|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โทลล์เวย์พร้อมเจรจาขายคืนตั้งราคา 13 บาทต่อหุ้น "สมบัติ" เผยทุน10บาท ขอค่าดอกเบี้ยอีก 3% ยันคำนวณความเสียหายรัฐต้องขยายสัมปทานให้อีก 17 ปี ชี้ยอมรับ 8 ปีได้แต่ต้องฟ้องเรียกค่าเสียหาย กรณีรัฐผิดสัญญาที่ผ่านมา ยอมยืดเก็บ 20 บาท อีก 30 วันถึง 19 ส.ค. เพื่อรอผลเจรจาซื้อคืนกับขยายสัมปทาน ลั่นไม่ยุติเก็บราคาเดิมและขอชดเชยอีก 150 ล้านบาท เตรียมลงนามปรับโครงสร้างหนี้ 25 ก.ค.นี้
นายสมบัติ พานิชชีวะ กรรมการอำนวยการ บริษัททางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ วานนี้ (18 ก.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติให้ยืดเวลาทดลองการจัดเก็บค่าผ่านทางโครงการดอนเมืองโทลล์เวย์ออกไปอีก 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.-19 ส.ค. 2548 นี้ตั้งแต่เวลา 00.01 น. (เที่ยงคืนวันที่ 18 ส.ค.2548) ในอัตรา 20 บาทตลอดสาย เพื่อให้ภาครัฐได้ศึกษาและเจรจากับทางบริษัท ส่วนข้อตกลงการปรับโครงสร้างหนี้กับกลุ่มเจ้าหน้าที่ได้ข้อยุติในหลักการแล้วนั้นจะลงนามในสัญญาได้ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ "
เรื่องโทลล์เวย์มีประเด็นที่เกี่ยวโยงกัน คือ เรื่องการเงินซึ่งตอนนี้ปรับโครงสร้างหนี้ยุติแล้ว จะเหลือเรื่องค่าผ่านทางและอายุสัมปทานซึ่งหากผลเจรจาไม่สามารถตกลงกันได้ ทางบริษัทฯ จำเป็นต้องเรียกร้องให้รัฐจ่ายเงินชดเชยให้ในส่วนที่พ้นจากช่วงทดลองปรับค่าผ่านทาง 3 เดือนแรก คือตั้งแต่ 19 มี.ค. 2548 - 19 ส.ค.2548 เป็นเวลา 5 เดือน โดยเสนอให้รัฐชดเชยให้วันละ 1 ล้านบาท คิดเป็นเงินประมาณ 150 ล้านบาท"
ทั้งนี้ แนวทางของบริษัทฯ ในขณะนี้ คือ 1. เสนอให้ภาครัฐพิจารณาขยายอายุสัมปทานเพิ่มอีก 17 ปี รวมกับอายุสัมปทานที่เหลืออยู่จากสัญญาปัจจุบันเป็น 34 ปี โดยบริษัทฯ จะเก็บค่าผ่านทางในอัตรา 20 บาทตลอดสาย ถึงวันที่ 21 ธ.ค. 2552 และตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 2548 จะเก็บค่าผ่านทางช่วงอนุสรณ์สถาน-รังสิตอีก 10 บาท จนถึง 21 ธ.ค.2552 และตั้งแต่ 22 ธ.ค.2552 เป็นต้นไปทาง บริษัทฯ มีสิทธิเก็บค่าผ่านทางสูงสุดตามสัญญาไปจนสิ้นสุดอายุสัมปทาน 2.กรณีรัฐต้องการให้ขยายอายุสัมปทาน 8 ปี บริษัทฯ ต้องต่อรองคือ รัฐต้องไม่ขอรอนสิทธิเรื่องการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐ
3. แนวทางการซื้อคืนโครงการซึ่งทางบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นพร้อมที่จะเจรจา โดยในส่วนของผู้ถือหุ้นขอขายคืนในอัตราเท่ากับเงินลงทุนเดิมหรือหุ้นละ 10 บาท ในส่วนของตนที่มีอยู่กว่า 226 ล้านหุ้น จะเสนอขายในราคา 13 บาทต่อหุ้น หรือประมาณ 2,600 ล้านบาท โดยคำนวณมาจากทุน 10 บาท บวกภาระดอกเบี้ยอีกปีละ 3% จากที่ได้ลงทุนมาแล้ว ซึ่งหากรัฐต้องการซื้อคืนจริงตนก็พร้อมเจรจา
นายสมบัติกล่าวว่า การปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทฯ นั้น ถือเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ทางธุรกิจปกติสำหรับลูกหนี้ที่ดีมิได้ปรับตามเจตนารมณ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2547 ที่นำไปสู่การปรับลดค่าผ่านทาง และเป็นข้อตกลงที่กลุ่มเจ้าหนี้ได้สรุปไว้เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2547 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ข้อเสนอของบริษัทเป็นข้อเสนอที่ผู้ถือหุ้นหรือผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ต่ำมากคือ IRR 9% นับจากวันลงนามในสัญญา และจะได้รับเงินปันผลหลังจากปีที่ 12 ไปแล้ว ในขณะที่ผลตอบแทนการลงทุนทั่วไป จะต้องไม่ต่ำกว่า 14% หากรัฐพิจารณาให้มีการยืดอายุสัมปทานเพิ่มอีก 17 ปี บริษัทฯ ยินดีที่จะยกเลิกสิทธิในการฟ้องร้องทางรัฐที่ทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากการที่รัฐอนุมัติให้มีการดำเนินโครงการอื่นที่มีผลต่อรายได้ของโครงการ "
หาก 1 เดือนจากนี้ ยังเจรจาไม่จบก็อยู่ที่เหตุผล หากคุยกันไม่ได้ก็ต้องกลับไปเก็บตามสัญญา แต่ผมพร้อมเจรจาและยืดหยุ่นข้อเสนอตามสภาพ แต่หากรัฐจะขยายอายุสัมปทานให้ 8 ปี ก็ต้องให้สิทธิ์ผมอนุญาโตตุลาการเพราะรัฐอยากให้เก็บราคาที่ทดลองนี้ไป 5 ปี เสียหายเท่าไรชดเชยให้เป็นอายุสัมปทาน"
สำหรับแผนปรับโครงสร้างหนี้กำหนดให้ชำระเงินต้นทั้งหมดคืนภายใน 15 ปี โดยคิดดอกเบี้ยในอัตรา MLR -2% เป็นเวลา 4 ปี และหลังจากนั้นจะคิดในอัตรา MLR-0.5% ในช่วง 4 ปีแรก ทำให้บริษัทฯได้ลดค่าดอกเบี้ยปีละ 200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 800 ล้านบาท
โดยทางเจ้าหนี้ยังพร้อมที่จะให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ได้ถ้ารายได้ของบริษัทฯ น้อยกว่าประมาณการมาก จนไม่สามารถชำระหนี้ได้ โดยเฉพาะผลจากการย้ายสนามบินดอนเมือง "
สุริยะให้รอผลกรรมการอีก 1 เดือน
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า แนวทางข้อยุติเรื่องนี้จะต้องให้ทางคณะกรรมการที่จะจัดตั้งขึ้นเป็นผู้พิจารณา คาดว่าจะได้ข้อยุติภายใน 1 เดือน ส่วนข้อเสนอที่ทางบริษัทฯ จะขอยืดอายุสัมปทานออกไปอีก 17 ปี อาจเป็นไปได้ยาก แต่จะต้องขึ้นอยู่กับการเจรจารวมทั้งเรื่องการซื้อโครงการคืนก็เป็นหนึ่งแนวทางในการเจรจาครั้งนี้ด้วย
|
|
|
|
|