นอร์เทลฟันธง คนชนะโครงการซีดีเอ็มเอกสท. ประกอบด้วย 4 ต้องคือต้องโรมมิ่งกับเครือข่ายเดิมได้
ต้องมีเทอมการเงิน ที่ดีให้กสท. ต้องติดตั้งเครือข่ายให้เสร็จในระยะเวลาที่กำหนด
และต้องมีแรงหนุนด้านการเมืองชี้ประมูลครั้งนี้กสท.ไม่ยอมเสี่ยงให้โครงการล้ม
เหมือนครั้งก่อน ทีโออาร์รัดกุมโยนความเสี่ยงให้เอกชนแทน นายทอม เครือโสภณ
กรรม การผู้จัดการ บริษัท นอร์เทล
เน็ทเวิร์คส์ (ประเทศไทย) กล่าวถึง การเข้าร่วมประมูลโครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบซีดีเอ็มเอ
ของการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ว่าผลแพ้ชนะของโครงการนี้ต้องประกอบด้วยหลายๆส่วนเช่น
1.
ต้องทำให้ได้ตามเงื่อนไขที่กสท. ต้องการโดยเฉพาะในประเด็นการโรมมิ่งกับเครือข่ายเดิมของบริษัท
บีเอฟเคที ที่วางเครือข่ายซีดีเอ็มเอในกรุงเทพฯและ 22 จ.ภาคกลาง
หมายถึงอาจซื้อจากซัปพลายเออร์กี่รายก็ได้ แต่ต้องทำงานได้เหมือน เป็นเครือข่ายเดียวกัน
"เทคโนโลยีซีดีเอ็มเอ จะได้ประโยชน์สูงสุดจากการส่งข้อมูลมากกว่าด้านเสียง
ซึ่งการโรมมิ่งของ
เครือข่ายมีความสำคัญมากในการใช้งาน และเป็นสิ่งที่กสท.ให้ความสำคัญมาก"
2. หากใครผ่านเงื่อนไขด้านเทคนิคแล้ว ประการต่อมาต้องเสนอวิธีการจ่ายเงินที่กสท.ได้ประโยชน์สูงสุด
หมายถึงใครสามารถทำให้กสท.มีภาระได้น้อยที่สุด 3.ใครสามารถส่งมอบอุปกรณ์
และสามารถติดตั้งเครือข่ายได้เสร็จ ทันเวลาที่กสท.ต้องการ เนื่องจากการติดตั้งเครือข่าย
ปัญหาที่ยากเป็นอันดับต้นๆคือการหาสถานที่ติดตั้งสถานีฐาน ซึ่งโครงการซีดีเอ็มเอ
กสท.ระบุให้ติดตั้งสถานีฐาน ให้ครบ 1,000 แห่งภายใน 3 ปี เริ่ม จาก 600 สถานีฐานในปีแรกและที่เหลืออีกปีละ
200
สถานีฐาน 4.
เป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจในประเทศไทย ในเรื่องสายสัมพันธ์หรือคอนเน็กชั่นกับทั้งด้านการเมือง
และกสท.และ5.ใครจะสามารถอธิบายให้ประชาชนเห็นประโยชน์ของระบบซีดีเอ็มเอได้มาก
ที่สุด
ในขณะที่ประเทศไทยมีผู้ให้บริการโทรศัพท์ มือถือจำนวนมากอย่างเอไอเอส ดีแทค
ดีพีซี ทีเอออเร้นจ์ หรือแม้กระทั่งเอซีทีในระบบ 1900 ขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย(ทศท.)
โครงการซีดีเอ็มเอของกสท.มีกลุ่มบริษัทเอกชนร่วมยื่นข้อเสนอ 4 รายประกอบด้วย
1. บริษัท เรียลไทม์ของกลุ่มยูคอม ยื่นข้อเสนอถึง 3 ทางเลือก 3 ซัปพลายเออร์ประกอบด้วยนอร์เทล
โมโตโรล่าและซัมซุง
2.บริษั ท อคิวเมนท์ ของกลุ่มจัสมิน เสนออุปกรณ์ของ ZTE ประเทศจีน 3. บริษัท
อีพีซี โซลูชั่นของนายเธียร ปฏิเวชวงศ์ บุคคลที่ถูกโฉลกกับระบบซีดีเอ็มเอ
เสนออุปกรณ์ของลูเซ่นต์
และ4.กลุ่มเอ็มลิ้งค์ที่ใช้อุปกรณ์อีริคสันและมีมิตซูบิชิ สนับสนุนด้านการเงิน
ในช่วงสัปดาห์นี้ กสท.เรียกซัปพลายเออร์ทุกรายเข้าไปตอบคำถามด้านเทคนิค
หลังจากที่แต่ละบริษัทยื่นเอกสารข้อเสนอมาแล้ว หากใครผ่านขั้นตอนนี้ไปได้ก็จะมีการทดสอบอุปกรณ์จริง
กับการโรมมิ่งเครือข่ายของบีเอฟเคที หลังจากนั้นจึงเป็นเรื่องด้านการเงิน
"โครงการนี้คงใช้เงินประมาณ 150-200 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นมูลค่าด้านอุปกรณ์ประมาณ
40% ที่เหลือเป็นงานภายในประเทศไม่ว่าจะเป็นตั้งเสาหาสถานที่และอื่นๆ"
นายทอม
กล่าวว่าการประมูลโครงการซีดีเอ็มเอครั้งนี้ของกสท.ถือว่ากสท.ดำเนินโครงการ
ด้วยความระมัดระวังมาก จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในการยื่นประมูลโครงการ
ข้อเสนอหรือทีโออาร์ที่เขียนออกมามักสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ในภายหลัง แต่กับโครงการนี้ทีโออาร์เขียนมารัดกุมมาก
ไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ ทำ ให้มีเพียง 4 บริษัทเท่านั้นที่ยื่นประมูล
"กสท.ต้องการโครงการซีดีเอ็มเอมาก เพราะรู้ว่าเมื่อแปรรูปไปแล้วไม่มีธุรกิจโทรศัพท์มือถือจะลำบาก
ทำให้ต้องดำเนินโครงการอย่างสะอาด โปร่งใสที่สุด
กสท.ต้องการมากจนไม่อยากเสี่ยงเหมือนกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เพราะการประมูลครั้งก่อน
หากเจ๊ง กสท. ประชาชนรับเคราะห์ แต่ครั้งนี้หากเจ๊ง คนยื่นประมูลต้องรับภาระไป"
เขาเชื่อว่าการที่เอ็มลิ้งค์เข้าร่วมประมูลด้วย ช่วยให้ภาพของโครงการซีดีเอ็มเอดีขึ้น
นอก จากนี้บริษัทที่ยื่นข้อเสนอเพราะเชื่อว่าเทคโนโลยี ซีดีเอ็มเอดีและสามารถทำเงินได้จริง
รวมทั้งตลาด
โทรศัพท์เคลื่อนที่ยังไม่ถึงจุดอิ่มตัวเพราะนอก จากเรื่องเครือข่ายแล้วเอกชนยังต้องรับผิดชอบใน
เรื่องการทำตลาดด้วย โดยความสามารถของระบบจะรองรับเครื่องลูกข่ายได้ประมาณ
1 ล้านเครื่อง
ในแง่การตลาดแล้ว นอร์เทลเชื่อว่าซีดีเอ็มเอจะจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน
ไม่ใช่ตลาด แบบแมสซึ่งปัจจุบันเป็นตลาดของเทคโนโลยี 2 จีอย่างจีเอสเอ็มซึ่งมีผู้เล่นมากถึง
5 รายคือเอไอเอส ดีแทค ดีพีซี
ทีเอออเร้นจ์ และเอซีที ดังนั้น การที่เสนอทำตลาดในระบบซีดีเอ็มเอ เท่า
กับทำตลาดอยู่คนเดียว ในขณะที่คุณสมบัติการ ใช้งานของซีดีเอ็มเอ นอกจากเรื่องเสียงที่ดีแล้ว
ยังมีประโยชน์ด้านการสื่อสารข้อมูลจำนวนมาก ที่เป็นจุดแข็งของซีดีเอ็มเอ
นอกจากนี้ซีดีเอ็มเอก็เหมือนรถยุโรป อย่าง BMW เป็นทางเลือกเหมือนเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องที่
2
ที่เอาไว้ใช้สำหรับการสื่อสารข้อมูลซึ่งไม่ได้ต้องการมีลูกค้า จำนวนมากหลายล้านคน
แต่ต้องการแค่จังหวัดละหมื่นคนที่มีรายได้สัก 30,000 บาทต่อเดือนก็น่าจะทำตลาดได้
"เทคโนโลยีมีอยู่แล้ว
อย่างเช่นเอาโทรศัพท์ มือถือซีดีเอ็มเอ ไปโหลดเกมเพลย์สเตชั่นของโซนี่ ก็สามารถเล่นแข่งรถกันได้
2 คนแล้ว ซึ่งซีดีเอ็มเอมีฟังก์ชั่นและแอปพลิเคชั่นการใช้งานในรูป แบบมัลติมีเดียอีกมาก"