทางเลือกแต่อย่างใด โดยเฉพาะซัปพลายเออร์รายกลางและเล็ก
ดังนั้น เพื่อให้ปัญหาดังกล่าว เกิดความชัดเจนขึ้น คณะอนุกรรม การฯ จึงมีมติให้กรมการค้าภายใน
เชิญซัปพลายเออร์ที่ร้องเรียนพฤติ-กรรมของเซ็นทรัลมาให้ปากคำกับคณะอนุกรรมการฯ
ได้แก่ สมาคมรองเท้าไทย สมาคมเครื่องหนังไทย และสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย
ในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ และเมื่อได้ข้อสรุปจากซัปพลายเออร์แล้ว จากนั้นจึงให้เชิญผู้บริหารเซ็นทรัลมาชี้แจงข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นคณะอนุกรรมการฯ เห็นว่า ระบบผูกขาดของเซ็นทรัลน่าจะเข้าข่ายมีความผิดตามพ.ร.บ.การแข่งขันทาง
การค้า มาตรา 29 ว่าด้วยการผูก ขาดทางการค้า เพราะไม่เปิดโอกาส ให้ซัปพลายเออร์เลือก
และค่าบริการที่เรียกเก็บจากซัปพลายเออร์ ยังเป็นการสร้างรายได้ให้เซ็นทรัลอีกด้วย
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า แม้ว่านายเนวินจะไม่ได้มีการระบุชัดเจนว่าระบบ
RC ของเซ็น ทรัลเป็นระบบผูกขาด และมีความผิดตามกฎ หมายจริง เพียงแต่ระบุคร่าวๆ
ว่าอาจจะเข้าข่ายมีความผิดตามมาตรา 29 แต่ผลจากการพิจารณา ของคณะอนุกรรมการฯ
ที่ผ่านมา พบว่าแม้เซ็นทรัลจะอ้างว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็น การบังคับ
แต่ซัปพลายเออร์โดยเฉพาะรายกลาง และเล็กเห็นว่าเซ็นทรัลไม่เปิดโอกาสให้มีทางเลือก
เพราะที่ผ่านมาซัปพลายเออร์รายกลางและเล็กจะจัดส่งสินค้าไปยังสาขาต่างๆ ของเซ็นทรัลและโรบินสันได้เอง
แต่หากมาใช้บริการของ RC จะเป็นการเพิ่มต้นทุนอย่างมาก
ขณะที่ซัปพลายเออร์รายใหญ่ แม้ในช่วงแรกของการเริ่มใช้ระบบ RC จะไม่ได้บังคับให้เข้าสู่ระบบ
แต่ในขณะนี้เซ็นทรัลได้เริ่มเข้มงวดกับการใช้ระบบ RC อย่างจริงจังแล้ว กล่าวคือ
ได้เริ่มบังคับให้รายใหญ่ต้องเข้าสู่ระบบ โดยออก มาตรการห้ามให้รายใหญ่ที่จะส่งสินค้าเองส่งสินค้าในเวลาที่เซ็นทรัลอนุญาตไว้
ยกตัวอย่างเช่น สหพัฒน์ เดิมเซ็นทรัลให้ส่งสินค้าเองได้ในเวลากลางคืนเท่านั้น
แต่ขณะนี้ ห้ามให้ส่งในเวลากลางคืนแล้ว ซึ่งหากสหพัฒน์ ไม่สามารถส่งสินค้าได้ในเวลากลางคืนก็จะไม่สามารถส่งสินค้าให้เซ็นทรัลได้
เท่ากับว่าจะต้องเข้าสู่ระบบเท่านั้น จึงจะนำสินค้าเข้าไปขายในเซ็นทรัลได้
"การกระทำดังกล่าวเป็นการบังคับให้รายใหญ่ต้องเข้าระบบ ขณะเดียวกัน
เมื่อรายใหญ่เข้าระบบแล้ว รายกลางและเล็ก ที่ไม่มีอำนาจต่อ รองก็จำเป็นต้องเข้าระบบตาม
และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งเท่ากับว่าเซ็นทรัลผิดมาตรา 29 แห่งพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้าจริง
เพราะใช้อำนาจที่มีอยู่ผูกขาดและยังเป็นการใช้อำนาจบังคับให้ซัปพลายเออร์ต้องปฏิบัติตาม"แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในประเด็นนี้ ทางเซ็นทรัลได้ มีหนังสือชี้แจงมายังกรมการค้าภายในมีใจความ
ว่าเซ็นทรัลได้เริ่มใช้ระบบ RC ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2545 แต่ได้เริ่มทดลองใช้มาตั้งแต่ปลายปี
2542 ซึ่งมีซัปพลายเออร์เข้าสู่ระบบ 5 รายและให้บริการฟรี 30 ราย ในเดือนสิงหาคม
2544 มีซัปพลายเออร์เข้าสู่ระบบ 800-900 ราย ส่วนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม
2545เป็นต้นไป เซ็นทรัลต้องการให้เข้าสู่ระบบมากขึ้น เพื่อให้ซัปพลาย-เออร์มีต้นทุนในการจัดส่งสินค้าต่ำที่สุด
โดยระบบ RC นั้น จะให้ซัปพลายเออร์ส่งสินค้ามาที่จุดกระจายสินค้าของบริษัท
เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท เซ็นทรัล รีเทลจะกระจายสินค้าไปยังสาขาต่างๆ
ทั่วประ เทศ โดยจ้างบริษัท เดวิด โฮลดิ้ง เป็นผู้ขนส่งสินค้าให้ ซึ่งระบบ
RC จะรวมค่าบริการต่างๆ ได้แก่ ค่าขนส่งสินค้าทุกสาขา ค่าบริการรับสินค้า
คืนจากสาขา ค่าบริการส่งสินค้าแลกแถมเมื่อมีโปรโมชั่น โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายและทำประกันภัยสินค้าที่ราคาทุน
100% ซึ่งจะทำให้สินค้าของซัปพลายเออร์มีการหมุนเวียนเร็วขึ้น และไม่ต้อง
สต็อกสินค้าไว้มาก ซึ่งจะบริหารสต็อกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ เซ็นทรัลยังย้ำว่า ไม่ได้บังคับให้ซัปพลายเออร์ทุกรายต้องเข้าระบบ
แต่ได้แนะนำระบบและมีการเจรจาหารือกัน ซึ่งขณะนี้มีซัปพลายเออร์ที่ตอบรับการใช้บริการแล้ว
1,367 ราย แสดงความจำนงจะเข้าร่วม 100 ราย อยู่ระหว่างเจรจา 50 ราย แสดงความจำนงที่จะส่งเองในเวลากลางคืน
650 ราย เช่น สหพัฒน์ และแสดงความจำนงจะส่งเองในเวลากลางวัน อีก 50 ราย เช่น
ผู้ผลิตสินค้าชิ้นเล็กราคาแพง เช่น เครื่องประดับ นาฬิกา เป็นต้น จากซัปพลายเออร์ที่เซ็นทรัลและโรบินสันทำการค้าด้วยทั้งสิ้น
2,217 ราย และมีสินค้าที่ซื้อขายกันประมาณ 200,000 รายการ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร
เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องแก้ว เครื่องประดับ เครื่องสำอาง เป็นต้น