Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน1 สิงหาคม 2545
IBM เทคโอเวอร์ PricewaterhouseCoopers ในราคา 3.5 พันล้านเหรียญ             
 


   
www resources

IBM Homepage
PricewaterhouseCoopers Homepage

   
search resources

ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส ประเทศไทย, บจก.
ไอบีเอ็ม ประเทศไทย, บจก.




เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทไอบีเอ็ม (IBM) เปิดเผยว่า มีแผนเข้าซื้อกิจการบริษัทไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สคอนซัลติ้ง (PricewaterhouseCoopers Consulting) ด้วยมูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.47 แสนล้านบาท) ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยยกระดับธุรกิจของไอบีเอ็มจากการจำหน่ายเพียงคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ ไปเป็นผู้ให้บริการด้านไอทีแก่ลูกค้าองค์กรในรูปของบริการแบบครบวงจร

การฟื้นตัวของไอบีเอ็มจากปัญหาลึกที่เกิดขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1990 เป็นผลจากการผสมผสานผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่เข้าด้วยกันเพื่อแก้ปัญหาเชิงธุรกิจให้กับลูกค้า ซึ่งบริการต่างๆเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินกลยุทธ์ของไอบีเอ็ม

"กลยุทธ์ด้านการแข่งขันของไอบีเอ็มคือ การผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อลูกค้า" สตีเฟ่น มิลูโนวิช (Steven Milunovich) นักวิเคราะห์จากเมอร์ริลลินช์ (Merrill Lynch) กล่าว "และการเข้าเทคโอเวอร์ของไอบีเอ็มในครั้งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวตามแนวทางดังกล่าว"

สำหรับไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส บริษัทบัญชีและที่ปรึกษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก การทำสัญญาในครั้งนี้เป็นวิธีแยกธุรกิจทั้งสองออกจากกันอย่างรวดเร็วที่สุด และยังยกเลิกแผนก่อนหน้านี้ ที่จะจำหน่ายหุ้นของบริษัทคอนซัลติ้งให้กับประชาชนด้วย

หลายปีที่ผ่านมา มีนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า งานด้านคอนซัลติ้งและงานด้านบัญชีควรถูกแยกออกจากกันโดยเด็ดขาด เพื่อลดความกดดันของผู้ตรวจสอบบัญชี ให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นอิสระจากเจ้าหน้าที่บัญชีของบริษัท ซึ่งเป็นลูกค้าและใช้บริการด้านคอนซัลติ้งจากบริษัทที่ผู้สอบบัญชีทำงานอยู่

บริษัทไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สพยายามแยกธุรกิจด้านคอนซัลติ้งออกจากธุรกิจด้านบัญชีมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีจังหวะเหมาะ ก็มาเกิดกรณีโกงบัญชีของบริษัทเอนรอน (Enron) ขึ้นเสียก่อน ซึ่งผู้สอบบัญชีของไพร์ซวอร์เตอร์เฮาส์คูเปอร์สคือ อาร์เธอร์ แอนเดอสัน (Arthur Andersen) ก็เข้าไปพัวพันกับกรณีดังกล่าวด้วย เขาได้รับเงินจากเอนรอนในจำนวนที่สูงมากเป็นค่าบริการด้านคอนซัลติ้ง

"นี่เป็นจุดสิ้นสุดสำหรับความพยายามของเรา ที่จะแยกธุรกิจซึ่งเรารู้สึกว่ามันขัดแย้งออกจากกัน" ซามูเอล เอ ดิพิแอซซา จูเนียร์ (Samuel A. DiPiazza Jr.) ประธานคณะผู้บริหาร บริษัทไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สกล่าว "มันเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับบริษัทของเรา"

แผนจำหน่ายไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สคอนซัลติ้งจะเหลือไว้เพียงธุรกิจด้านบัญชี หรือ บริษัทดีลอยตต์แอนด์ทัช (Deloitte & Touche) พร้อมธุรกิจคอนซัลติ้งอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งดีลอยตต์บอกว่าจะแยกส่วนคอนซัลติ้งออกไปช่วงปลายปีนี้ และนั่นเป็นการยุติเส้นทางที่ขัดแย้งโดยสมบูรณ์

ตามความเคลื่อนไหว ไอบีเอ็มกำลังจะซื้อการเติบโต ซึ่งขณะนั้นบริษัทกำลังประสบปัญหารายได้หดตัว พร้อมๆกับการถดถอยของตลาดเทคโนโลยี

ไอบีเอ็มตั้งเป้ารายได้สำหรับบริการคอนซัลติ้งและเทคโนโลยีของไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สไว้ที่ 4.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2002 ส่งผลราคาหุ้นไอบีเอ็มพุ่ง 61 เซนต์ ไปอยู่ที่ 71.79 ดอลลาร์ แต่ก็กลับร่วงลงมาอีกภายในไม่กี่ชั่วโมง

ธุรกิจด้านบริการของไอบีเอ็มมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงทศวรรศที่แล้ว และขณะนี้ก็เป็นหน่วยธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท ด้วยตัวเลขรายได้ 35 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจด้านบริการของไอบีเอ็มจะทำทุกอย่างตั้งแต่ซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ของลูกค้า ไปจนถึงซัพพลายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับไอทีที่ลูกค้าต้องการ เช่น ฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์, เน็ตเวิร์ค, ซ่อมบำรุง หรือแม้แต่การฝึกอบรม โดยคิดค่าบริการเป็นรายเดือน ซึ่งเรามักรู้จักกระบวนการดังกล่าวในชื่อของ "เอาต์ซอร์สซิ่ง" (Outsourcing)

ไอบีเอ็มทำได้อย่างยอดเยี่ยมในส่วนของบริการด้านเทคโนโลยี แต่สำหรับธุรกิจด้านคอนซัลติ้งแล้ว กลับไม่มีบทบาทเอาเสียเลย ขณะที่ไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สโดดเด่นอย่างที่สุด และเนื่องจากบริษัทต่างๆต้องการใช้เทคโนโลยีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อกำจัดจุดด้อยของกระบวนการทางธุรกิจ ตั้งแต่ระบบจัดซื้อ (Procurement) ไปจนถึงลูกค้าสัมพันธ์ หรือซีอาร์เอ็ม (Customer Relation Management) ดังนั้นธุรกิจประเภทคอนซัลติ้งอย่างไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สจึงสามารถสร้างบริการเสริม และผูกสัมพันธ์กับลูกค้าได้นานขึ้น นักวิเคราะห์กล่าว

เพื่อให้บรรลุความสำเร็จ ไอบีเอ็มจำเป็นต้องก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นปกติในกระบวนการรวมกิจการขนาดใหญ่ไปให้ได้ หมายถึงการหลอมรวมวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของแต่ละองค์กรเข้าด้วยกัน และพนักงานจำนวนนับพันๆที่ต้องทำงานร่วมกันให้ได้

ธุรกิจโกลบอลเซอร์วิสของไอบีเอ็มมีพนักงานอยู่ประมาณ 150,000 คน ขณะที่ไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สคอนซัลติ้งมีอยู่ 30,000 คน ซึ่งแน่นอนว่าส่วนหนึ่งคงต้องหายไป

"ในเชิงกลยุทธ์แล้ว ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นสิ่งถูกต้องและสมควรอย่างยิ่งสำหรับไอบีเอ็ม" เดวิด กรอสแมน (David Grossman) นักวิเคราะห์จากโธมัสเวสเซิลพาร์ตเนอร์ส (Thomas Weisel Partners) ในซานฟรานซิสโกกล่าว "แต่อย่าลืมว่า พวกเขากำลังซื้อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคน รับผิดชอบความความสัมพันธ์ของคนกว่า 30,000 ชีวิต ซึ่งต้องจับรวมเข้าไว้ในบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่มีความหลากหลายสูง"

แน่นอนว่า ไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สต้องเสียบางอย่างในธุรกิจปัจจุบันไป เนื่องจากลูกค้าบางรายเป็นบริษัทเทคโนโลยีคู่แข่งของไอบีเอ็ม จอห์น อาร์ จอยซ์ (John R. Joyce) ประธานฝ่ายการเงิน บริษัทไอบีเอ็ม กล่าว บริษัทต้องการรักษาความสัมพันธ์ดังกล่าวไว้ แต่ "ความเป็นไปได้ค่อนข้างเลือนลาง"

การเจรจาระหว่างไอบีเอ็มกับไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ในนิวยอร์ก ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกลต.สหรัฐอเมริกา (Securities and Exchange Commission) และเนื่องจากบริษัทไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้สอบบัญชีของไอบีเอ็ม ดังนั้นในช่วง 3 ปีนับจากนี้ การสอบบัญชีของโกลบอลเซอร์วิสกรุ๊ปของไอบีเอ็มจะถูกโอนไปเป็นหน้าที่ของบริษัทบัญชีรายอื่นแทน แต่จากการตกลงร่วมกันซึ่งผ่านการอนุมัติจากกลต.สหรัฐแล้ว ทำให้ไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สจะเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีทั้งหมดของไอบีเอ็มต่อไป

ในการเจรจา เกรก เบรนน์แมน (Greg Brenneman) ประธานบริษัทไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สคอนซัลติ้ง กล่าวว่า ทั้งคู่พบว่าเป้าหมายทางธุรกิจและวิสัยทัศน์ของพวกเขาคล้ายกันมาก

ผู้บริหารของบริษัท เช่น ฮิวเลตต์แพคการ์ด (Hewlett-Packard) กล่าวว่า พวกเขาก็มีแผนเจรจากับไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สในเร็วๆนี้ด้วยเช่นกัน ที่จริงคือ เอชพีก็จ้องตะครุบกิจการคอนซัลติ้งของไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สอยู่เช่นกัน ที่สำคัญคือ เคยเจรจากันมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2000 ด้วยมูลค่าประมาณ 18 พันล้านดอลลาร์ แต่การเจรจายืดเยื้อ พร้อมๆกับการดิ่งลงของหุ้นของเอชพี ดังนั้นการต่อรองในครั้งนั้นจึงตกไป

ณ วันนี้ ในช่วงเวลาที่ภาวะเศรษฐกิจแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ไอบีเอ็มตกลงซื้อไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สด้วยมูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ เป็นเงินสด 2.7 พันล้าน ที่เหลือเป็นหุ้นและหุ้นกู้แปลงสภาพ (Convertible Note)

ในธุรกิจคอนซัลติ้ง จะไม่มีชื่อไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สอีกต่อไป "เราตั้งใจจะยุบไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สคอนซัลติ้งเข้าไว้ภายใต้แบรนด์ของไอบีเอ็ม" ดักลาส ที อีลิกซ์ รองประธานฝ่ายไอบีเอ็มโกลบอลเซอร์วิสกล่าว

เหตุผลสำคัญที่ทำให้ไอบีเอ็มตัดสินใจซื้อไพร์ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สคอนซัลติ้งในครั้งนี้ก็คือ เพื่อเติมเต็มฐานของไอบีเอ็มให้ครบสมบูรณ์แบบ เวอ์จิเนีย โรเมตตี้ (Virginia Rometty) ผู้บริหารธุรกิจคอนซัลติ้งของไอบีเอ็มหลังการรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์กล่าว นอกจากนั้นเธอยังต้องการลดรายจ่ายลงด้วย รวมถึงการลดขั้นเงินเดือน "เมื่อใดก็ตามที่คุณนำองค์กรสองแห่งมารวมกัน การปรับลดเงินเดือนถือเป็นเรื่องปกติ" โรเมตตี้กล่าวโดยไม่ระบุจำนวนที่แน่นอน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us