Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 กรกฎาคม 2548
โทลล์เวย์ขายคืนรัฐ 13 บาท/หุ้น หลังพิงฝาพร้อมเจรจาทุกกรณี             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ทางยกระดับดอนเมือง, บมจ.
Transportation




โทลล์เวย์พร้อมเจรจาขายคืนตั้งราคา 13 บาทต่อหุ้น "สมบัติ" เผยทุน10บาท ขอค่าดอกเบี้ยอีก 3% ยันคำนวณความเสียหายรัฐต้องขยายสัมปทานให้อีก 17 ปี ชี้ยอมรับ 8 ปีได้แต่ต้องฟ้องเรียกค่าเสียหาย กรณีรัฐผิดสัญญาที่ผ่านมา ยอมยืดเก็บ 20 บาท อีก 30 วันถึง 19 ส.ค. เพื่อรอผลเจรจาซื้อคืนกับขยายสัมปทาน ลั่นไม่ยุติเก็บราคาเดิมและขอชดเชยอีก 150 ล้านบาท เตรียมลงนามปรับโครงสร้างหนี้ 25 ก.ค.นี้

นายสมบัติ พานิชชีวะ กรรมการอำนวยการ บริษัททางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ วานนี้ (18 ก.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติให้ยืดเวลาทดลองการจัดเก็บค่าผ่านทางโครงการดอนเมืองโทลล์เวย์ออกไปอีก 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.-19 ส.ค. 2548 นี้ตั้งแต่เวลา 00.01 น. (เที่ยงคืนวันที่ 18 ส.ค.2548) ในอัตรา 20 บาทตลอดสาย เพื่อให้ภาครัฐได้ศึกษาและเจรจากับทางบริษัท ส่วนข้อตกลงการปรับโครงสร้างหนี้กับกลุ่มเจ้าหน้าที่ได้ข้อยุติในหลักการแล้วนั้นจะลงนามในสัญญาได้ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ "

เรื่องโทลล์เวย์มีประเด็นที่เกี่ยวโยงกัน คือ เรื่องการเงินซึ่งตอนนี้ปรับโครงสร้างหนี้ยุติแล้ว จะเหลือเรื่องค่าผ่านทางและอายุสัมปทานซึ่งหากผลเจรจาไม่สามารถตกลงกันได้ ทางบริษัทฯ จำเป็นต้องเรียกร้องให้รัฐจ่ายเงินชดเชยให้ในส่วนที่พ้นจากช่วงทดลองปรับค่าผ่านทาง 3 เดือนแรก คือตั้งแต่ 19 มี.ค. 2548 - 19 ส.ค.2548 เป็นเวลา 5 เดือน โดยเสนอให้รัฐชดเชยให้วันละ 1 ล้านบาท คิดเป็นเงินประมาณ 150 ล้านบาท"

ทั้งนี้ แนวทางของบริษัทฯ ในขณะนี้ คือ 1. เสนอให้ภาครัฐพิจารณาขยายอายุสัมปทานเพิ่มอีก 17 ปี รวมกับอายุสัมปทานที่เหลืออยู่จากสัญญาปัจจุบันเป็น 34 ปี โดยบริษัทฯ จะเก็บค่าผ่านทางในอัตรา 20 บาทตลอดสาย ถึงวันที่ 21 ธ.ค. 2552 และตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 2548 จะเก็บค่าผ่านทางช่วงอนุสรณ์สถาน-รังสิตอีก 10 บาท จนถึง 21 ธ.ค.2552 และตั้งแต่ 22 ธ.ค.2552 เป็นต้นไปทาง บริษัทฯ มีสิทธิเก็บค่าผ่านทางสูงสุดตามสัญญาไปจนสิ้นสุดอายุสัมปทาน 2.กรณีรัฐต้องการให้ขยายอายุสัมปทาน 8 ปี บริษัทฯ ต้องต่อรองคือ รัฐต้องไม่ขอรอนสิทธิเรื่องการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐ

3. แนวทางการซื้อคืนโครงการซึ่งทางบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นพร้อมที่จะเจรจา โดยในส่วนของผู้ถือหุ้นขอขายคืนในอัตราเท่ากับเงินลงทุนเดิมหรือหุ้นละ 10 บาท ในส่วนของตนที่มีอยู่กว่า 226 ล้านหุ้น จะเสนอขายในราคา 13 บาทต่อหุ้น หรือประมาณ 2,600 ล้านบาท โดยคำนวณมาจากทุน 10 บาท บวกภาระดอกเบี้ยอีกปีละ 3% จากที่ได้ลงทุนมาแล้ว ซึ่งหากรัฐต้องการซื้อคืนจริงตนก็พร้อมเจรจา

นายสมบัติกล่าวว่า การปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทฯ นั้น ถือเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ทางธุรกิจปกติสำหรับลูกหนี้ที่ดีมิได้ปรับตามเจตนารมณ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2547 ที่นำไปสู่การปรับลดค่าผ่านทาง และเป็นข้อตกลงที่กลุ่มเจ้าหนี้ได้สรุปไว้เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2547 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ข้อเสนอของบริษัทเป็นข้อเสนอที่ผู้ถือหุ้นหรือผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ต่ำมากคือ IRR 9% นับจากวันลงนามในสัญญา และจะได้รับเงินปันผลหลังจากปีที่ 12 ไปแล้ว ในขณะที่ผลตอบแทนการลงทุนทั่วไป จะต้องไม่ต่ำกว่า 14% หากรัฐพิจารณาให้มีการยืดอายุสัมปทานเพิ่มอีก 17 ปี บริษัทฯ ยินดีที่จะยกเลิกสิทธิในการฟ้องร้องทางรัฐที่ทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากการที่รัฐอนุมัติให้มีการดำเนินโครงการอื่นที่มีผลต่อรายได้ของโครงการ "

หาก 1 เดือนจากนี้ ยังเจรจาไม่จบก็อยู่ที่เหตุผล หากคุยกันไม่ได้ก็ต้องกลับไปเก็บตามสัญญา แต่ผมพร้อมเจรจาและยืดหยุ่นข้อเสนอตามสภาพ แต่หากรัฐจะขยายอายุสัมปทานให้ 8 ปี ก็ต้องให้สิทธิ์ผมอนุญาโตตุลาการเพราะรัฐอยากให้เก็บราคาที่ทดลองนี้ไป 5 ปี เสียหายเท่าไรชดเชยให้เป็นอายุสัมปทาน"

สำหรับแผนปรับโครงสร้างหนี้กำหนดให้ชำระเงินต้นทั้งหมดคืนภายใน 15 ปี โดยคิดดอกเบี้ยในอัตรา MLR -2% เป็นเวลา 4 ปี และหลังจากนั้นจะคิดในอัตรา MLR-0.5% ในช่วง 4 ปีแรก ทำให้บริษัทฯได้ลดค่าดอกเบี้ยปีละ 200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 800 ล้านบาท

โดยทางเจ้าหนี้ยังพร้อมที่จะให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ได้ถ้ารายได้ของบริษัทฯ น้อยกว่าประมาณการมาก จนไม่สามารถชำระหนี้ได้ โดยเฉพาะผลจากการย้ายสนามบินดอนเมือง "

สุริยะให้รอผลกรรมการอีก 1 เดือน

ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า แนวทางข้อยุติเรื่องนี้จะต้องให้ทางคณะกรรมการที่จะจัดตั้งขึ้นเป็นผู้พิจารณา คาดว่าจะได้ข้อยุติภายใน 1 เดือน ส่วนข้อเสนอที่ทางบริษัทฯ จะขอยืดอายุสัมปทานออกไปอีก 17 ปี อาจเป็นไปได้ยาก แต่จะต้องขึ้นอยู่กับการเจรจารวมทั้งเรื่องการซื้อโครงการคืนก็เป็นหนึ่งแนวทางในการเจรจาครั้งนี้ด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us