โซนี่ ค่ายแผ่นเสียงชื่อดังของสหรัฐฯ พิสูจน์ตัวเองอีกรอบว่าเป็นเจ้าบุญทุ่มตัวจริง ในตอนที่ทุ่มงบไม่อั้นในการขายประชาสัมพันธ์เทป HISTORY ของราชาเพลงป๊อปโลก ไมเคิล แจ็กสันเฉพาะแค่งบในการสร้างรูปปั้นคิง ออฟ ป๊อป ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่เหนือตึกทาวเวอร์ เร็คคอร์ดย่านซันเซ็ตในฮอลลีวูดก็ใช้เงินไปบานโขแล้ว งานนี้โซนี่ยอมทุ่มทุนทุกอย่างเพื่อไม่ให้ประชาชนพลาดความสำคัญในวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านไป นั่นคือวันที่อัลบัม HISTORY ออกวางจำหน่ายเป็นวันแรกนั่นเอง

นักวิจารณ์หลายรายลงความเห็นว่า อัลบัมดังกล่าวมีทั้งความสุดยอดและความเว่อร์อยู่ในตลับเดียวกัน แต่โซนี่คาดว่าอัลบัมชุดนี้ซึ่งบริษัทรอมานานถึง 4 ปีจะเป็นสินค้าที่ทำกำไรให้บริษัทมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

อีปิค เร็คคอร์ดบริษัทลูกของโซนี่กล่าวว่า บริษัททุ่มเงินไปแล้ว 30 ล้านดอลลาร์ในการออกซีดีเพลงในชุด HISTORY เทียบกับงบที่ทุ่มให้กับมาดอนน่า โรลลิ่งสโตนหรือแอร์โร่สมิธที่ประมาณ 2 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

แต่แหล่งข่าววงการในรายหนึ่งกล่าวว่า งบจริงๆที่ใช้ในการส่งเสริมยอดขายเพลงของราชาป๊อปผู้นี้คาดว่าจะพุ่งขึ้นเป็น 40 ล้านดอลลาร์ อันรวมถึงงบที่ใช้ในการผลิตมิวสิก วิดีโอเพลง SCREAM บวกกับอีก 10 ล้านดอลลาร์ที่เป็นค่าผลิตเพลงอีก 30 เพลงในอัลบัมประวัติศาสตร์ของแจ็กสัน

อีพิคคาดว่าอัลบัมดังกล่าวจะมียอดขายสูงถึง 2 ล้านแผ่น หลังจากที่ซีดีเพลงดังกล่าวขายหมดเพียงชั่วข้ามคืนขายหมดเพียงชั่วข้ามคืนเป็นจำนวน 250 แผ่นในวันแรกที่มีการวางขาย

อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าตนเองจะคุ้มทุนที่ยอดขายล้านแผ่น แต่หลายฝ่ายคาดว่ายอดขายของแจ็กสันคงไม่น่ามากขนาดนั้นเพราะนอกจากราคาจะแพงแล้วคือชุดละ 32.98 ดอลลาร์ความนิยมในตัวของแจ็กสันก็กำลังลดลงด้วย เนื่องจากข่าวลือไม่ดีทั้งหลายที่เกี่ยวกับตัวเขา อาทิเรื่องลวนลามเด็ก

ถึงจะมีข่าวออกมาเช่นนั้น ทีมงานส่งเสริมการขายของโซนี่ก็ยังไม่ย่อท้อในการโหมโฆษณาอัลบัม HISTORY รวมถึงการปิดป้ายโฆษณาตามรถเทรลเลอร์จำนวน 1,000 คัน การลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ ยูเอสเอ ทูเดย์, นิตยสารยู เอส, เอ็นเตอร์เทนเมนท์ วีคลี่และการโฆษณาในโทรทัศน์ตอนเช้าขณะที่วีเอช เน็ตเวิร์ค 1 ช่องรายการเคเบิลทีวีก็จัดสัปดาห์ไมเคิล แจ็กสันขึ้นโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ ตัวแจ็คสันและลิซ่า มารีภรรยาคนงามของเขาก็โดดเข้ามาร่วมวงโปรโมตด้วยตัวเองด้วย โดยการยอมไปออกรายการโทรทัศน์เอบีซี ไพรม์ ไทม์ ไลฟ์ในวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ายอดขายของอัลบัม HISTORY จะพุ่งทะลุเป้าที่โซนี่วางไว้หรือไม่และไม่ว่าฝ่ายการตลาดของโซนี่จะทำงานประสบความสำเร็จหรือไม่โซนี่ก็ได้พิสูจน์ให้หลายๆคนได้เห็นอีกครั้งว่าเงินสามารถซื้อได้ทุกสิ่งรวมถึงส่วนแบ่งตลาด