|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โอสถสภา คลอดนโยบายนำทัพอุปโภคบริโภคสู่เวทีโลก หวังบาลานซ์รายได้ส่งออก-ภายในประเทศ 50:50 ซุ่มเงียบปั้นตลาดโกอินเตอร์ 2-3 ปี วางหมากเน้นร่วมมือกับพันธมิตรดันเครื่องดื่มชูกำลังทะลวงยุโรป-อเมริกา สร้างตราสินค้าก่อน 5 ปี สยายปีกนำสินค้าอุปโภคตบเท้าตาม พร้อมเล็งตั้งดิสทริบิวชันต่อ ส่วนครึ่งปีหลังปรับแผนรับมือพิษน้ำมัน ปีหน้าเปิดแบรนด์ใหม่ลงตลาดเพอร์ซันนัลแคร์ สิ้นปีโอสถสภามาร์เกตติ้งกวาดรายได้ 2,000 ล้านบาท
แหล่งข่าวบริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังเอ็ม-150 และสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า นโยบายการทำตลาดของโอสถสภาต้องการก้าวไปสู่การทำตลาดระดับโลก โดยเฉพาะการก้าวไปสู่ตลาดยุโรปและอเมริกา ซึ่งเป็นแผนในเชิงรุก ตั้งแต่เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมาแล้ว แต่เพิ่งมารุกตลาดอย่างจริงจังในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมานี้ เนื่องจากบริษัทมีความพร้อมในด้านทีมการตลาดแล้ว อีกทั้งยังได้จัดตั้งหน่วยงานรับผิดชอบดูแลทวีปต่างๆ อาทิ ยุโรป อเมริกา หรือกระทั่งเอเชียแปซิฟิกมากว่า 2-3 ปี เพื่อเข้ามาทำตลาดในทวีปต่างๆ อย่างเข้มข้น จากปัจจุบันสัดส่วนของการส่งออก คิดเป็น 20-30% ของรายได้รวม โดยบริษัทวางเป้าหมายบาลานซ์รายได้ระหว่างภายในประเทศและต่างประเทศเป็น 50:50
สำหรับแผนการทำตลาด บริษัทจะนำกลุ่มสินค้าเครื่องดื่มชูกำลัง ภายใต้แบรนด์ เอ็ม-150 ลิโพ ฉลาม เอ็มแม็กซ์ แฮงค์ เป็นเรือธงในการทำตลาดในยุโรปและอเมริกาก่อน เนื่องจากเครื่องดื่มชูกำลังถือว่าเป็นสินค้าไทยที่มีชื่อเสียงมากในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรปและอเมริกา จากนั้นภายใน 5 ปีนี้บริษัทจะนำกลุ่มสินค้าอุปโภค ภายใต้แบรนด์เบบี้มายด์ ทเวลฟ์พลัส เอ็กซ์ซิส เข้าไปทำตลาดยุโรปและอเมริกาแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลก จากปัจจุบันสินค้าอุปโภคเพิ่งเริ่มทำตลาดเฉพาะแค่เอเชียเท่านั้น และยังไม่ได้ทำตลาดอย่างจริงจัง ยกตัวอย่าง เบเบี้มายด์ ส่งออกไปยัง 10 ประเทศ ในแถบเอเชียและตะวันออกกลาง มีรายได้ 200 ล้านบาท
ทั้งนี้การทำตลาดต่างประเทศ บริษัทจะเน้นหาพันธมิตรทางการค้าในแต่ละประเทศ ซึ่งขณะนี้บริษัทมีดิสทริบิวชันในกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังในทวีปยุโรปและอเมริกาครอบคลุมแล้ว ส่วนก้าวต่อไปบริษัทต้องการหาดิสทริบิวชัน ในกลุ่มสินค้าอุปโภคในทวีปยุโรปและอเมริกา
"การที่โอสถสภาจะก้าวสู่เวทีระดับโลก มองว่าตลาดของกินทำได้ง่ายมากกว่า เมื่อเทียบกับของใช้ซึ่งต้องใช้เวลาในการสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จักเพราะปัจจุบันมีแบรนด์ระดับโกลเบิล ที่มีความแข็งแกร่งด้านตราสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กเบบี้มายด์จะต้องแข่งขันกับจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับโลก อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้มีคนรู้จักโอสถสภาในฐานะเป็นสินค้าคนไทยเพิ่มมากขึ้น"
แหล่งข่าวกล่าวต่อถึงแผนการทำตลาดภายในประเทศในสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า มีนโยบายอุดช่องว่างในการทำตลาดทั้งหมด อีกทั้งยังต้องมองหาโอกาสอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับรักษาจุดยืนเอาไว้ ขณะเดียวกันต้องปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ตลาด พิจารณาว่าช่วงไหนควรที่จะเปิดตัวสินค้าแล้วถึงจะมีประสิทธิภาพในการทำตลาดได้มากกว่า ซึ่งในปีนี้เฉพาะการทำตลาดสินค้ากลุ่มอุปโภค หรือโอสถสภามาร์เกตติ้งใช้งบการตลาด 30-40% ของรายได้ 2,000 ล้านบาท ในการทำตลาด โดยไม่มีแผนตัดงบการตลาดลงแต่อย่างใด แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะไม่ค่อยดี แต่นโยบายของบริษัทวางไว้ว่าโอสถสภา จะต้องเป็นตราสินค้าของคนไทยที่มีความแข็งแกร่ง
ขณะเดียวกัน ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ยังได้เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่มากกว่า 10 รายการ โดยไม่มีการชะลอการเปิดตัวสินค้าใหม่ แต่เน้นการทำตลาดที่แม่นยำมากขึ้น ส่วนในปีหน้าบริษัทยังได้เตรียมเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพอร์ซันนัลแคร์แบรนด์ใหม่ลงสู่ตลาด เจาะกลุ่มผู้ใหญ่เป็นหลัก จากปัจจุบันบริษัทมีสินค้าเจาะกลุ่มเด็กและวัยรุ่นเท่านั้น โดยการเปิดตัวสินค้าใหม่ครั้งนี้เพื่อสนองนโยบายของบริษัทที่ต้องการอุดช่องว่างในการทำตลาด โดยมีสินค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับปีนี้โอสถสภามาร์เกตติ้ง หรือเฉพาะสินค้ากลุ่มอุปโภค ตั้งเป้ามีรายได้ 2,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แบ่งรายได้เป็น ทเวลฟ์พลัส และเอ็กซ์ซิส 1,000 ล้านบาท ส่วนเบบี้มายด์ 1,000 ล้าน บาท โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากสินค้าอุปโภคคิดเป็น 20-30% ของรายได้รวมของโอสถสภาทั้งหมด ส่วนของกินหรือกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง ประกอบด้วย เอ็ม-150 ฉลาม ลิโพ เอ็มแม็กซ์ แฮงค์ คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 70-80%
|
|
|
|
|