“ซิตี้ไลน์ บริการโฟนไลน์ 3080055 คุณจะใช้หมายเลขนี้หรือโทร 1557 ก็ได้นะค่ะ สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบว่าโฟนไลน์คืออะไรก็ทดลองใช้บริการฟรีโดยกดหมายเลข 0 บนแป้นโทรศัพท์ โทรศัพท์ระบบหมุนและโทรศัพท์สาธารณะเครื่องสีเงินไม่สามารถใช้ได้นะค่ะ ท่านที่มีบัตรของโฟนไลน์แล้ว กดหมายเลขบัตร 6 หลักได้เลยค่ะ...” เสียงสาวเจื้อยแจ้วมาตามสายโทรศัพท์หลังจากที่กด 3080055 หรือ 3080069

“เกย์ไลน์...พื้นที่ตรงนี้มีให้หนุ่มนะฮะนะฮะ ได้เม้าส์กันสุดๆแลกเปลี่ยนประสบการณ์หรือจะนัดไปอาฮ่ากันที่ไหนก็ฝากข้อความไว้ที่นี่ 0055 เกย์ไลน์ฮะ กด 2 ฝากข้อความหรือกด 1 ฟังที่เม้าส์กันไว้ย้อนไปหนึ่งเมนูกด 0 นะฮะ” นี่คือเมนูสำหรับเพื่อนสมาชิกชาวเกย์ทั้งหลาย ซึ่งไม่ใช่เกย์ก็สามารถพูดคุยกันได้

“สำหรับเพื่อน อะไรก็ได้สุดๆไปทั้งใจเลย ถ้าถูกใจนะ โฟนไลน์ให้วัยรุ่นน้อยกว่าหรือเท่ากับ 18 ปีได้มีเพื่อนใหม่อีกสักแก๊งมีกิจกรรมได้ไปร่วมแจมกันดูหนังฟรี กติกา ถ้าใครไม่มีบัตรสมาชิกให้รีบไปสมัครซะก่อน วิธีการฝากข้อความให้คุณบอกชื่อ หมายเลขบัตรโฟนไลน์แมกกาซีนที่คุณชอบอ่านช่องทีวีที่คุณชอบดูรายการวิทยุที่คุณชอบฟัง คำเตือน ห้ามฝากหมายเลขโทรศัพท์หรือเบอร์เพจเจอร์เอาไว้ โฟนไลน์ไม่สามารถนำออกอากาศได้นะค่ะ เพราะมีคนบ่นมาว่ามีโทรศัพท์โทรเข้าไปรบกวนมากเหลือเกิน ถ้าพร้อมแล้วก็กดหมายเลข 2 ฝากข้อความแนะนำตัวเองเอาไว้หรือกด 1 เพื่อนของคุณรออยู่” อีกเมนูหนึ่งที่ออกมาตามสาย

นี่คือธุรกิจบริการที่เกิดขึ้นมานานแล้วในอเมริกาแต่เมืองไทยเพิ่งเกิด

เมื่อมองหน้ายังไม่รู้ใจ แล้วทำไมถึงไม่รู้ใจก่อนมองหน้ากันล่ะ “ซิตี้ไลน์” ธุรกิจของสยามโฟนไลน์หนึ่งในเครือข่ายสหศีนิมา ได้จับจุดนี้ขึ้นมาเป็นธุรกิจซึ่งสิงหาคมเป็นต้นไปจะเปิดให้บริการเป็นทางการโดยใช้หมายเลจที่จำง่ายคือ 1509 และ 1557 เป็นตัวทำตลาดหลังจากที่ใช้ 308-0055, 308-0069 ทดลองตลาดมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

ธเนซร์ ไตรวุฒิ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามโฟนไลน์ จำกัด เล่าถึงที่ผ่านมาว่าจนถึงขณะนี้มีคนใช้บริการซิตี้ไลน์ประมาณ 20,000 คน เป็นวัยรุ่นกว่า 80%ที่สนใจทดลองเล่นกับเราโดยเกมหาเพื่อนจะได้รับความสนใจที่สุด โดยช่วงแรกเราอนุญาตให้ฝากเบอร์โทรกลับได้ด้วย แต่ปรากฎว่ามีปัญหาคือ คนอื่นโทรเข้าไปหาสมาชิกรายนั้นตลอดจนพ่อแม่เด็กมาบ่นกับเรา เราก็เลยให้ฝากได้เฉพาะหมายเลขสมาชิก ส่วนเขาจะนัดกันอย่างไรก็ผ่านเมล์บ็อกซ์ของเขาซึ่งคนอื่นเปิดฟังไม่ได้เพราะใช้รหัสผ่านก่อน ซึ่งพอเขาคุยผ่านเมล์บ็อกซ์กัน 2-3 หนก็อาจจะนัดเจอกันหรืออย่างไรก็ว่ากันไป

“ส่วนบริการที่ผู้ใหญ่ใช้กันมากที่สุดก็เป็นเลิฟไลน์หรือเมนูหาคู่และเรื่องความรู้สำหรับที่พิเศษอย่างหนึ่งที่เราจะให้แก่สมาชิกคือ เมนูฟังเพลงฮิตที่ใหม่จริงๆหรือก่อนที่ดีเจตามสถานีวิทยุได้ไป ตรงนี้สมาชิกจะได้รับฟังก่อนเทปวางตลาด โดยค่ายคีตาเป็นค่ายแรกที่ให้บริการและจะมีค่ายอื่นๆตามมาอีก”

วัตถุประสงค์ของโฟนไลน์ที่ธเนศร์สรุปให้ฟังคือ หนึ่ง-เพื่อเป็นที่ให้ข้อมูลข่าวสารทั้งในด้านบันเทิง,ข่าวทั่วไป,ข่าวเฉพาะและบริการรับฝากข่าว สอง-เพื่อเป็นการพัฒนาบริการด้านสื่อสารให้สะดวกรวดเร็ว โดยใช้ระบบโฟนไลน์คอมพิวเตอร์ที่เที่ยงตรงแม่นยำและได้มาตรฐาน...

สาม-เพื่อใช้เป็นที่ร่วมกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอาทิ กิจกรรมของสโมสรนิสิตนักศึกษาและชมรมต่างๆ สี่-เพื่อส่งเสริมการศึกษาของเด็กไทย เช่นจัดรายการทดสอบภาษาอังกฤษ,รายการเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย, รายการตอบปัญหาแนะแนววิชา-อาชีพจากผู้รู้ ผู้ชำนาญและอีกหลายอย่าง ซึ่งทั้งหมดกระทำโดยศูนย์คอมพิวเตอร์พูดได้

ในการให้ข่าวสารจะทำโดยการบันทึกข้อมูลเป็นเสียงลงในคอมพิวเตอร์เหมือนการอัดเทปธรรมดา ระบบคอมพิวเตอร์จะเชื่อมต่อกับระบบโทรศัพท์โดยอัตโนมัติเมื่อสมาชิกติดต่อเข้ามา ซึ่งบริการที่มีอยู่ขณะนี้มีหลายเมนู ตอบสนองทั้งระดับผู้ใหญ่ลงมาจนถึงเด็กอายุ 12 ปี

การจะเข้ามาเป็นสมัครสมาชิกสามารถสมัครได้ที่ร้านโชว์ไทม์,ร้านเปียร์,ร้านดอกหญ้า,ดีเคสยาม,โซล่าเฮ้าส์,เอเชียบุ๊คส์ทุกสาขา รวมทั้งหมดกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ โดยธเนศร์ตั้งเป้าว่าจะวางตามจุดต่างให้ได้เต็มที่ 100 กว่าแห่งทั้งกรุงเทพและตามหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่,ภูเก็ต,หาดใหญ่ โดยศูนย์กลางการติดต่อจะอยู่ที่โฟนไลน์ในกรุงเทพ ซึ่งถ้าเป็นสายต่างจังหวัดโทรเข้ามาจะไม่เสียค่าบริการเป็นทางไกล แต่จะเสียเหมือนกับที่เรากดโฟนลิ้งค์,แพคลิ้งค์หรืออีซี่คอลล์ธรรมดาคือครั้งละ 3 บาท

สมาชิกทุกคนจะมีหมายเลขประจำตัว 6 หลักและรหัสลับประจำตัวอีก 4 หลักเพื่อใช้เป็นหมายเลขติดต่อเข้ามาในระบบ

จำนวนคู่สายที่ให้บริการอยู่ขณะนี้มี 120 คู่สายและจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัวในสิ้นปี โดยจะใช้หมายเลข 1509 และ 1557 เป็นหมายเลขติดต่อเข้ามา เมื่อสมาชิกโทรเข้ามา โฟนไลน์คอมพิวเตอร์ที่เราอัดเสียงไว้ล่วงหน้าจะพูดคุยกับสมาชิกแนะนำวิธีใช้ทุกขั้นตอนโดยละเอียด

สำหรับรายได้หลักจริงๆของสยามโฟนไลน์ ธเนศร์แจงว่า “สิงหาคมเป็นต้นไปเราจะเก็บค่าบริการเป็นนาทีคือเมนูผู้ใหญ่นาทีละ 1 บาท เมนูวัยรุ่นนาทีละ 50 สตางค์ บางเมนูอาจเก็บมากขึ้นตามความสำคัญ โดยบัตรสมาชิกต่อไปจะมีให้เลือกเช่นบัตรใบละ 50 บาทไปจนถึง 200-300 บาทในระยะเวลาการเป็นสมาชิก 6 เดือนจนถึง 1 ปี เหล่านี้จะเป็นมูลค่าเพิ่มที่ระบบอัตโนมัติ โดยเราให้ได้วันละ 20 นาที(กี่ครั้งก็ได้) เมื่อบัตรหมดก็สามารถไปซื้อบัตรใหม่ต่ออายุได้ต่อไป”

พูดง่ายๆก็คือรายได้หลักของสยามโฟนไลน์จะมาจากการขายบัตรสมาชิกและค่าแอร์ไทม์อย่างเดียว ส่วนรายได้จากการโฆษณาในระบบเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ได้แต่น้อยมาก

“ธุรกิจนี้เป็นการทำแบบระยะยาวเมื่อเปิดเต็มที่แล้วเราคาดว่าจะมีกำไรประมาณ 4-5 ล้านบาทต่อเดือน โดยสมาชิกที่เราตั้งเป้าไว้ระยะอันใกล้ประมาณ 800,000-1,000,000 คน และหลังจากเปิดตัวเป็นทางการเราจะเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 5 ล้านบาทเป็น 10 ล้านบาท”

ฝันของธเนศร์ยังไม่รวมถึงตัวเลขวัยรุ่นที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกต่อปีอีกมากมายโดยเฉพาะวัยรุ่นอายุ 18 ปีที่นับแล้วมีกว่า 3 พันล้านคน ยังไม่นับสมาชิกตามโรงเรียน,วิทยาลัย,มหาวิทยาลัย,ชมรมหรือกลุ่มวิชาชีพอีกมากมาย ฉะนั้นผลกำไรในอนาคตของสยามโฟนไลน์ก็น่าเป็นตัวเลขที่สวยที่น่าจับตามากทีเดียว แค่ 1% ของจำนวนวัยรุ่นก็เกินคุ้มแล้วสำหรับธุรกิจเช่นนี้