จีเอ็มเอ็มดีเตรียมเปิดตลาดเพลงแบบออนไลน์ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ หลังได้พาร์ตเนอร์จากฝรั่งเศสร่วมพัฒนาในส่วนของคีออสที่จะส่งลงตลาดล็อตแรก 200 ตู้ ก่อนขยายไปต่างจังหวัดในช่วงไตรมาส 1-2 ปีหน้า รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่กำลังจะเปลี่ยนจากดิจิตอลเป็นออนไลน์ ล่าสุดเปิดบริการอีซี่โหลดผ่านออดิโอเทกซ์ ส่วนรายได้รวมสิ้นปีนี้ตั้งไว้ที่ 500 ล้านบาท

นายธีรัตน์ นิชิด้า รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม ดิจิตอล โดเมน (จีเอ็มเอ็มดี) ในเครือแกรมมี่ เปิดเผยว่า ภายในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ จีเอ็มเอ็มดีมีแผนจะขายเพลงในระบบออนไลน์ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ และแนวโน้มของเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนจากระบบดิจิตอลสู่ระบบออนไลน์ การเปิดตลาดดังกล่าวขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาคีออสซึ่งจะเป็นจุดให้บริการที่ได้พันธมิตรจากประเทศฝรั่งเศสมาร่วมดำเนินการ

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของดิจิตอล ไรทต์ แมเนจเมนต์ (ดีอาร์เอ็ม) ซึ่งมีหลายแขนง แต่สำหรับจีเอ็มเอ็มดีคือเรื่องของการตลาด ที่จะทำให้ผู้บริโภคมีความสะดวกในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ การจ่ายเงิน แต่เรื่องของการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ก็ต้องมีด้วย

สำหรับการลงคีออส จีเอ็มเอ็มดีมีแผนจะลงประมาณ 200 ตู้ ในเขตกรุงเทพฯ ก่อนจะขยายไปสู่ตลาดต่างจังหวัดในช่วงไตรมาส 1-2 ปีหน้า ส่วนงบในการพัฒนาหรือการลงทุนสำหรับคีออสจะประมาณตู้ละ 1 แสนบาท หน้าจอเป็นทัชสกรีน

"เรื่องของการตลาดอยู่ที่ว่าเราจะทำเป็นอย่างไรออกมา อย่างออกอัลบั้มแล้วค่อยขายออนไลน์ หรือขายออนไลน์แล้วเลือกเพลงที่ได้รับความนิยมมาทำเป็นอัลบั้ม ต้องดูก่อนว่าอะไรเป็นสิ่งที่คนชอบ"

ล่าสุดจีเอ็มเอ็มดีได้ใช้งบประมาณ 10 กว่าล้านบาท ในการพัฒนาโปรมแกรมสำหรับการให้บริการแกรมมี่ อีซี่ โหลดผ่านระบบออดิโอเทกซ์ 1900 900 123 ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีวอยซ์คอมมานด์ หรือการสั่งงานด้วยเสียงมาใช้ร่วมกับการให้บริการดาวน์โหลดริงโทน ซึ่งผู้บริหารจีเอ็มเอ็มดียืนยันว่าเป็นครั้งแรกในโลกที่สามารถให้ผู้ใช้บริการสั่งดาวน์โหลดริงโทนด้วยเสียงตัวเองแทนการใส่โค้ด หลังมีการเปิดตัวบริการมิวสิก ฮันต์ *123 บริการค้นหาชื่อเพลงและดาวน์โหลดริงโทนโดยไม่ต้องใช้โค้ดไปแล้วก่อนหน้านี้

การเปิดให้บริการอีซี่ โหลด และมิวสิก ฮันต์ *123 ผู้บริหารจีเอ็มเอ็มดีเชื่อว่าจะเป็นการพลิกโฉมวงการดาวน์โหลดริงโทนให้เข้าสู่ยุค Zero Code หรือการดาวน์โหลดโดยไม่ต้องใช้โค้ดอีกต่อไป

การพัฒนาในส่วนของอีซี่วอยซ์ที่นอกจากบริการอีซี่โหลดแล้ว ยังมีบริการอื่นๆ อีกที่ให้บริการผ่านระบบออดิโอเทกซ์ 1900 ที่เปิดให้บริการไปแล้ว และกำลังจะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ในส่วนที่เกี่ยวกับเพลงและศิลปินในแกรมมี่ เช่น แกรมมี่ มิวสิก โซน (1900 900 077) บริการฟังเพลงแกรมมี่พร้อมส่งเพลงแบบเต็มๆ ให้แก่คนพิเศษ, แกรมมี่ คาราโอเกะ (1900 900 066) ซึ่งเป็นบริการคาราโอเกะที่บอกให้รู้ถึงผลคะแนนความสามารถในการร้องเพลงของตัวเองทันที และแกรมมี่ เลิฟ ดีลิเวอรี (1900 900 019) บริการส่งเพลงโดนใจพร้อมเสียงตัวเองให้แก่คนพิเศษ เป็นต้น

นอกจากเรื่องที่เกี่ยวกับเพลงแล้ว จีเอ็มเอ็มดียังได้เปิดให้บริการเกี่ยวกับเรื่องของการตรวจดวงชะตา เช่น ไขชะตาเสริมบารมี (1900 900 224), สีเสริมดวง, ฮวงจุ้ย, ตัวเลขพยากรณ์, นามมงคลและวันมงคล โดยระบบตรวจดวงชะตาที่จีเอ็มเอ็มดี ใช้จะแตกต่างจากที่อื่น เพราะได้มีการพัฒนาโปรแกรม ให้เจาะลึกรายละเอียด ที่ยึดตามหลักโหราศาสตร์ที่ต้องการคำนวณตั้งแต่ วัน เดือน ปีเกิด และเวลาตกฟาก นอกจากนี้ ยังมีการอัปเดตข้อมูลทุกเดือนเพื่อให้ผู้ที่เข้ามาใช้บริการได้คำทำนายที่แม่นยำที่สุด

พร้อมกันนี้ ยังมีบริการตรวจดวงชะตาอื่นๆ อีก เช่น Check Luck (1900 900 299) ซึ่งจะมีบริการย่อยๆ ให้ผู้ใช้บริการได้เลือกอีก ไม่ว่าจะเป็นปรอทวัดความสัมพันธ์, เปิดไพ่ไขชะตา, ทำนายฝัน และกราฟชีวิต เป็นต้น

นายธีรัตน์กล่าวถึงอัตราการโตของการดาวน์โหลดริงโทนว่า ที่ผ่านมาการดาวน์โหลดโตขึ้นกว่า 50% เนื่องจากผู้ใช้บริการมือถือมีเพิ่มมากขึ้นทั้งระบบพรีเพดและโพสต์เพด ส่วนการเติบโตของ จีเอ็มเอ็มดีจากช่วงเดือนม.ค.-พ.ค.ปีนี้ โตขึ้น 100% ส่วนบริการใหม่ที่เปิดตัวครั้งนี้ ยังไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าได้ ต้องรอดูผลตอบรับจากตลาดก่อนว่าจะมีมากน้อยขนาดไหน

ด้านผลประกอบการในรอบปีนี้ จีเอ็มเอ็มดีตั้งเป้าไว้ว่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 500 ล้านบาท ซึ่งโตขึ้นเกือบ 50% จากปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 300 กว่าล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าส่วนหนึ่งจะมาจากการปรับเปลี่ยนในเรื่องของการตลาด