Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน13 กรกฎาคม 2548
QH จัดพอร์ตโอนเข้าแบงก์แลนด์นำร่องแบรนด์ลัดดารมย์-ใช้ดบ.ต่ำสุดๆ จูงใจลูกค้า             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด

   
search resources

ควอลิตี้เฮาส์, บมจ.
Real Estate




แบงก์แลนด์เตรียมใช้กลยุทธ์ดอกเบี้ยต่ำ จูงใจลูกค้าเข้ามาใช้สินเชื่อในธนาคารแห่งใหม่โดยเล็งที่ฐานลูกค้าโครงการในเครือแลนด์ "รัตน์ พานิชพันธุ์" บอสใหญ่คิวเฮ้าส์ เล็งนำร่องโอนลูกค้าโครงการลัดดารมย์ เอกมัย-รามอินทราและวัชรพลเข้าพอร์ตแบงก์แลนด์ ส่วนลูกค้าคาซ่าวิลล์ อาจไม่เข้าพอร์ตปี'49 ด้าน "กรี เดชชัย" หนึ่งในขุนพล ระบุปีหน้าผุดโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ลัดดารมย์ 2 ทำเล มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ขณะที่ 3 โครงการที่รับผิดชอบมียอดโอนกว่า 1,300 ล้านบาท

เรืออากาศเอก กรี เดชชัย ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส โครงการพฤกษ์ภิรมย์ รีเจนท์ เกษตร- นวมินทร์ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับนโยบายจากนายรัตน์ พานิชพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการคิวเฮ้าส์ ในการตรวจสอบและจัดพอร์ตเพื่อโอนลูกค้าไปยังธนาคารเพื่อรายย่อยแห่งใหม่ของบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) LH อาทิ ลูกค้าในโครงการลัดดารมย์ วัชรพล ที่คาดว่าจะโอนไปยังธนาคารใหม่ประมาณ 600 ล้านบาท และโครงการลัดดารมย์ เอกมัย-รามอินทรา ซึ่งจำนวนที่จะโอนไปมีมูลค่าเท่าไหร่ ไม่สามารถระบุได้ เพราะว่าต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของลูกค้าเป็นหลัก

"คุณรัตน์ให้ไอเดียในการจูงใจลูกค้า เช่นกลยุทธ์ดาวน์ 5 หมื่นบาท ก็สามารถอยู่ได้ หรือการให้ธนาคารแห่งใหม่เสนออัตราดอกเบี้ยที่จูงใจมากๆ หรือแม้แต่การให้ลูกค้าอยู่ฟรี สิ่งเหล่านี้จะช่วยในการขยับพอร์ตที่จะโอนไปยังแบงก์แลนด์มากขึ้น สำหรับแบรนด์คาซ่าวิลล์คงจะไม่ทัน ในช่วงปี 2549 เนื่องจากกำลังพัฒนาอยู่ แต่สุดท้ายแล้วลูกค้าในกลุ่มนี้เหมาะสมกับการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารแห่งใหม่"

เรืออากาศเอกกรี เดชชัย ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส โครงการพฤกษ์ภิรมย์ รีเจนท์ เกษตร-นวมินทร์ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจ เมื่อต้นปี 48 ที่ผ่านมาว่า สินค้าแทบทุกประเภทมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวัสดุก่อสร้างและน้ำมันที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดนิ่งแต่อย่างใด ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน แต่ในส่วนของบริษัทเองนั้น สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพร้อมขาย จึงมีความได้เปรียบในเรื่องราคาขาย ที่ได้มีการปรับเพิ่มไปกับราคาวัสดุก่อสร้างอยู่แล้ว โดยราคาจะไม่แพงและถูกจนเกินไป ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของบริษัท

"ด้วยจุดแข็งนี้เองจะส่งผลให้บริษัทมีความได้เปรียบในการขายโครงการในช่วงครึ่งปีหลัง โดยนโยบายของเราจะยังคงมุ่งเน้นตลาด ระดับสูงซึ่งเป็นลูกค้าเฉพาะกลุ่มเป็นหลักเช่นเดิม ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ อย่างไรก็ตามแม้ว่าในครึ่งปีหลังนี้จะยังมีปัจจัยลบต่างๆเข้ามากระทบเป็นระยะๆ แต่ก็เชื่อว่าลูกค้าคงไม่เปลี่ยนใจที่จะซื้อบ้านแน่นอน เพราะด้วยฟังก์ชันและดีไซน์แล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่จะพอใจ ส่วนเรื่องปรับราคาสินค้านั้นเราก็ได้มีการทยอยปรับมาตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 48 แล้ว คาดว่าในครึ่งปีหลังนี้คงปรับขึ้นมาไม่เกิน 3%"

เรืออากาศเอก กรี กล่าวต่อไปว่าในปี 49 มีแผนจะพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ "ลัดดารมย์" อีก 2 โครงการ คือทำเลที่ศรีนครินทร์-อ่อนนุช ตั้งอยู่บนพื้นที่ 35 ไร่ โดยบริษัทซื้อที่ดินมาในราคาไร่ละประมาณ 6 ล้านบาทเศษ และจะพัฒนาบ้านระดับราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท มูลค่า โครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนอีกทำเลหนึ่งอยู่ในทำเลรัตนาธิเบศร์ เนื้อที่พัฒนาประมาณ 60 ไร่ รูปแบบบ้านเดี่ยวระดับราคาประมาณ 15 ล้านบาทขึ้นไป รวมมูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท

สำหรับโครงการที่รับผิดชอบอยู่ในขณะนี้มี 3 โครงการ คือ 1. ลัดดารมย์ เอกมัย-รามอินทรา ที่ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการเพื่อขายไปแล้วประมาณ 50% ปัจจุบันมียอดขาย 400 ล้านบาท และมียอดโอนประมาณ 350 ล้านบาท และในเดือน ส.ค.-ก.ย.48 นี้จะเปิดขายในเฟสใหม่ราคาอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านบาทขึ้นไป

2.โครงการพฤกษ์ภิรมย์ รีเจนท์ สุขุมวิท (ลาซาล) มีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 450 ล้านบาท หรือประมาณ 10 ยูนิต มียอดโอนแล้ว 400 ล้านบาท และในเดือน ส.ค.มีแผนที่จะเปิดบ้านพร้อมสวนโซนน้ำตกอีก 1 รูปแบบ และในปี 49 จะนำที่ดินโซนด้านขวาของประตูทางเข้าโครงการประมาณ 30 กว่าไร่ มาพัฒนาบ้านพร้อมอยู่ราคา 50-80 ล้านบาทอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์ของตลาดบ้านหรูระดับบนโดยทั่วไปคาดว่ายอดขายจะลดลง แต่ผลจากการเปิดตัวบ้านหรูแนวคิดใหม่พร้อมสระว่ายน้ำและเรือนรับรองแยกส่วน ราคา 60 ล้านบาท ในโครงการพฤกษ์ภิรมย์ รีเจนท์ สุขุมวิท (ลาซาล) เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นบ้านต้นแบบสำหรับบ้านหลังอื่นๆ ที่จะทยอยออกมาในโครงการพฤกษ์ภิรมย์ รีเจนท์ เกษตร-นวมินทร์ นั้นก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า จึงทำให้มีผลต่อยอดมายังโครงการพฤกษ์ภิรมย์ รีเจนท์ เกษตร-นวมินทร์ด้วย

3.โครงการพฤกษ์ภิรมย์ รีเจนท์ เกษตร-นวมินทร์ ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเปิดขายในพื้นที่โซนพิเศษระดับพรีเมียม "มาเจสติกโซน" ที่มีเอกลักษณ์ความเป็นส่วนตัวสูง และถือเป็นพื้นที่แปลงสุดท้ายในโครงการดังกล่าว มีจำนวนทั้งสิ้น 10 ยูนิต พื้นที่ตั้งแต่ 260-440 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่ 30-60 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 5 ยูนิต โดยลูกค้าที่ซื้อจะมีทั้งที่ซื้อเงินสด และผ่อนดาวน์เป็นงวดๆ ส่วนอีก 5 ยูนิต ที่เหลือคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในปลายปีนี้

"เดิมเราคาดว่าตลาดบ้านหรูระดับราคา 15 ล้านบาท ตั้งแต่ในช่วงต้นปี 48 ที่ผ่านมานี้ จะเป็นบ้านในกลุ่มที่ได้รับความนิยม และตรงกับความต้องการของตลาดมากกว่าในช่วงกลางไตรมาส 2 จึงทำการทดสอบตลาดโดยเปิดบ้านหรูหลังแรกที่ราคา 40 ล้านบาท ในมาเจสติกโซนก่อน ผลสถานการณ์ตลาดของกลุ่มลูกค้าที่ตอบรับคือ ตลาดพลิกกลับ ลูกค้าทั้งเก่าและใหม่แวะเข้ามาชมบ้านที่สร้างเสร็จมากขึ้นกว่าเดิม จากปกติสัปดาห์ละประมาณ 15-20 ราย ล่าสุดเพิ่มเป็น 30 รายต่อสัปดาห์"

เรืออากาศเอกกรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดบ้านหรูราคาแพงยังเป็นที่ต้องการของลูกค้า ซึ่งสวนกระแสภาวะตลาดที่ต่างหันมาเน้นบ้านหรูระดับกลาง-ล่าง เนื่องจากขณะที่ยังไม่ได้เปิดขายอย่างเป็นทางการ ก็มีลูกค้าใหม่ที่เกิดจากการแนะนำของลูกค้าเก่าประมาณ 50% ต่างเข้ามาชมและตัดสินใจซื้อโครงการกันเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาโครงการพฤกษ์ภิรมย์ รีเจนท์ เกษตร- นวมินทร์ สามารถทำยอดขายรวมได้ ทั้งสิ้น 550 ล้านบาท หรือหากคิดเป็นยอดขายรวมทั้งหมดตั้งแต่แรกเริ่มเปิดการขายโครงการคิดเป็นมูลค่า 1,940 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการทั้งหมด 2,200 ล้านบาท โดยในไตรมาสแรกที่ผ่านมาสามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าไปกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นโครงการที่ทำรายได้ให้บริษัทเป็นอันดับ 1 มาโดยตลอด ซึ่งปี 47 ที่ผ่านมา มียอดขายทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่ในปี 48 นี้คาดว่าจะไม่ถึง 1,000 ล้าน บาท เนื่องจากเหลือขายเพียงไม่กี่ยูนิตและจะปิดขายได้ในปีนี้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาพ รวมของยอดขายโครงการที่ตนรับผิดชอบนั้น ในครึ่งปีแรก 48 นี้ถือว่ามียอดขายสูงกว่าปี 47 ประมาณ 15% ที่ทำยอดขายได้ประมาณ 1,700 ล้านบาท จากเป้ารวมของบริษัทคิวเฮ้าส์ที่ 6,000 ล้านบาท ทั้งนี้ในปีนี้คาดว่าใน ส่วนที่รับผิดชอบจะมียอดขายรวมประมาณ 2,500 ล้านบาท จากยอดขาย ของกลุ่มบริษัทที่ 7,000 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2549 โครงการที่รับผิดชอบจะมีมูลค่าประมาณ 2,600 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us