ทีเอ ออเร้นจ์ เปิดฉากลุยตลาดภูมิภาค เจาะพื้นที่ยุทธศาสตร์ด้วยการชิมลางอย่างเป็นทาง
การที่ภูเก็ตซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวก่อนขยายไปจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศ ภายในสิ้นปีนี้
ยืนยันขณะนี้มีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมใน 62 จังหวัด มีฐานลูกค้า 6.2 แสนราย
พร้อมชูคุณภาพเครือข่ายและบริการที่แตกต่างเป็นจุดขาย แถมประกาศท้าคู่แข่ง
ที่เป็นเจ้าตลาดอย่างเอไอเอสวัดคุณภาพเครือข่ายที่ภูเก็ต ย้ำ"เจ๋งจริง
ทำไมต้องไปทดสอบที่สมุย" นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรม การผู้จัดการใหญ่
บริษัท ทีเอ ออเร้นจ์
จำกัดผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้ชื่อออเร้นจ์กล่าวว่านับจากนี้ไปออเร้นจ์จะเดินหน้าตามนโยบายขยายโครงข่ายในพื้นที่ต่างจังหวัด
เพื่อให้บริการที่กว้างขึ้นและให้แบรนด์เป็น
ที่เชื่อถือทั่วประเทศอย่างไรก็ตามการทำตลาดในช่วงที่ผ่านมาผู้ให้บริการรายอื่นเดินตามสิ่งที่ออเร้นจ์ทำ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอีมี่ ซึ่งออเร้นจ์ไม่เคยล็อก
เพราะเชื่อในเรื่องของการแข่งขันเสรีนอกจากนี้ก็ยังคิดค่าบริการตามเวลาใช้งานจริง
"ก่อนจะเปิดให้บริการในไทยก็ถูกมองว่าแบรนด์นอกจะเหมาะกับคน ไทยหรือไม่
และจะต่างจากเจ้าอื่นอย่าง ไร
เราพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราให้บริการตามแบบฉบับของออเร้นจ์ เช่น การส่ง
SMS เป็นภาษาไทยรายแรก และมีการสืบค้นเป็นภาษาไทย" ปัจจัยสำคัญอีกอย่างของบริการ
ออเร้นจ์คือการผนึกระหว่างออเร้นจ์ ทีเอและเครือซีพีที่มีความแข็งแกร่งทั้งด้านการตลาด
เทคโนโลยีเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจและผู้บริโภค เช่น
การจัดแคมเปญสำหรับเอสเอ็มอี
หรือความร่วมมือกับยูบีซี ส่วนการขยายเครือข่ายให้ครอบ คลุมทั่วประเทศ จะทำให้ออเร้นจ์มีผู้ใช้บริการถึง
1 ล้านตามแผนที่วางไว้ โดยจะเดินสายทำการตลาดทั่วประเทศ
ซึ่งเริ่มจากภูเก็ตเป็นแห่งแรกนอกจาก นี้ยังจะเน้นการขยายเครือข่ายไปตามพื้นที่ที่มีผู้เดินทางบ่อยๆ
และเน้นการแข่งขันเสรี ปัจจุบันออเร้นจ์มีผู้ใช้บริการที่แอ็กทีฟอยู่ 6.2
แสนราย มีรายได้ใกล้
เคียงกับเอไอเอสและดีแทคคือประ มาณ 500-550 บาทต่อเลขหมายต่อเดือน เหตุผลที่ออเร้นจ์เลือกทำตลาดภูมิภาคโดยเปิดให้บริการอย่างเป็นทาง
การที่จังหวัดภูเก็ตก่อน
เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใหญ่มีชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวปีละประมาณ
7 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีคนไทยจากจังหวัดอื่นๆเดินทางมาเที่ยวอีกเป็นจำนวนมากด้วย
"การเข้ามาของออเร้นจ์ทำให้ตลาดเปลี่ยนแปลงไป และสิ่งที่เราทำ ให้แตกต่างจากรายอื่นคือทำสิ่งแปลกใหม่ซื่อสัตย์
ตรงไปตรงมา ไม่หยุดนิ่งและเป็นมิตรเสมอ" นายอติรุฒน์ โตทวีแสนสุข
ผู้อำนวยการสายงานบริหาร กล่าวเสริม ว่า การที่เลือกภูเก็ตเป็นจังหวัดแรกเนื่องจากเป็นเมืองอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญ
เพราะหากถามชาวต่างชาติว่ารู้จักสถานที่ท่องเที่ยวของไทยที่ไหนบ้าง
มักจะได้คำตอบว่าคือเชียงใหม่กับภูเก็ต แต่ที่เลือกทำที่ภูเก็ต ก่อนเพราะมีพื้นที่ไม่มาก
การสร้างโครงข่ายสามารถทำได้ครอบคลุมได้ง่ายกว่า "พื้นที่ที่เราเลือกต้องเจ๋งต้องเฉียบและต้องดูว่าที่ไหนพร้อม
ที่ภูเก็ต กระบี่ พังงา มั่นใจว่าพร้อมและโครงข่ายเราไม่ด้อยกว่าใคร ท้าให้มาพิสูจน์
ได้ อย่างคู่แข่งหากเขาเจ๋งจริง ทำไมต้องไปทดสอบที่สมุยทำไมไม่มาภูเก็ต"
สำหรับแนวทางการวางโครงข่าย
ของออเร้นจ์ พื้นฐานสำคัญคือเรื่องคุณภาพและศักยภาพที่พร้อมให้บริการทุกคน
ซึ่งการขยายโครงข่ายใน แนวคิดของออเร้นจ์จะเริ่มจากกรุง-
เทพฯและปริมณฑลออกสู่ภูมิภาคให้ทั่วถึงและมีมาตรฐานเดียวกับกรุง-เทพฯคือเป็นบริการทั่วโลกหรือเวิลด์คลาส
ออเร้นจ์ สแตนดาร์ด การเปิดให้บริการในภูมิภาคตาม นโยบายและโครงการเน็ตเวิร์ก
แอควานซ์เมนต์ โปรแกรมโดยเฉพาะ เรื่องการขยายเครือข่ายจากการดำเนิน งานตามโครงการดังกล่าว
ปัจจุบัน ออเร้นจ์มีพื้นที่บริการครอบคลุมประชากร 60% ใน 478 ตำบล 62 จังหวัดทั่วประเทศ
เพิ่มจากเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ที่ให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
และในอีก 19 จ.และจะครอบคลุมทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้ ส่วนการให้บริการในภูเก็ตของออเร้นจ์
ประกอบด้วยกิจกรรมด้านการตลาดต่างๆ เช่น การใช้สื่อโฆษณา บิลบอร์ด โฆษณาผ่านสื่อรายการวิทยุ
ท้องถิ่น เพื่อประชาสัมพันธ์แบรนด์ออเร้นจ์ให้เป็นที่รู้จัก
รวมถึงการจัดโรดโชว์ส่งเสริมการขายโดยการตั้งบูท Orange Experience Unit
ที่ห้าง บิ๊กซีและมีการส่งรถโมบาย ยูนิต ไปประจำทั้ง 19 หาดในภูเก็ตเพื่อให้ลูกค้า
ได้ทดสอบระบบโดยเฉพาะคุณภาพเสียงและบริการ MMS หรือมัลติมีเดีย เมสเซจจิ้ง
เซอร์วิส กิจกรรมการเปิดบริการอย่างเป็นทางการของออเร้นจ์ที่ภูเก็ตใช้เงินประมาณ
8 ล้านบาท
ด้านช่องทางจำหน่าย จะขายผ่านคู่ค้าที่มีอยู่ประ มาณ 9-10 ราย จากจุดขายที่มีอยู่ถึง
90 จุดนอกจากนี้ยังจะมีการขายผ่านร้านสะดวกซื้อ 7/11ที่มีอยู่ในภูเก็ตประมาณ
17-18 ร้าน