เจ้าพ่อน้ำเมา “เจริญ สิริวัฒนภักดี” ยึดทำเลทองกลางเมืองเชียงใหม่ ล่าสุดไล่ซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างถนนช้างคลานเกือบทุกตารางนิ้ว เผยกำลังต่อรองราคาซื้อห้างเก่าแก่ ส.การค้า ในราคา 120 ล้านบาท ขณะที่เจ้าของเดิมขาย 150 ล้านบาท คาดสิ้นเดือนนี้ได้ข้อสรุป พร้อมเดินหน้าสร้างโรงแรมหรูสูง 28 ชั้นขนาด 400 กว่าห้องภายในสิ้นปี ดึงเชนเลอเมอริเดียนเข้ามาบริหาร

แหล่งข่าวจากวงการพัฒนาที่ดินในเชียงใหม่เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างย่านไนท์บาซาร์เชียงใหม่ ทั้งสองฝั่งของถนนช้างคลานซึ่งเป็นพื้นที่ทำเลทองกลางเมือง ถูกกลุ่มของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าพ่อน้ำเมาเมืองไทยกว้านซื้อเกือบทั้งหมด โดยฝั่งซ้ายมือของถนนช้างคลานยังเหลืออาคารพาณิชย์ริมถนนอีกไม่กี่ยูนิตเท่านั้น ส่วนฝั่งขวาของถนนช้างคลานใจกลางไนท์บาซาร์ถูกกลุ่มของนายเจริญเข้าเทกโอเวอร์ศูนย์สรรพสินค้าเชียงอินทร์พลาซ่า เมื่อปีที่ผ่านมา

ศูนย์สรรพสินค้าดังกล่าวมีขนาดพื้นที่ขาย 20,000 ต.ร.ม. ที่เป็น 1 ใน 2 โครงการพัฒนาที่ดินของตระกูล “กิตติบุตร” แลนด์ลอร์ดรายใหญ่ของเชียงใหม่ ซึ่งดำเนินการในนามบริษัท กิตติทิพย์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าโรงแรมเชียงอินน์ติดกับถนนช้างคลาน ที่ปัจจุบันขายให้กับกลุ่มดุสิตธานีไปแล้วในราคาไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท

ส่วนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างย่านไนท์บาซาร์รายล่าสุดที่กลุ่มนายเจริญกำลังเจรจาซื้อขายกับเจ้าเดิมก็คือ “ส.การค้า 3” ของกลุ่มตระกูล “ศรีสุขวัฒนานันท์” ที่เป็นอาคารพาณิชย์ 6 ชั้นกว่า 10 คูหา โดยชั้น 1-2 จะเป็นห้างสรรพสินค้า ส่วนชั้น 3-6 ทำเป็นห้องให้เช่ารายวัน-รายเดือน รองรับนักท่องเที่ยวอยู่อีก 30 กว่าห้อง

"กลุ่ม ส.การค้าได้เสนอขายให้กับนายเจริญในราคา 150 ล้านบาท มีกำหนดที่จะเจรจาให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งว่ากันว่าส่วนหนึ่งจะถูกนำไปชำระหนี้ค้างชำระที่มีอยู่ร่วม 85 ล้าน แต่อย่างไรก็ตามราคาซื้อขายดังกล่าวยังไม่เป็นที่ตกลงกัน โดยตัวแทนเจรจาของนายเจริญได้ต่อรองราคาเหลือ 120 ล้านบาท"

แหล่งข่าวกล่าวว่าพื้นที่แปลงถัดไปจาก ส.การค้า 3 คือกาแลไนท์บาซาร์ ก็เป็นของกลุ่มนายเจริญอยู่แล้ว ที่ใช้เป็นพื้นที่แบ่งเช่าสำหรับขายอาหารและรับฝากรถอยู่ขณะนี้ ถัดไปเป็นอาคารพาณิชย์ที่ยังไม่ปรากฏรายงานว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือ ถัดไปเพียงไม่กี่สิบเมตรจะมีที่ดินขนาดไม่ถึง 1 งานที่ตั้งของแมคโดนัลที่ยังเป็นของกลุ่มพรีเมียร์ และที่ดินของศาลเจ้าของกลุ่มคนไทยเชื้อสายจีนที่ตั้งอยู่ข้างตลาดอนุสารด้านทิศเหนือที่มีเนื้อที่ทั้งหมด 13 ไร่ ที่กลุ่มนายเจริญซื้อมาจากตระกูล “นิมมานเหมินท์” ในราคาประมาณ 500 ล้านบาท เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งกินพื้นที่ไปถึงที่ตั้งโรงเรียนและวัดศรีดอนไชย

ผุดโรงแรมหรูเชนเมอริเดียน

ขณะนี้กลุ่มนายเจริญยังเร่งดำเนินการก่อสร้างโรงแรมบนพื้นที่ติดกับเวียงพิงค์ไนท์บาซาร์ให้เสร็จภายในสิ้นปี 2548 นี้ โดยโรงแรมแห่งนี้ได้มีการชะลอโครงการไว้ตั้งแต่ปี 40 เป็นต้นมาและใบอนุญาตกำลังจะหมดอายุทำให้ต้องหันมาเร่งก่อสร้างกันใหม่ ซึ่งโรงแรมแห่งนี้จะเป็นโรงแรมหรูสูง 28 ชั้น ขนาด 400 กว่าห้อง ที่มีรายงานว่าหลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จจะดึงเชนเลอเมอริเดียนที่เป็นเชนใหญ่ระดับโลกเข้ามาบริหาร เพื่อต่อสู้กับเชนยักษ์ใหญ่ต่างๆ ที่เข้ามาบริหารโรงแรมชั้นหนึ่งในเชียงใหม่หลายแห่ง ทั้งโอเรียนเต็ล เชดีและแชงกรีล่าเป็นต้น

แหล่งข่าวกล่าวว่า การขยายการลงทุนเข้ามาในเชียงใหม่ของกลุ่มนายเจริญเริ่มตั้งแต่การขยายเครือข่ายโรงแรมอิมพีเรียล ด้วยการเข้าซื้อโรงแรมแม่ปิงเดิมจากกลุ่มคาร์เปทอินเตอร์เนชั่นแนล เจ้าของพรมไทปิง ในราคาประมาณ 500 ล้านบาท ตั้งแต่ปลายปี 2531 ที่ผ่านมา เพราะเห็นว่าเชียงใหม่เป็นเมืองใหญ่รองจากกรุงเทพฯ และจะสามารถจับตลาดได้ถึงภาคเหนือตอนบน จีนตอนใต้ ลาว และพม่า แล้วต้นเดือนมกราคม 2546 บริษัทโรงแรมแม่ปิง (1988) จำกัด กิจการในเครือข่ายของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้เข้าซื้อกิจการโรงแรมเชียงใหม่สปอร์ตคลับแอนด์คลับเฮ้าส์อินน์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงแรมอิมพีเรียลแม่ริม ว่ากันว่าราคาซื้อขายโรงแรมแห่งนี้อยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาท

สำหรับโรงแรมอิมพีเรียลแม่ริมปัจจุบันตั้งอยู่ในพื้นที่ 76 ไร่ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ตั้งอยู่ติดแม่น้ำปิงทางฝั่งขวาของถนนสายเชียงใหม่-แม่ริม มีห้องพักเดิม 48 ห้อง ห้องประชุมขนาด 60 คนจำนวน 2 ห้อง ศูนย์กีฬาประกอบด้วยสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิก 1 สระ สระว่ายน้ำเด็กขนาด 12 คูณ 8 เมตร อาคารแบดมินตัน 3 คอร์ต ห้องสควอตปรับอากาศ 2 คอร์ต ห้องซาวน่าแยกชายหญิง ห้องออกกำลังกาย โต๊ะเทเบิลเทนนิส และโต๊ะสนุกเกอร์ เปิดบริการมาแล้ว 12 ปี

รายงานข่าวระบุว่า กลางปี 2546 ที่ผ่านมา กลุ่มนายเจริญได้เข้าซื้อหลักทรัพย์หลุดจำนองของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นที่ดินเนื้อที่กว่า 4 ไร่ พร้อมอาคารร้างที่ยังสร้างไม่เสร็จบริเวณถนนช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นย่านธุรกิจใจกลางเมืองเชียงใหม่ ย่านเดียวกับศูนย์สรรพสินค้าเชียงอินทร์พลาซ่า-ไนท์บาซาร์ แหล่งท่องเที่ยว-จำหน่ายสินค้าที่ระลึกของเมือง มีราคาซื้อขายที่ 220 ล้านบาท ก่อนที่จะพัฒนาเป็น “พันธ์ทิพย์พลาซ่า สาขาเชียงใหม่” ที่มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท มีพื้นที่ขายทั้งหมด 22,000 ตร.ม.เริ่มให้บริการตั้งแต่ต้นปี 2547 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ “ไนท์บาซาร์เชียงใหม่” ได้ชื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อที่สุดแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ กว่าทศวรรษที่ผ่านมาถือเป็นย่านจับจ่ายซื้อสินค้าของที่ระลึกของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลก กินพื้นที่ตั้งแต่ต้นถนนช้างคลานบริเวณทางแยกวัดอุปคุต สิ้นสุดบริเวณสี่แยกแสงตะวัน