Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 กรกฎาคม 2548
กรุงไทยสุดอั้นขึ้นดบ.กู้-ฝาก 25-50 สตางค์             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงไทย

   
search resources

ธนาคารกรุงไทย
Interest Rate




ธนาคารกรุงไทยออกผลิตภัณฑ์เงินฝากระยะยาว 48 เดือน จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือนในอัตรา 3.75% ต่อปี พร้อมประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก-เงินกู้ ให้สอดคล้องกับอัตราตลาด มีผลวันนี้ (14 ก.ค.) ด้านเงินบาทยังไม่เคลื่อนไหว โดยธปท.ออกหนังสือเวียน ซักซ้อมความเข้าใจผู้ประกอบธุรกรรมอนุพันธ์อัตราแลกเปลี่ยน ป้องกันการเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน ระบุชัดไม่มีนโยบายให้บุคคลซื้อขายเก็งกำไรเงินตราต่างประเทศ จับตา ธอส.สุดอั้นจ่อขึ้นดอกเบี้ยปลายไตรมาส 3 พร้อมจัดแพกเกจดอกเบี้ย คงที่รองรับลูกค้าที่เริ่มใช้ดอกเบี้ยลอยตัว

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากระยะยาวรูปแบบใหม่ ระยะยาว 48 เดือน โดยให้อัตราผลตอบแทนในอัตรา 3.75% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน ทั้งนี้เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนผู้ฝากเงิน เนื่องจากปัจจุบันภาวะอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำ

พร้อมกันนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับผู้มีเงินออมหรือผู้เกษียณอายุ ธนาคารจึงได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน อีก 0.25% จากเดิมอยู่ที่ระดับ 1.00% เป็น 1.25% และดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 24 เดือน เป็น 1.75% อีกด้วย สำหรับเงินฝากประเภทอื่นๆ ธนาคารยังคงให้ดอกเบี้ยในอัตราเดิมคือ เงินฝากออมทรัพย์ในอัตรา 0.75% ต่อปี เงินฝากประจำ 3 และ 6 เดือน ในอัตรา 1% ต่อปี และเงินฝากประจำ 36 เดือน ในอัตรา 2% ต่อปี

จากการปรับอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะทำให้ผู้ฝากเงินในส่วนของเงินฝากกรุงไทยทวีคูณ ซึ่งเป็นเงินฝากระยะยาว 24 เดือน ไม่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก และอัตราผลตอบแทนอิงกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 12 เดือน บวก 1% นั้น ได้รับการปรับเพิ่มขึ้นด้วยคือ จากผลตอบแทนปีละ 2% เป็นปีละ 2.25%

ขณะเดียวกัน ธนาคารได้ปรับฐานอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อื่นๆให้สอดคล้องกับอัตราตลาด โดยเงินกู้ประเภท MOR ได้มีการปรับเพิ่มขึ้น 0.25% ต่อปี เป็นอัตรา 6% ต่อปี เงินกู้ประเภท MRR ปรับเพิ่มขึ้น 0.50% ต่อปี เป็นอัตรา 6.25% ต่อปี ขณะที่อัตราดอกเบี้ย MLR ที่สอดคล้องกับอัตราตลาดอยู่แล้วมิได้มีการปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด ยังคงไว้ที่ 5.75% ต่อปีตามเดิม โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป

นายนะเพ็งพาแสง กฤษณามระ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบต้องปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในระดับสูงขึ้นและค่าเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง และหากมีธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์แห่งอื่นๆ ที่ยังไม่ปรับก็จะปรับขึ้นตาม แต่ในส่วนของธนาคารกรุงไทยที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้นั้น เป็นการปรับขึ้นเพื่อให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับเดียวกับธนาคารพาณิชย์แห่งอื่น

ธปท.ออกโรงป้องกันเก็งกำไรค่าเงิน

ด้านความเคลื่อนไหวค่าเงินบาทวานนี้ (13 ก.ค.) ไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวมากนัก คืออยู่ในกรอบ 41.85 - 41.87 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยแข็งค่าสุดอยู่ที่ระดับ 41.79 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และอ่อนค่าสุดอยู่ที่ระดับ 41.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้นักลงทุนส่วนใหญ่ได้จับตาผลการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในคืนนี้ เพื่อที่จะเป็นแนวทางในการนำเงินลงทุนในตลาดเงินต่อไป

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาท ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกหนังสือเวียนถึงสถาบันการเงินทุกแห่ง เรื่องซักซ้อมความเข้าใจในการประกอบธุรกรรมอนุพันธ์ทางการเงินด้านอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อประโยชน์ในการควบคุมการแลกเปลี่ยนการกำกับดูแลตลาดเงินตราต่างประเทศ รวมทั้งให้อัตราแลกเปลี่ยนสอดคล้องกับพื้นฐานทางเศรษฐกิจ โดย ธปท.ไม่มีนโยบายให้บุคคลซื้อ/ขายเงินตราต่างประเทศเพื่อเก็งกำไรในอัตราแลกเปลี่ยน

สำหรับผู้ที่ประกอบธุรกรรมอนุพันธ์ทางการเงินด้านอัตราแลกเปลี่ยนกับลูกค้า เช่น การทำสัญญาซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า ต้องเรียกเอกสารหลักฐานที่จำเป็น เพื่อพิจารณาว่าลูกค้ามีแหล่งเงินได้เงินตราต่างประเทศในอนาคตที่ชัดเจนก่อนการทำธุรกรรม และเมื่อถึงกำหนดส่งมอบตามสัญญาต้องดูแลให้ลูกค้าแจ้งรายละเอียดในแบบการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศให้ถูกต้องครบถ้วน

ในด้านขายเงินตราต่างประเทศ ให้เรียกเอกสารหลักฐานที่จำเป็นเพื่อพิจารณาว่าลูกค้ามีภาระผูกพันในอนาคตตามที่ระบุในกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินและเมื่อถึงกำหนดส่งมอบตามสัญญาต้องเรียกเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดในแต่ละกรณี รวมทั้งต้องให้ลูกค้าแจ้งรายละเอียด ในแบบการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศให้ถูกต้องครบถ้วน

ทั้งนี้ สัญญาอนุพันธ์ทางการเงินด้านอัตราแลกเปลี่ยนต้องกำหนดอายุและจำนวนเงิน ไม่เกินกว่าอายุและจำนวนเงินที่ลูกค้ามีแหล่งเงิน ได้เงินตราต่างประเทศในอนาคต หรือมีภาระผูกพันในอนาคตตามที่ระบบในกฎหมาย ส่วนกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถส่งหรือมอบเอกสารเงินตราต่างประเทศในวันที่ครบกำหนด และมีความจำเป็นต้องหักลบและรับ/จ่ายเป็นเงินบาทแทน ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนก่อน ยกเว้นกรณี rollover สัญญาเดิม หรือกรณีต้องยกเลิกสัญญา เพราะลูกค้ายังไม่ได้รับเงินตราต่างประเทศจากแหล่งเงินได้ในการรับซื้อเงินตราต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินต้องให้ลูกค้าชี้แจงแสดงเหตุผลและความจำเป็นพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เมื่อตรวจสอบจนแน่ใจว่าลูกค้าไม่ได้มีเจตนาหลีกเลี่ยง หรือทำเพื่อเก็งกำไรในอัตราแลกเปลี่ยนจึงให้รับหรือจ่ายเป็นเงินบาทได้ และให้เก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องอย่างต่ำ 3 ปี เพื่อให้เจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนสามารถตรวจสอบได้

ธอส.จ่อขึ้นดอกเบี้ยหลังไตรมาส 3

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าว ว่าขณะนี้ธนาคารยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เหมือนธนาคารพาณิชย์อื่น เนื่องจากพิจารณาจากตัวเลขรายรับในแต่ละเดือนแล้วยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งคาดว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยได้ถึงไตรมาส 3

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสนองตอบความต้องการของลูกค้าชั้นดีที่มีความต้องการจะต่ออายุอัตราดอกเบี้ยคงที่ สำหรับลูกค้าที่ใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นคงที่ 1 ปี 2 ปี และคงที่ 3 ปี สามารถเลือกใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่แบบใหม่ สำหรับลูกค้าที่ครบกำหนด ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.นี้ ซึ่งปัจจุบันจะมีลูกค้าที่เริ่มกำหนดการใช้ดอกเบี้ยคงที่ และต้องเริ่มใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่ 6.25% ดังนั้นธอส.จึงได้เสนอผลิตภัณฑ์การต่ออัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี แบบขั้นบันได ปีที่ 1 คิดที่ 4.5% ปีที่ 5.5% และปีที่ 3 คิดที่ 6.5% หลังจากคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว หรือลูกค้าสามารถใช้เลือกอัตราดอกเบี้ย คงที่ 5 ปี แบบขั้นบันได โดยปีที่ 1 คิดที่ 4.5% ปีที่ 2 คิดที่ 5% ปีที่ 3 คิดที่ 5.5% ปีที่ 4 คิดอัตรา 6% และปีที่ 5 คิดอัตราดอกเบี้ย 6.5%

"แนวทางดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือลูกค้าที่ครบกำหนดการใช้ดอกเบี้ยคงที่ และยังเป็นการสกัดไม่ให้ลูกค้ารีไฟแนนซ์ไปใช้เงินกู้สถาบัน การเงินอื่น" นายขรรค์กล่าว

ในส่วนแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในช่วงครึ่งแรกของปี สามารถปล่อยสินเชื่อได้ 61,000 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 99,000 ล้านบาท โดยคาดว่าทั้งปีจะสามารถทำได้เกินเป้าได้ในระดับ 120,000 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงเดือนมิ.ย. ธอส.ปล่อยสินเชื่อได้ถึง 13,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่กู้เงินในระดับต่ำกว่า 3 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us