|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"สุริยา" ทนเสียงวิพากษ์พัวพันบริษัทปิคนิคไม่ไหว หลังน้องชายน้องสาวถูกกล่าวโทษข้อหาแต่งบัญชี โยกเงินเข้าบัญชีส่วนตัว แนะตระกูล "ลาภวิสุทธิสิน" ทิ้งหุ้นปิคนิคให้หมด "ทนง" แจงคนในไทยรักไทยถล่มสุริยา ชี้ขึ้นอยู่กับนายกฯทักษิณ "ขุนคลัง" ไฟเขียวก.ล.ต.จับปั่นหุ้น ด้าน "อาจดนัย" บิ๊กเจ.พี. มอร์แกน (ประเทศไทย) เผยโบรกเกอร์ควรเป็นด่านแรกสกัดให้มาร์จิ้นแต่แรกป้องกันปัญหาลูกค้าเสียหาย แนะต้องยกระดับมาตรฐาน เช่นในสหรัฐฯ กรณี "เอนรอน" โบรกฯ ดังรวมเจพีฯ ยังต้องรับผิดชอบความเสียหายลูกค้า ด้านก.ล.ต.มีแนวความคิดบังคับทุกโบรกฯ ตั้งกรรมการอิสระ ขณะที่ ก.ล.ต.เตรียมเข้ม สกัดค่าคอมฯ เจอโทษอาญาหนัก
นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้แนะนำให้ทางครอบครัวตระกูลลาภวิสุทธิสิน ควรขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI จำนวน 30% ออกไป หลังจากที่ตนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับปิคนิคตลอดเวลา ทั้งกรณีที่ถูก ก.ล.ต.ยื่นกล่าวโทษน้องชายและน้องสาวของนายสุริยา ในข้อหาโอนเงินของบริษัทเข้าบัญชีส่วนตัว รวมถึงมีการกระทำการปรับแต่งตัวเลขทางบัญชี หรืออีกนัยหนึ่ง คือปิคนิคต้องการตกแต่งบัญชีเพื่อปกปิดฐานะการเงินที่แท้จริง
"แต่การตัดสินใจจะเป็นอย่างไรนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับพวกเขา เพราะส่วนตัวผมแล้วไม่มีหุ้นปิคนิคเหลืออยู่เลย" นายสุริยากล่าว
สำหรับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุกอย่างอยู่ที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจและในช่วงที่เขาเข้ามารับตำแหน่งก็ทำงานอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายสุริยาได้ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวที่เกิดขึ้นกับปิคนิคว่า เขายินดีแสดงความรับผิดชอบ ถ้ากระแสสังคมไม่ตอบรับ แต่เขาขอเวลาเคลียร์งานที่ได้รับมอบหมายอยู่ในตอนนี้ให้เสร็จสิ้น เพราะเป็นห่วงงานที่ยังทำค้างอยู่ และยังระบุด้วยว่าเขาเป็นคนที่ไม่ยึดติดเก้าอี้ ขณะเดียวกันนายสุริยาก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าเขาได้เขียนใบลาออก โดยไม่ระบุวันที่
การที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไปนั้นเขาจะปรึกษาเจ้านายทั้ง 2 คนของเขา ซึ่งก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก่อนทุกครั้ง
พร้อมกันนี้นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังกล่าวด้วยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับนายสุริยานั้น เกิดจากคนในพรรคเล่นกันเอง ซึ่งตามความจริงแล้วไม่น่าจะมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะถือว่าเป็นเรื่องไม่ดีที่คนในพรรคเดียวกันจะออกมาแสดงการกระทำดังกล่าว
ด้านนายสุริยายังได้ให้สัมภาษณ์ทันทีที่เขาเดินทางกลับจากประเทศจีน หลังจากเดินทางเข้าร่วมประชุมประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง โดยมีนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย โดยกำหนดการเดิมนายสุริยาต้องเดินทางกลับพร้อมกับนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางถึงประเทศไทยเวลาประมาณ 19.30 น.แต่ปรากฏว่านายสุริยา ได้เดินทาง กลับมาก่อนตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อมาเข้าร่วมประชุมสมาชิกพรรคไทยรักไทย ที่ทำการพรรคตึกใหม่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่านายสุริยาต้องการรีบกลับมาชี้แจง ให้สมาชิกในพรรคทุกคนรับทราบ ถึงข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะตามธรรมเนียมของพรรคแล้ว รัฐมนตรีสามารถชี้แจงรายละเอียดและข้อเท็จจริงต่างๆให้สมาชิกพรรคได้รับทราบ ในการประชุมพรรคทุกครั้ง "
"เจพีฯ" แนะโบรกฯ ไทยต้องร่วมดูแล
นายอาจดนัย สุจริตกุล ประธาน บล.เจ.พี. มอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยการกล่าวโทษผู้บริหารปิคนิคและการตรวจสอบปั่นหุ้นเป็นปัจจัยที่กระทบบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ทำให้ตลาดไม่นิ่ง แม้นักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจแต่ไม่ถึงกับเป็นความวิตกกังวล ซึ่งการทำหน้าที่ของ ก.ล.ต.ที่ออกมากล่าวโทษนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์ซึ่งเป็นตัวกลางการซื้อขายหุ้นควรจะเป็นหน่วยงานแรกที่มีส่วนช่วยดูแลปัญหาดังกล่าวด้วย เพราะใกล้ชิดลูกค้ามีการปล่อยมาร์จิ้น หรือให้เงินกู้ยืมซื้อขายหุ้น จนทำให้เกิดการทำการบังคับขาย หรือ ฟอร์ซเซล เพื่อป้องกันไม่ให้นักลงทุนต้องประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก ความรับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าวจึงควรจะมีมากกว่านี้
ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา หากเกิดกรณีที่แสดงให้เห็นว่าโบรกเกอร์เข้าไปร่วมรู้เห็นเกี่ยวกับความผิดปกติ จนส่งผลทำให้ลูกค้าต้องประสบภาวะขาดทุนอย่างหนักจากการเข้าลงทุนในหุ้นบริษัทนั้นๆ เช่น กรณีของบริษัทเอนรอน ในส่วนของบริษัทหลักทรัพย์ไม่ว่าจะเป็น ซิตี้กรุ๊ป เจ.พี.มอร์แกน เป็นต้น ก็ยังต้องเข้าไปรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับลูกค้าด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจากกฎของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เข้มงวดมาก ซึ่งในอนาคตโบรกเกอร์เมืองไทยเองก็ต้องปรับตัวยกระดับมาตรฐานไปสู่ระดับสากลมากกว่านี้ ในส่วนของบล.เจ.พี.มอร์แกน (ประเทศไทย) ปัญหาเรื่องมาร์จิ้นไม่มี เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้า 100% เป็นลูกค้านักลงทุนสถาบัน โดยการทำงานต้องมีการบันทึกข้อมูลการซื้อขายอย่างชัดเจน และทุกครั้งจะต้องเตือนนักลงทุนก่อนในหุ้นที่มีความเสี่ยงถึงแม้นักลงทุนยืนยันลงทุนในการทำงานจะยึดกฎประเทศที่เข้มงวดที่สุด
"เราจะเอากฎของตลาดหุ้นนิวยอร์กเปรียบเทียบกับกฎของตลาดทุนไทย หากในเรื่องใดที่ประเทศไหนเข้มงวดกว่าเราจะใช่ของประเทศนั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้เราไม่มีฐานลูกค้าประเภทรายย่อยในประเทศไทย" นายอาจดนัยกล่าว
ก.ล.ต.เล็งสกัดลดค่าคอมฯ
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.48 ที่ผ่านมาคณะกรรมการบริหารสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ หรือโบรกเกอร์ เข้าพบ นายธีระชัย ภูวนาทนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. ซึ่ง ก.ล.ต.มีแนวความคิดที่จะเพิ่มบทลงโทษสำหรับบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้กระทำผิดเกี่ยวกับการลดค่าคอมมิชชัน โดยจะกำหนดบทลงโทษในด้านอาญาด้วย
ทั้งนี้ สาเหตุที่ก.ล.ต.มีแนวคิดดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมาบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ได้มีการกระทำผิดในลักษณะการแอบลดค่าคอมมิชชันหลายครั้ง และการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวนี้อาจจะมีผลต่องบการเงินของบริษัทหลักทรัพย์ได้เช่นเดียวกัน
"ก.ล.ต.เห็นว่าการที่โบรกฯ นำรายได้บางส่วนมาจ่ายคืนให้เจ้าหน้าที่มาร์เกตติ้ง เพื่อนำไปจ่ายคืนให้แก่ลูกค้าในลักษณะของการแอบลดค่าคอมมิชชันนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่องบการเงินของโบรกฯ ได้ ดังนั้นการที่จะเพิ่มบทลงโทษว่าการกระทำผิดการลดค่าคอมมิชชันนั้นจะถือเป็นความผิดทางอาญา ซึ่งจะมีความผิดเหมือนกับการปั่นหุ้น หรือสร้างราคาหุ้นนั้น ก็เพื่อไม่ให้โบรกฯ กระทำผิดมากขึ้น" แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ ก.ล.ต.ก็ได้มีการหารือเกี่ยวกับการให้วงเงินซื้อขายแก่นักลงทุน ซึ่งก็ได้มีการศึกษาก่อนหน้านี้ และจากการศึกษาของสมาคมเห็นว่าน่าจะอยู่ในระดับ 12 เท่าของรายงานการเงิน (statement) ของนักลงทุนแต่ละคน
นอกจากนี้ ก.ล.ต.ยังมีแนวความคิดว่าจะให้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) มีการแต่งตั้งกรรมการอิสระขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ตาม เพราะเห็นว่าบริษัทหลักทรัพย์เป็นผู้ที่บริหารทรัพย์สินของประชาชน
สั่งก.ล.ต.เชือดนักปั่นหุ้น
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การทำงานของ ก.ล.ต.ยังตามไม่ทันพวกที่ปั่นหุ้นปิคนิคทั้งๆ ที่ทราบมาก่อนหน้านี้ นายสมคิดกล่าวว่า ทาง ก.ล.ต.ก็พยายามทำดีที่สุดแล้ว ส่วนที่เกี่ยวพันถึงคนในรัฐบาลทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นถ้ารัฐบาลไม่รีบแก้ไข
นายสมคิดยังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์แล้วว่าทุกอย่างให้เป็นไปตามเนื้อผ้าและกฎระเบียบ การเมืองไม่ไปแทรกแซงอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม นายสมคิดยังกล่าวถึงมาตรการประหยัดพลังงานว่า ยังไม่ได้นำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ (5 ก.ค.) ต้องรอให้นายกรัฐมนตรีกลับจากการไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนก่อน
|
|
|
|
|