Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2543








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2543
CITY OF FINANCIAL             
 


   
search resources

Banking and Finance




ลมหายใจของนิวยอร์ก เมืองสำคัญของโลก ที่ ที่กำหนดทิศทางของสังคมโลก จึงน่าสนใจ เรื่องราวเหล่านี้มาจากอดีตนักข่าว "ผู้จัดการ" ที่ระเหเร่ร่อนไปอยู่ ที่นั่นในขณะนี้ จากมุมมองของคนที่มีความคิด และประสบการณ์จับกระแสอรรถาธิบายปรากฏการณ์ ย่อมจะทำให้เรื่องน่าสนใจขึ้นอีก

"J.P. Morgan" สำนักงานใหญ่ อยู่ ที่ถนนวอลล์สตรีท นิวยอร์ก ทำธุรกิจค้าเงิน พันธบัตร หุ้น ลงทุนต่างประเทศ  ให้กู้ยืม เพื่อการลงทุน มีตลาดหลักอยู่ในอเมริกา รองลงมาคือ ยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง มีตลาดย่อยอยู่ในเอเชีย แปซิฟิก และละติน อเมริกา ยอดรายได้ในปี 1998 ของบริษัทสูง 18,425 ล้านดอลลาร์

J.P. Morgan แห่งนิวยอร์ก ก่อ ตั้งในปี 1862 โดยลูกชายของ J.S. Morgan แห่งลอนดอน ซึ่งในอดีตคือ ธนาคาร George Peabody ที่มอร์แกน ผู้พ่อเข้าถือหุ้นในปี 1854 และครอบครองกิจการทั้งหมดในทศวรรษต่อมา เครือข่ายสองฝั่งมหาสมุทรทำให้บริษัทเป็นแกนในการผันเงินทุนจากยุโรปเข้าสหรัฐอเมริกา และมีบทบาทจัดหาเงินทุนสร้าง US RAILWAY และช่วยก่อร่างสร้างตัวให้ US.Steel, General Electric และ International Harvester ในปี 1907 J.P.Morgan ยังเป็นกำลังสำคัญ ในการผนวกกลุ่มธนาคาร ร่วมแก้ปัญหาวิกฤติการเงิน

ในปี 1933  กฎหมายบังคับให้แยกบริษัทเป็นสองส่วน หนึ่ง คือ J.P.Morgan ทำธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ให้กู้เงิน เพื่อการลงทุน และ Morgan Stanley ทำธุรกิจค้าหลักทรัพย์ ต่อมาในปี 1959 ธนาคาร ได้ควบกิจการกับ  Guaranty Trust ในนิวยอร์กในทศ- วรรษ ที่ 60 ได้เป็นผู้ค้าหลักให้พันธบัตร รัฐบาล หลังรายได้จากการให้กู้ยืมเงิน เพื่อการลงทุนลดลง เพราะบริษัทต่างๆ หันมาผันเงินจากการขายหุ้นบริษัทได้หันมาทำธุรกิจทั้งค้าหลักทรัพย์ และค้ำประกันหุ้น นับเป็นธนาคารแห่งแรก ที่สามารถค้ำประกันหุ้นได้

ในปี 1997 บริษัทได้ประสบปัญหาครั้งใหญ่ เมื่อรับเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้บริษัทเหมืองแคนาดา ที่อ้าง ว่าพบบ่อทองในบอร์เนียว และในปี 1998 ยังมีปัญหารัสเซียล่มสลาย ตามด้วยวิกฤติการณ์เอเชีย ที่ส่งผลกระทบการค้า เงินตราต่างประเทศ แต่บริษัทก็เดินหน้า ได้ด้วยการเข้าซื้อหุ้นในธุรกิจสำคัญ เช่น ในปี 1998 ได้ซื้อหุ้น 45 เปอร์เซ็นต์ ใน American Century Investment และในปี 1999 ได้ซื้อหุ้น Archipelago Holdings บริษัทเครือข่ายสื่อสารอิเล็ก ทรอนิกส์ ที่ออกแบบเครือข่ายให้เข้ากับระบบค้าหลักทรัพย์ของอเมริกา

"Morgan Stanley Dean Witter"

สำนักงานใหญ่อยู่ ที่ถนนบรอดเวย์ เมืองนิวยอร์ก เป็นผลิตผลจากการผนวกกิจการในปี 1996 ระหว่างธนาคาร เพื่อการลงทุน Morgan Stanley และบริษัทค้าหุ้นสำหรับลูกค้ารายย่อย Dean Witter ปัจจุบันเป็นบริษัทค้าหุ้นสำหรับ ลูกค้ารายย่อยใหญ่เป็นอันดับสองของอเมริกา มีสำนักงานมากกว่า 450 สาขา บริษัทยังทำธุรกิจรับประกันหลักทรัพย์  เงินทุนกลุ่มธุรกิจ การจัดการสินทรัพย์ รับวิจัย และวิเคราะห์ข้อมูลการลงทุน ธุรกิจประกันภัย 

Morgan Stanley แยกออกมาจาก J.P. Morgan ในปี 1935 มีธุรกิจหลักเป็นธนาคาร เพื่อการลงทุน ในปี  1941 บริษัทได้เข้าร่วมกับตลาดหลัก ทรัพย์แห่งนิวยอร์ก และเป็นผู้จัดการพันธบัตรรับประกัน 25% ของทั้งหมด ในปี 1950 บริษัทเป็นผู้จัดการการเงินให้ลูกค้ารายใหญ่ เช่น General Motors, U.S. Stell ในยุคทศวรรษ ที่ 70 บริษัทได้เปิดให้บริการด้าน ควบกิจการ และผนวกธุรกิจ บริษัทผันตัวเป็นมหาชนในปี 1986 และได้ซื้อกิจการบริษัทเล็กๆ เพื่อขยายกิจการ

หลังการควบกิจการ Morgan Stanley Dean Witter บริษัทได้ลงทุนใน Primex trading ซึ่งเป็นเครือข่ายสื่อสารข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่ก่อตั้งโดยบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง

"PricewaterhouseCoopers"

สำนักงานใหญ่อยู่ ที่ 6th Avenue ซึ่งมีอีกชื่อว่า Avenue of the Americas เป็นบริษัทที่ปรึกษาการลงทุน ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน บริษัททำธุรกิจตรวจสอบบัญชี และให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ เงินทุนธุรกิจ ฟื้นฟูธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการบริหาร ภาษี และกฎหมาย ธุรกิจมีลูกค้าหลัก อาทิ AT&T, Bristol-Myers Squibb, Compaq, Dupont, Hewlett-Packard, IBM, Walt Disney, 3 M Pricewaterhouse ก่อตั้งในลอนดอน ในยุคที่ตลาดหุ้นกำลังเฟื่องฟู ธุรกิจตรวจสอบบัญชีจึงรุ่งโรจน์ไปด้วย บริษัทเปิดสำนักงานในอเมริกาเมื่อยุคทศวรรษ 1890 และได้เป็นผู้ตรวจสอบบัญชีให้บริษัทเหล็กแห่งอเมริกาในปี  1902 ในช่วงตลาดหุ้นล่มในปี 1929 บริษัทกลับมีผลพลอยได้จากความต้องการตรวจสอบบัญชีใหม่ทั้งวงการ  ในปี 1946 บริษัทเริ่มธุรกิจที่ปรึกษาทางธุรกิจ ในช่วงทศวรรษ 1970 บริษัทมีลูก ค้าราว 100 ราย ในทั้งหมด 500 บริษัท ใหญ่ที่สุดของนิตยสารฟอร์จูน  แต่ในปี  1992 ได้ถูกฟ้องถึง 1,000 ล้านเหรียญ จากการดำเนินงาน ที่ผิดพลาดของ Bank of Credit & Commerce Interna tional ต่อมายอดเงินได้ถูกประนีประนอม

"Cooper  &  Lybrand"

เป็น ผลจากการควบกิจการในปี 1957 ระหว่าง Lybrand, Ross Bros & Montgomery บริษัทเก่าแก่ ที่หุ้นส่วนคนหนึ่งคือ Robert Montgomery ผู้เขียน Montgomerys Audition ซึ่งเป็นคัมภีร์แห่งการบัญชีควบบริษัทกับ Cooper Brothers ซึ่งเป็นบริษัทบัญชีเก่าแก่ในลอนดอน ที่มีสาขาตามเมืองใหญ่ของยุโรป หลังการผนวกกิจการ บริษัทได้เติบโตเป็นบริษัทบัญชีขนาดใหญ่ แต่ประสบภาวะถดถอยในทศวรรษ ที่ 80 และในยุค 90 ยังต้องตามชดใช้เงินก้อนละร้อยล้าน ให้หลายบริษัท ที่ได้รับรองบัญชีให้แต่ธุรกิจกลับล้มเหลว

หลังการผนวกกิจการเมื่อปี 1997 ระหว่าง Cooper & Lybrand และ Pricewaterhouse บริษัทบัญชี อันดับ 4 และอันดับ 6 บริษัทได้เติบโตมากกว่าสองเท่าในทันที

"Ernst & Young International"

สำนักงานใหญ่อยู่ ที่ 7th Avenue มีสำนักงานกว่า 660 แห่ง ใน 130 ประเทศทั่วโลก เป็นบริษัทบัญชีใหญ่ อันดับ 4 ทำธุรกิจเพียง 3 ด้านใหญ่ คือ ตรวจสอบบัญชี ที่ปรึกษาธุรกิจ และภาษี มีรายได้ในปี 1998 ถึง 10,900 ดอลลาร์ มีลูกค้าประจำคือ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส, แบงก์อเมริกา, โคคา โคล่า, ฮูเวอร์ส อิงค์, โมบิล, ไทม์ วอร์เนอร์, วัล มาร์ท และไปรษณีย์อเมริกา

Ernst & Young เป็นบริษัทตัวอย่างแห่งการผนวกธุรกิจ และอาจเป็นบริษัทใหญ่ ที่ผ่านการควบกิจการหลายซ้ำหลายซ้อนที่สุดในโลก

จุดกำเนิดปัจจุบัน มาจาก Ernst & Ernst บริษัทอเมริกัน ที่ก่อตั้งในคลีฟ แลนด์เมื่อปี 1903 มาผนวกกับ Whin-ney & Murray แห่งอังกฤษ ช่วงหลังสงครามโลกครั้ง ที่สอง เป็น Ernst & Whinney ตั้งเป้าทำธุรกิจนานาชาติ ในปี 1979

Whinney & Murray เป็นการผนวกระหว่าง Smith & Whinney และ Brown, Fleming & Murray ในปี 1965 Smith & Whinney เป็นบริษัทอังกฤษ ที่ก่อตั้งในต้นทศวรรษ ที่ 18 ในนามของ Harding & Pullein และในปี 1894 ได้ เปลี่ยนชื่อตาม Frederick Whinney ผู้เข้าเป็นหุ้นส่วนตั้งแต่ปี 1859 และมีลูกชายผู้ดำเนินธุรกิจสืบต่อมา

ในปี 1989 Ernst & Whinney ซึ่งเป็นบริษัทบัญชีใหญ่อันดับ 4 ในขณะนั้น ควบกิจการอีกครั้งกับ Arthur Young ซึ่งเป็นอันดับ 5 Arthur Young ก่อตั้งแต่ปี 1895 ในแคนซัส ซิตี้ และประสบปัญหาการดำเนินธุรกิจในปลายทศวรรษ ที่ 1980 จากการรับรองบัญชี ที่ผิดพลาด

ช่วงผนวกกันใหม่ๆ บริษัทต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่เป็นค่าปรับ และประสบข่าวลือว่าล้มละลาย แต่บริษัทก็ได้แก้ปัญหาการดำเนินงาน และพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยภายหลังได้หันมาเน้นธุรกิจที่ปรึกษา และภาษีมากขึ้น มุ่งเจาะตลาดนานาชาติ บริการผู้เชี่ยว ชาญในด้านกฎหมายภาษี ที่แตกต่างกันไปของแต่ละท้องถิ่น และเจาะตลาดที่กำลังเติบโตสูง โดยเฉพาะเอเชีย

เพียงส่วนหนึ่งในอีกหลายสิบ  จึงไม่ใช่แค่อาคาร World Financial Center ที่ตั้งอยู่ในนิวยอร์ก ช่วงไม่กี่สิบปี แต่นิยามแห่งความเป็น World Financial Center ได้อยู่ ที่นี่มานาน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us