โนเกียโชว์ผลประกอบการไตรมาส 2 รอบปี 2545 กำไรเพิ่ม 11%และยอดขายสูงกว่า
277 พันล้านบาทตามเป้าคาดไตรมาส 3 ธุรกิจ ขยายตัวต่อเนื่องจากการแนะนำมือถือรุ่นใหม่
และความพร้อมก้าวสู่ยุค 3G นายจอร์มา โอลลิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โนเกีย
เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2 รอบปี 2545 ว่า โนเกียยังมีความแข็งแกร่งใน
ฐานะผู้นำตลาดโทรศัพท์มือถือและการสื่อสารไร้สาย ด้วยกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น
11% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเป็น 50,400 ล้านบาท (1,260 ล้านยูโร)
และยอดขายโดยรวมเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้คือ 277,400 ล้านบาท (6,935 ล้านยูโร)
ส่วนไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ โนเกียคาดว่าจะยังมีผลประกอบการแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และจะมียอดขายรวมระหว่าง
288,000-304,000 ล้านบาท (7,200-7,600 ล้านยูโร) เมื่อเทียบกับ 280,000
ล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ของปี 2544 และในครึ่งปีหลังของปีนี้ ยอดขายโดยรวมจะเพิ่มขึ้นระหว่าง
3-10%
เพราะจะมีการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวนมากที่สามารถรองรับบริการเสริมที่สร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี
รวมทั้งยอดขายจากการจำหน่ายระบบเครือข่าย 3G โดยเฉพาะในเดือนกันยายนนี้
โนเกียจะนำโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นแรกที่สามารถรองรับได้ทั้งระบบ WCDMA และ
GSM ได้ในเครื่องเดียวออกสู่ตลาด ส่วนระบบเครือข่าย 3G
โนเกียคาดว่าจะสามารถนำเครื่องลูกข่ายออกสู่ตลาดได้ในช่วงต้นปี 2546 หากผู้ให้บริการระบบมีความพร้อมที่จะให้บริการ
"ผลประกอบการที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 ของปี นี้
เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนถึงความสำเร็จในการควบคุมต้นทุนในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ทำให้โนเกียมีกำไรเบื้องต้นเพิ่มขึ้นถึง 11% และมีกระแสเงินสดหมุนเวียนอยู่ในระดับสูงถึง
56,000 ล้านบาท หรือ 1,400 ล้านยูโร" นายโอลลิลากล่าวอีกว่า สำหรับธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น
โนเกียมีกำไรเบื้องต้นสูงขึ้นเป็นอย่างมากถึง 22% ซึ่งผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถและความสำเร็จเป็นอย่างสูงของโนเกียในขณะที่ภาวะทั่วไปของตลาดยังคงชะลอตัวอยู่
ซึ่งความสำเร็จตรงนี้ เป็นผลมาจากความสามารถของทีมงานมืออาชีพของโนเกีย
ไตรมาสที่ 2 ปี 2545 ทุกธุรกิจของโนเกียมีการเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน โดยธุรกิจโทรศัพท์มือถือแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 38% จาก 37% ในปีก่อน
โนเกียจึงมั่นใจว่าภายในปีนี้ ส่วนแบ่งการตลาดจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านยอดขายนั้น ธุรกิจโทรศัพท์มือถือของโนเกียมียอดขายเพิ่มขึ้น 12% เป็น
1,440 ล้านบาท (36 ล้านยูโร)
ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าการเติบโตโดยเฉลี่ยของตลาดโดยรวมซึ่งมีอัตราการขยายตัวประมาณ
4% หรือมีการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์มือถือ 93 ล้านเครื่อง นอกจากนี้โนเกีย
โมบาย โฟนส์
ยังได้เริ่มผลิตและส่งออกโทรศัพท์ มือถือรุ่นใหม่ๆ อีกถึง 20 รุ่นใน 6 เดือนแรกที่ผ่านมา
และจะมีรุ่นใหม่ๆ อีกหลายรุ่นในครึ่งปีหลัง คาดว่าภายในสิ้นปี 2545 นี้ จะสามารถนำโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ
ออกสู่ตลาดได้รวมกว่า 30 รุ่น