|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอชพีปรับโฉมการตลาดโน้ตบุ๊กจากมุ่งขายโปรดักส์มาเป็นการเสนอโซลูชันพร้อมใช้ครบวงจรให้กับลูกค้า มองการการเติบโตของ Mobility สื่อสารไร้สายเคลื่อนที่ที่โตวันโตคืนเป็นเป้าหมายขยายตลาดโน้ตบุ๊กไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ด้วยนโยบายในการจับมือกับพันธมิตรคอร์สเซ็กชันการตลาดเป็นครั้งแรก ชี้เอ็นเทอร์เทนเมนต์เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่จะได้รับความสนใจของตลาดโน้ตบุ๊กในปัจจุบัน ทั้งมีแนวโน้มที่โตมากกว่ากลุ่มอื่น
นายปวิณ วรพฤกษ์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ กลุ่มธุรกิจเพอร์ชัลแนล ซิสเต็มส์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด (HP) กล่าวว่า ปัจจุบันเอชพีมีการปรับกลยุทธ์ในการทำตลาดใหม่ จากเดิมที่มุ่งทำตลาดด้วยการนำเสนอโปรดักส์เพียงอย่างเดียว มาเป็นการนำเสนอโซลูชันครบวงจรการใช้งานให้กับลูกค้า
เอชพีอาศัยความพร้อมในเรื่องการมีโปรดักส์ครบวงจรด้านการตลาด มาผนวกกับการหาพันธมิตรมาเสริมในส่วนเอชพีที่สามารทำได้ เพื่อการนำเสนอโซลูชั่นสื่อสารไร้สายรูปแบบใหม่ Mobility โดยจับมือกับพันธมิตรในวงการที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละเรื่อง เพื่อนำเสนอแพกเกจด้านการใช้งานที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้า
เอชพีประเดิมจับมือ กลุ่มทรู และอินเทลจัดแคมเปญการตลาดร่วมกันภายใต้ชื่อ “True Mobility by HP” ให้ผู้ซื้อโน้ตบุ๊ก Compag Presario ทุกรุ่น ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-31 สิงหาคม 2548 จะได้รับ Wi-Fi Internet by True ทันที่ 10 ชั่วโมงต่อเดือนเป็นเวลา 3 เดือน มูลค่าประมาณ 5,400 บาท
ความร่วมมือกันครั้งนี้เกิดจากการมองกลยุทธ์การตลาดที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ การสื่อสารไร้สายในอนาคตจะเป็นเครื่องมือที่มาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันและอนาคต
“การสื่อสารไร้สายหรือ Mobility เริ่มเห็นการเติบโตที่ชัดเจนมากขึ้นทุกปี คาดว่าการเติบโตของ Mobility จะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 37 % ต่อปีนับจากนี้ต่อไปจนถึงปี 2007”
นายประเสริฐ จรูญไพศาล ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์และการพิมพ์ เอชพี กล่าว โดยความร่วมมือกันครั้งนี้เป็นการอาศัยจุดแข็งของแต่พันธมิตรที่มีอยู่ โดยเอชพีมีความพร้อมในเรื่องตัวโปรดักส์ ความหลากหลายของโน้ตบุ๊กในแต่ละรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ขณะที่ทรูมีศักยภาพด้านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีความครอบคลุมพื้นที่การใช้งานกว่า 300 จุดในปัจจุบัน และมีนโยบายที่จะขยายเครือข่ายให้เพิ่มมากขึ้นเป็น 400-500 จุดในสิ้นปี ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบไร้สายได้มากยิ่งขึ้น
นายเจน จูฑา ผู้ช่วยผู้อำนวยการ หัวหน้าฝ่าย Wireless Broadband Servicess บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE กล่าวว่า เมื่อเทียบอัตราการเติบโตของบรอดแบรนด์ของทรูจากปี 2003 ที่มีผู้ใช้ประมาณ 1.2 หมื่นราย มาในปี 2004 เพิ่มเป็นกว่า 2 แสนราย หรือมีการเติบโตกว่า 10 เท่า ทำให้คาดการได้ว่าการเติบโตของไว-ไฟจะไม่น้อยกว่ากัน
จากแนวทางใหม่ในการทำตลาดที่มุ่งการนำเสนอโซลูชันพร้อมใช้งานให้กับลูกค้า โดยประเดิมงานแรกกับการจับมือกับ ทรู และ อินเทล นี้ เอชพีคาดว่าจะทำตลาดโน้ตบุ๊ก Compag Presario ได้ไม่น้อยกว่า 10,000 ตัวต่อเดือน
นายปวิณ กล่าวว่า หากมองในแง่แวลลูแล้วปัจจุบันเรียกได้ว่า เอชพีเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดโน้ตบุ๊กด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 27 % ในไตรมาส 2 ของปี 2005 จากส่วนแบ่งทางการตลาด 23% ในไตรมาส 1 ของปี 2005 และคาดว่า ในไตรมาสที่ 3 และ 4 นี้ เอชพีก็จะยังคงความเป็นผู้นำตลาดอันดับหนึ่งในแง่แวลลูอยู่เช่นเดิม
“ความมั่นใจของเอชพีในการเป็นผู้นำอันดับ1 เกิดจากการปรับแนวทางการทำตลาดใหม่ที่หันมาให้ความสำคัญการนำเสนอโซลูชั่นด้านการใช้งานที่ครบวงจรให้กับลูกค้ามากกว่าการขายผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว ทั้งการเปิดรับพันธมิตรร่วมทำการตลาดครั้งนี้ เท่ากับเป็นการขยายตลาดจากเดิมที่อยู่ในกลุ่มผู้ใช้โน้ตบุ๊กเพียงอย่างเดียวมาเป็นกลุ่มลูกค้าไว-ไฟอีกด้วย นับเป็นการคอร์สเซ็กชันการตลาดของเอชพีครั้งแรก” นายปวิณกล่าว
จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เอชพีนำเสนอกับลูกค้าคือ 1. โมบายออฟฟิศ 2. โมบายเพอร์ฟอร์แมน และ 3. กลุ่มโมบายเอ็นเทอร์เทนเมนต์ โดยมีสัดส่วนในการทำตลาด 50%, 5% และ 45 % ตามลำดับ และคาดว่ากลุ่มโมบายเอ็นเทอร์เทนเมนต์จะเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตอย่างมาก เอชพีจึงมีการเตรียมตัวในการทำตลาดลูกค้าในกลุ่มนี้
“นับจากการนี้ต่อไป เอชพีจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดด้วยการจับมือกับพันธมิตรในแต่ละวงการเพื่อการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของเอชพีในและซีรีส์ไปตามตลาดกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการจัดแคมเปญการตลาดร่วมกับพาร์ตเนอร์ในวงการนั้น เช่น พันธมิตรในธุรกิจค่ายหนัง ฟังเพลง ที่อยู่ในระหว่างพูดคุยกันเพื่อเตรียมจัดแคมเปญร่วมกัน รวมทั้งลูกค้าในกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มธุรกิจการเงิน ไฟแนนซ์ ที่อยู่ในระหว่างการจัดแคมเปญร่วมกับพันธมิตร
ในส่วนตลาดรวมโน้ตบุ๊กในปีนี้คาดจะตกประมาณ 250,000-260,000 เครื่อง เติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 240,000 เครื่อง โดยมีอัตราการเติบโตประมาณปีละ 12% เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่โตประมาณ 11 % โดยในปีนี้เอชพีคาดว่าจะมีการเติบโตมากกว่าตลาด 1 เท่าตัว
ผู้บริหารเอชพีกล่าวว่า จากการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ ทำให้เอชพีกลายเป็นแบรนด์พรีเมียมที่มุ่งมอบประสบการณ์จริงในการใช้งานให้กับผู้ใช้ และความคุ้มค่าต่อการใช้งาน โดยมองการเปิดตัวทำตลาดในเมืองไทยของโน้ตบุ๊กสั่งประกอบเองตามออเดอร์ว่า ไม่น่าจะส่งกระทบกับตลาด ด้วยเหตุผลที่ว่า 6-7 อันดับ จากที่ 1 ในตลาดก็ยังเป็นของแบรนด์อินเตอร์ โดยเอชพีจะมุ่งนำเสนอโซลูชั่นกับแคมเปญที่เหมาะสมในแต่ละตลาดให้กับกลุ่มลูกค้า เพื่อแข่งขันกับการทำราคาของโน้ตบุ๊กสั่งประกอบ
|
|
|
|
|