Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2538








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2538
ราคาที่คนญี่ปุ่นต้องจ่ายในการปกป้องตลาด             
 





ถ้าถามความเห็นบริษัทต่างชาติเรื่องที่ญี่ปุ่นปิดตลาดในประเทศรับรองว่าทุกบริษัทที่ถูกจะต้องส่ายหัวด้วยความระอาไปตาม ๆ กัน เนื่องจากมาตรการดังกล่าวนอกจากจะทำให้บริษัทต่างชาติขาดตลาดส่งออกสินค้าที่สำคัญที่สุดไปแห่งหนึ่งแล้ว ยังมีผลทางอ้อมทำให้คนในประเทศตกงานอีกด้วย เนื่องจากหากไม่มีกำไรจากการส่งออกสินค้าบริษัทก็ต้องปลดคนงาน

แต่ผลจากการปกป้องตลาดยังสร้างความเดือดร้อนให้ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นเองอีกด้วยเพราะผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นต้องซื้อหาอาหารในราคาที่แพงกว่าที่อื่น เนื่องจากต้นทุนการผลิตสินค้าของบริษัทในญี่ปุ่นนั้นสูงมาก ทำให้สินค้าที่ผลิตออกมามีราคาแพง ครั้นจะเลือกซื้อสินค้านำเข้า รัฐบาลก็ขึ้นภาษีจนมีราคาสูงพอ ๆ กัน

แต่ชาวญี่ปุ่นจะต้องจ่ายค่าตอบแทนของการปิดตลาดในราคาเท่าใดกันแน่ ? คำตอบนี้มีอยู่ในหนังสือ “MEASURING THE COSTS OF PROTECTION”

แต่งโดยสามนักเศรษฐศาสตร์ชาวญี่ปุ่นคือ โยโกะ ซาซานามิ, ชูจิโร อูราตะและฮิโรกิ คาวาอิ

ทั้งนี้ ทั้งสามไม่ได้เน้นการตรวจสอบราคาสินค้าในตลาดมากนัก แต่สนใจมาตรการของรัฐบาลที่ทำให้ต่างชาติเจาะตลาดญี่ปุ่นได้ยากแทนเนื่องจากประเด็นนี้จะเป็นความวิตกกังวลของต่างชาติมากกว่า รวมถึงการเปรียบเทียบราคาสินค้าอย่างเดียวกันในญี่ปุ่นกับประเทศอื่น ๆ ตรงบริเวณท่าเรือ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสินค้าที่ยังไม่มีการกำหนดอัตราภาษี

ผลสำรวจพบว่า ในปี 1989 สินค้าอาหารในญี่ปุ่นแพงกว่าสินค้านำเข้าถึง 100% ราคาวิทยุและโทรทัศน์สูงกว่าที่นำเข้ามาถึง 6 เท่า ไม่ต้องพูดถึงราคาเสื้อผ้าที่มีราคาสูงถึง 300% และราคาน้ำมัน 200%

ในปีเดียวกัน ต้นทุนที่คนญี่ปุ่นต้องจ่ายให้กับการปกป้องตลาดมีจำนวนสูงถึง 15 ล้านล้านเยน(158,400 ล้านดอลลาร์) ต่อปี หรือ 3.8% ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) แต่ต้นทุนดังกล่าวไม่ได้ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจญี่ปุ่นโดยรวมเนื่องจากการปิดตลาดกลับส่งผลดีธุรกิจในประเทศ และเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล

นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ทั้งสามยังสรุปว่า การที่ญี่ปุ่นนำมาตรการปกป้องตลาดมาใช้นั้นกลับยิ่งจะเป็นการทำให้สินค้าของต่างชาติเป็นที่ต้องการมากขึ้นเข้าไปอีกในที่สุดหากวัดกันที่คุณภาพและความนิยมของนอก   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us