|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
วิบากกรรม "ประชัย" ไม่สิ้นสุด เหมือนจะชนะ หลังศาลมีคำสั่งให้ "ซิติก" พันธมิตรรายล่าสุดเข้าทำดิวดิลิเจนซ์ได้ แต่ก็ต้องลุ้นเหนื่อยอีกยาวเมื่อยักษ์ใหญ่จากจีนแทงหนังสือขอระงับการลงทุนไว้ชั่วคราวก่อนศาลตัดสินไม่กี่นาที "ประชัย" ยันไม่ท้อ งัดแผนสำรองเตรียมดึงพันธมิตรรายใหม่เข้าลงทุนทีพีไอ อัด "ทักษิณ" อยู่เบื้องหลังล็อบบี้ซิติก ด้านเจ้าหนี้ได้ที ขอชำระหนี้รวดเดียว 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่าหนี้ทีพีไอที่ต้องชำระถึง 800 ล้านเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุน
วานนี้ (4 ก.ค.) ศาลล้มละลายกลางนัดฟังคำสั่งศาลคำร้องของ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารลูกหนี้ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) (ทีพีไอ) และพวก รวม 6 คน ในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้ทีพีไอ ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ร้องและผู้ร่วมสนับสนุนทางการเงินเข้าตรวจสอบข้อมูลและสถานะกิจการ (ดิว ดิลิเจนซ์) ของทีพีไอภายใน 90 วัน ก่อนที่จะนำเงินมาวางที่ศาลฯชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้จำนวน 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ
เนื่องจากนายประชัยในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้ได้ติดต่อบริษัท ซิติก ปิโตรเคมีกัล อินเวสท์เมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนเข้ามาร่วมทุน เข้ามาสนับสนุนทางการเงินเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ โดยซิติกฯ ได้มีหนังสือยืนยันหาแหล่งเงินกู้ใหม่เพื่อนำมาชำหนี้ให้กับเจ้าหนี้ทีพีไอ โดยตัวแทนกระทรวงการคลังในฐานะผู้บริหารแผนฯ ทีพีไอได้ยื่นคัดค้านนั้น
นายกมล ธีรเวชพลกุล รองอธิบดีผู้พิพากษา ศาลล้มละลายกลาง กล่าวว่า ศาลได้มีคำสั่งให้ผู้ร้อง และผู้ที่จะให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ร้องในการนำเงินมาชำระหนี้แก่เจ้าหนี้เข้าทำดิว ดิลิเจนซ์ ทีพีไอได้ โดยกำชับให้กระทำโดยไม่ชักช้า และรักษาความลับทางการค้าของลูกหนี้มิให้รั่วไหลไปยังบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องหรือสาธารณชน รวมทั้งห้ามมิให้กระทำการใดอันก่อให้เกิดปัญหา อุปสรรค ขัดขวาง แทรกแซงการจัดกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้และการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟู รวมทั้งผู้บริหารแผนฯ อาจวางเงื่อนไขให้ผู้ร้องปฏิบัติตามได้
พลิกล็อก ซิติกฯ ระงับลงทุนชั่วคราว
นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีพีไอ ในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้กล่าวว่า คำสั่งศาลที่อนุญาตให้ผู้ร้องและผู้ที่จะร่วมลงทุนสามารถทำดิว ดิลิเจนซ์ทีพีไอได้นั้น ต้องขอขอบคุณศาลฯ ที่ให้โอกาส ส่วนคำแถลงที่เจ้าหนี้ คือธนาคารกรุงเทพและผู้บริหารแผนฯ ที่ได้ยื่นต่อศาลฯ ก่อนที่จะอ่านคำสั่งนั้น เป็นจดหมายที่ทางซิติกฯ ได้ยื่นต่อผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ เพื่อขอระงับการลงทุนชั่วคราวจนกว่าทุกอย่างจะชัดเจน
นายประชัยเชื่อว่าสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเยือนจีนเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.-2 ก.ค. ที่ผ่านมาแล้วให้กระทรวงต่างประเทศไปเจรจากับซิติกฯ เพื่อขอให้ซิติกออกจดหมายเพื่อระงับการเจรจาชั่วคราวดังกล่าว ดังนั้น เมื่อศาลฯ มีคำสั่งให้ทำดิว ดิลิเจนซ์ ได้ก็ไม่รู้ว่าซิติกฯ จะสนใจทำดิวฯ ต่อหรือไม่ เพราะเขาต้องหารือนายกฯ ก่อน ซึ่งนายกฯ ทักษิณได้เดินทางไปจีนรอบ 2 ในวันนี้ (4 ก.ค.)
"ผมอยากบอกว่า ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจเรื่องนี้ ไม่ใช่ผู้บริหารซิติกฯ แต่เป็นนายหู จินเทา ประธานาธิบดีจีน ซึ่งดูแลรับผิดชอบด้านพลังงาน ผมเชื่อว่าซิติกฯ ต้องกลับมา เพราะเขาต้องการทีพีไอ ซึ่งก็เหมือนกับกรณีของซีนุกของจีนที่ได้เจรจาเพื่อซื้อยูโนแคล แต่สภาคองเกรสไม่ยอม ทำให้เชฟรอนได้ไป สุดท้ายเชื่อว่าเชฟรอนก็จะขายให้ซีนุก อย่างไรก็ตาม ผมก็ต้องขอบคุณนายกฯ ที่ให้ความสนใจทีพีไอเป็นพิเศษ ขณะนี้หน้าที่ของท่านจบไปแล้ว เพราะมีคนอื่นสนใจเข้ามาทำดิว ดิลิเจนซ์ทีพีไอ ต้องขอบคุณนายกฯ สิ่งที่ท่านทำกับผมไว้ และผมจะตอบแทนท่านอย่างสาสม"
นายประชัยกล่าวยอมรับว่า เพิ่งทราบเรื่องที่ซิติกฯ จะระงับการเจรจาชั่วคราวจนกว่าทุกอย่างชัดเจนในวันนี้ เพราะเขาทำจดหมายไปทางผู้บริหารแผนฯ อย่างไรก็ตาม การเข้าตรวจสอบสถานะกิจการก็จะเร่งดำเนินการโดยเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องเป็นซิติกฯ เพราะศาลเปิดช่องให้ผู้ที่สนใจลงทุนสามารถทำดิว ดิลิเจนซ์ได้ ซึ่งขณะนี้มีนักลงทุนต่างชาติ 2-3 รายสนใจร่วมทุนกับทีพีไอ ซึ่งตนจะเปิดให้เข้าทำดิว ดิลิเจนซ์ไปพร้อมกันเลย ถ้าซิติกฯ ไม่มาจริง
"ดีแล้วที่ท่านทักษิณช่วยผม ทำให้ผมมีโอกาสเจรจาเปลี่ยนเงื่อนไขกับทางซิติกฯ ได้ดีขึ้น โดยอ้างเรื่องการระงับเจรจาชั่วคราว ทำให้สามารถดึงคนอื่นเข้ามาทำดิว ดิลิเจนซ์ได้ด้วย ที่ผ่านมาเคยเจอเรื่องนี้แบบนี้ เช่นอดีตทีพีไอโพลีนเคยเซ็นสัญญาขายหุ้นให้กลุ่มซีเม็กซ์ แต่เขาเบี้ยวทีหนึ่ง เพื่อเปิดทางให้กลุ่มโฮลซิม แต่สุดท้ายก็อดได้ทีพีไอโพลีนทั้งคู่"
นายประชัยกล่าวย้ำถึงมูลหนี้ที่จะชำระในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้ว่า ตนจะขอชำระหนี้เท่ากับมูลหนี้เงินต้นทีพีไอ คือ 2.7 พันล้านบาท ไม่ชำระดอกเบี้ยค้างจ่าย ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหนี้ทีพีไอไม่เคยแฮร์คัตหนี้เงินต้นเลย เพียงแต่ลดดอกเบี้ยค้างชำระเท่านั้น เจ้าหนี้หวังเงินก้อนโต 3.5 พันล้านดอลล์
นายอภิชาติ พันธ์เกษร ทนายความธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่ของทีพีไอ กล่าวว่า การที่ศาลอนุญาตให้ซิติกเข้าทำดิว ดิวดิลิเจนซ์ จะมีผลกระทบต่อความมั่นใจของพันธมิตรที่ได้ลงนามสัญญาซื้อหุ้นเพิ่มทุนทีพีไอไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งไม่อยากให้กระทบกับแผนฟื้นฟู กิจการที่กระทรวงการคลังได้ปฏิบัติตามแผนฯไปมากพอควร
สิ่งหนึ่งที่เจ้าหนี้วิตกกังวลว่า หากนายประชัยดึงพันธมิตรเข้ามาแล้วทำให้กระทรวงการคลังไม่สามารถขายหุ้นทีพีไอให้แก่นักลงทุนใหม่ที่ได้ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นทีพีไอไปก่อนหน้านี้ได้ นักลงทุนใหม่อาจฟ้องร้องคลัง ลูกหนี้ รวมไปถึงเจ้าหนี้ในฐานะผู้มอบสิทธิ์ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ดำเนินการขายหุ้นทีพีไอก็ได้
อย่างไรก็ดี หากนายประชัยขอชำระหนี้ในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้ไม่สามารถตกลงกับผู้บริหารแผนฯ ได้ แต่ต้องเจรจากับเจ้าหนี้ โดยจะต้องชำระหนี้เงินต้นรวมดอกเบี้ยค้างชำระนับตั้งทีพีไอผิดนัดชำระหนี้ เป็นเงินประมาณ 3,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่ใช่ 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะหนี้จำนวน 2,700 ล้านเหรียญ เป็นหนี้ที่ลูกหนี้ต้องชำระไม่ใช่หนี้ส่วนที่ผู้ค้ำประกันต้องชำระ อย่างไรก็ตามขณะนี้นายประชัยยังไม่ได้ทำเรื่องเสนอต่อเจ้าหนี้แต่อย่างใด
ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า ซิติกอาจจะระงับตลอดไปเลยก็ได้ ส่วนกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้สามารถเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินได้นั้น คลังยอมรับคำสั่งศาลอยู่แล้วไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่ในกระบวนการดำเนินงานของกระทรวงการคลังก็ยังคงเป็นไปตามแผนเช่นเดิมต่อไป "
โต้ง" ยังไม่ย้ายทีพีไอจากรีแฮบโก
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ขณะนี้ ตลท.ไม่ย้ายหุ้นทีพีไอออกจากหุ้นกลุ่มรีแฮบโก เนื่องจากรอความชัดเจนว่าใครจะมาเป็นผู้บริหารของบริษัท และการเข้ามาจะดูว่าจะสามารถเอื้อประโยชน์กับผู้ถือหุ้นเดิมกับเจ้าหนี้ได้หรือไม่ ซึ่งหลังจากเห็นคำสั่งศาลดังกล่าวมองว่า การไม่ย้ายเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้อง จากแผนเดิมที่จะย้ายหุ้นทีพีไอออกจากกลุ่มรีแฮบโกภายในเดือนมิ.ย.
นายกิตติรัตน์กล่าวว่า การที่ศาลล้มละลายกลางได้มีการพิจารณานั้น เพราะได้ตระหนักถึงประโยชน์ของสาธารณชน และคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ของเจ้าหนี้ ซึ่งการที่ศาลล้มละลายกลางมีการรับข้อเสนอกลุ่มซิติก มองว่าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน และเจ้าหนี้ซึ่งเป็นประเด็นที่สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและยังเป็นการเพิ่มทางเลือกอีกทางนอกเหนือจากของกระทรวงการคลัง
"ตอนนี้อยากให้นักลงทุนระมัดระวังในการลงทุนในหุ้นทีพีไอก่อนเพื่อรอความชัดเจนที่จะเกิดขึ้น" นายกิตติรัตน์กล่าว
|
|
|
|
|