|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอ็น เอส เค แบริ่งส์ ทุ่มทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ใช้ไทยเป็นฐานส่งออก สร้างโรงงานใหม่ ขยายไลน์ผลิตตลับลูกปืนสำหรับล้อรถกระบะ พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตแกนพวงมาลัยขยายตลาดสู่อเมริกา มั่นใจยอดขายได้ตามเป้าแม้เศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงขาลง เชื่อตลาดรถยนต์ไม่ร่วงตาม
ดร.พรเทพ พรประภา ประธานบริษัท เอ็น เอส เค แบริ่งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางบริษัทได้มีแผนที่จะขยายโรงงานในเฟสที่ 2 เพื่อใช้เป็นโรงงานผลิตตลับลูกปืนสำหรับล้อรถกระบะ ใช้เงินลงทุนประมาณ 750 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มโครงการได้ในปี 2549 โดยโรงงานดังกล่าว ทาง เอ็น เอส เค ประเทศญี่ปุ่นต้องการให้เป็นฐานการผลิตตลับลูกปืนสำหรับล้อรถกระบะโดยเฉพาะเพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ จากเดิมที่ฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น
"โรงงานในเฟสที่ 2 นี้อยู่ระหว่างการยื่นเรื่องเสนอกับทางบอร์ดบริหารทั้งหมด คาดว่าจะเริ่มโครงการได้ในปีหน้า โดยทางเอ็น เอส เค ประเทศญี่ปุ่นจะย้ายฐานการผลิตตลับลูกปืนรถกระบะ มาผลิตที่ประเทศไทย และส่งออกไปจำหน่ายตามออเดอร์ของทางบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยโรงงานเดิมจะยังคงผลิตตลับลูกปืนสำหรับงานอุตสาหกรรมอื่นๆ และจะเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิม 12 ล้านชิ้นต่อปี เป็น 15-16 ล้านชิ้นในปีหน้า"
นอกจากการขยายโรงงานและเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนของตลับลูกปืนแล้ว ทางบริษัทยังมีแผนที่จะขยายไลน์การผลิตในส่วนของบริษัท สยาม เอ็น เอส เค สเตียริ่ง ซิสเต็มส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตแกนพวงมาลัยรถยนต์และรถบรรทุกของเอ็น เอส เค โดยใช้เงินลงทุน 150 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต อีก 20% จากเดิมที่มีกำลังการผลิตประมาณ 7 แสนชิ้นต่อปี โดยจะทำการส่งออกสินค้าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาประมาณ 80% จากยอดการผลิตทั้งหมด
และทางเอ็น เอส เค ประเทศญี่ปุ่นยังได้ลงทุนกว่า 51 ล้าน ในการก่อสร้างศูนย์ เอ็น เอส เค เอเชีย แปซิฟิก เทคโนโลยี เซ็นเตอร์ ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางในแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกครอบคลุมพื้นที่กลุ่มประเทศอาเซียน อินเดีย และออสเตรเลีย มีหน้าที่วิจัยและทดสอบคุณภาพสินค้าของเอ็น เอส เค ซึ่ง ประเทศไทยนับเป็นประเทศที่ 5 ที่มีการก่อตั้งศูนย์เทคโนโลยีนี้นอกเหนือจากที่ประเทศญี่ปุ่น จีน สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ซึ่งการก่อตั้งศูนย์เทคโนโลยีในครั้งนี้จะทำให้การขายสะดวกยิ่งขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาสินค้าที่ผลิตจะต้องถูกนำกลับไปตรวจสอบที่ประเทศญี่ปุ่นก่อน ทำให้ต้องใช้เวลาหลายขั้นตอน การมีศูนย์เทคโนโลยีที่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคนี้จะส่งผลดีต่อประเทศไทย ร่วมถึงการลดขั้นตอนเรื่องของส่งออกอีกด้วย
ดร.พรเทพ กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายในปีนี้ ทางบริษัทต้องการที่จะขยายตลาดการส่งออกให้ได้ถึง 20% โดยปัจจุบันมีตลาดส่งออกอยู่ประมาณ 13-15% จากกำลังการผลิตทั้งหมด เพื่อรองรับตลาดภายในประเทศที่เริ่มชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ถึงอย่างไรก็ยังมั่นใจว่าผลประกอบการในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย 2,600 ล้านแน่นอน เพราะตลาดหลักของบริษัทคือ ตลาดโรงงานประกอบรถยนต์ โดยมีลูกค้ารายใหญ่อย่าง โตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน ฟอร์ด-มาสด้า
|
|
|
|
|