อะไรเอ่ยดูเผินๆหน้าตาคล้ายซีดีเพลงทั่วๆไปส่วนเครื่องเล่นก็ละม้ายวีซีอาร์รุ่นล่าสุดที่ทั้งเพรียวและบาง คำเฉลยก็คือ วิดีโอดิสก์ระบบดิจิตอล (ดีวีดี) ซึ่งผู้พัฒนาคุยว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่เอี่ยมที่จะมาเขี่ยวิดีโอคาสเซตต์เลเซอร์ดิสก์และซีดีตกตลาดในไม่ช้า
ทั้งนี้เพราะดีวีดีสามารถเล่นหนังเรื่องยาวได้สบายๆหรือแม้แต่โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพลง ได้ทั้งนั้นแค่ด้านเดียวจุข้อมูลได้ถึง 4.7 กิกะไบต์ หรือเท่ากับซีดี-รอม 7 แผ่นหรือฟล็อปปี้ดิสก์ 3,200 แผ่น นอกจากจะเหนือชั้นด้านปริมาณแล้ว เรื่องของคุณภาพก็สบายใจหายห่วงจากการสาธิตเมื่อไม่นานมานี้ ปรากฎว่าดีวีดีให้คุณภาพเสียงและภาพคมชัดแจ่มแจ๋วกว่าเลเซอร์ดิสก์และซีดีหลายเท่าตัว
แต่ดีวีดีรุ่นแรกที่จะลงตลาดจะสั่งเพลย์แบ็กได้อย่างเดียว ถ้าอยากได้รุ่นที่อัดได้ต้องอดใจรอกันสักหน่อย
แต่ถึงจะเนี้ยบขนาดนี้ทว่า การที่ดีวีดีจะเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคหรือไม่นั้นยังเป็นเรื่องที่ต้องฝ่าฟันกันต่อไป ด่านแรกสุดน่าจะอยู่ที่การมีซอฟต์แวร์คุณภาพเยี่ยมออกมารองรับก่อน แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าประสิทธิภาพที่กินขาดในการก๊อปปี้ทำให้ฮอลลีวูดและค่ายแผ่นเสียงยังหวั่นไม่หายว่าจะถูกมือดีลักลอบก๊อบจนป่นปี้ อุตสาหกรรมบันเทิงทั้งสองประเภทจึงยังชะลอการทำซอฟต์แวร์ป้อนเครื่องเล่นดีวีดีไปพลางๆ
แม้ว่าทางผู้พัฒนาดีวีดี (มัตซูชิตะ,ฟิลิปส์,ไพโอเนียร์,โซนี่,ธอมสัน,โตชิบา,วิคเตอร์และไทม์ วอร์เนอร์) จะตกลงกันได้ในเรื่องมาตรฐานการใส่รหัสเบื้องต้นซึ่งเพียงพอที่จะป้องกันการลักลอบก๊อปปี้ที่บ้าน แต่ดูเมือนว่ามาตรการนี้จะยังไม่รัดกุมพอสำหรับผู้ลักลอบก๊อบมืออาชีพ
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้พัฒนาดีวีดียังตกลงปรับฟอร์แมทของดิสก์และเครื่องเล่นให้แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค พูดง่ายๆก็คือ ดิสก์ที่ซื้อจากอเมริกาไม่สามารถเล่นได้กับเครื่องเล่นที่ซื้อในญี่ปุ่น แต่ก็อีกนั่นแหละ มาตรการแก้ปัญหาข้อนี้รังแต่จะบั่นทอนเสน่ห์ของดีวีดีลงอย่างน่าเสียดาย
แม้ตอนนี้หลายคนจะเชื่อถือในประสิทธิภาพของดีวีดี แต่คนกลุ่มนี้ก็บอกว่าขอรอไปก่อนจนกว่าจะมีซอฟต์แวร์มารองรับ โอโมริ ไคสุเกะนักการตลาดของโตชิบา ยอมรับว่าความพร้อมด้านซอฟต์แวร์เป็นกุญแจสำคัญสำหรับความสำเร็จของดีวีดี “ในญี่ปุ่นหลายบริษัทรับปากว่าจะผลิตซอฟต์แวร์มาป้อน แต่ในสหรัฐฯและส่วนอื่นๆของโลก ยังไม่เห็นวี่แววเท่าไหร่” ไคสุเกะประเมินว่า จะมีซอฟต์แวร์หนังออกมาประมาณ 40-50 เรื่องก่อนสิ้นปีนี้ในตลาดญี่ปุ่น สนนราคาน่าจะตกแผ่นละ 25 ดอลลาร์
แน่นอน ศักยภาพในการจุข้อมูลย่อมทำให้คอหนังมันสะใจยิ่งขึ้น ระบบเสียงหายห่วงเพราะเป็นดอลบี้กระหึ่งรอบทิศ มุขเด็ดของดีวีดีคือผู้ชมสามารถเลือกมุมกล้องเองได้ และหากตอนจบเศร้าไปก็สามารถเปลี่ยนให้แฮปปี้เอ็นดิ้งได้เหมือนกัน ทว่า ฟังก์ชั่นพิเศษเหล่านี้ขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์ที่บรรจุดอยู่ในเครื่องเล่นด้วย
จนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าทางผู้พัฒนาดีวีดีจะพยายามผลักดันฟอร์แมทภาพยนตร์มากกว่าซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์แต่ความสำเร็จของซีดี-รอมก็อาจเปลี่ยนใจผู้พัฒนาได้เหมือนกัน ดังนั้น หลังจากดูหนังจบยูสเซอร์อาจจะเปลี่ยนไปท่องเวิลด์ไวด์เว็บเป็นรายการต่อไป ถัดจากนั้นก็อาจจะเรียกเกมระบบอินเตอร์แอกทีฟมาเล่นหรือไม่ก็ค้นข้อมูลในเอ็นไซโคลพีเดีย ทั้งหมดนี้รันอยู่บนหน้าจอพีซีทั้งสิ้น เครื่องเล่นดีวีดีในอนาคตยังอาจจะเล่นกับซีดีหรือซีดี-รอมได้ด้วย
ถ้าเช่นนั้น เมื่อไหร่ฮอลลีวูดจะใจอ่อนเสียที? คำตอบคือใกล้แล้ว เพราะหลังจากถกเถียงกันวุ่นวายมาปีที่แล้วบรรดาผู้ผลิตก็ตกลงปลงใจในเรื่องมาตรฐานระบบปฏิบัติการกันเป็นที่เรียบร้อย นัยว่าเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนตอนที่โซนี่เชียร์วิดีโอระบบเมต้าแม็กซ์ขาดใจ ข้างมัตซูชิตะก็ลุ้นระบบวีเอชเอสสุดตัวเหมือนกัน แต่ที่สุดวีเอชเอสที่คุณภาพต่ำกว่าก็ได้รับการชูมือจากกรรมการ
และจากแรงกดดันของฮอลลีวูดนี่เองทำให้เครื่องเล่นดีวีดีที่อัดได้ยังไม่สามารถลงตลาดในวันนี้ แต่ต้องเป็นอีก 2 ปีข้างหน้าและหากในช่วงระยะเวลานี้ ซอฟต์แวร์หนังดีวีดีให้เช่าทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำพอ ฮอลลีวูดก็อาจเปลี่ยนใจยอมนำหนังยอดฮิตมาบรรจุลงแผ่นดีวีดีออกขายทั้งที่ยังหากับดักป้องกันพวกนักก๊อบไม่ได้ก็ตาม
เช่นเดียวกับทางโตชิบาและมัตซูชิตะที่ทนนิ่งเฉยต่อไปไม่ได้แล้ว แม้จะมีปัญหาอีกมากที่รอการสะสาง แต่ทั้งคู่ก็เต็มใจเสี่ยงเปิดตัวเครื่องเล่นดีวีดีระลอกแรกในญี่ปุ่นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มีทั้งรุ่นที่เป็นเครื่องเล่นเดี่ยวๆกับรุ่นที่ต่อเข้ากับทีวี ราคาต่างกันไปในแต่ละตลาดในญี่ปุ่นเริ่มที่ 700 ดอลลาร์สำหรับในสหรัฐฯนั้นทั้งสองค่ายวางแผนเปิดตัวก่อนสิ้นปีและปีหน้าในฮ่องกง
คงต้องรออีกระยะกว่าที่ยอดขายดีวีดีจะติดปีกปัญหาก็คงเป็นเรื่องเดิมๆคือ ผู้บริโภคคงไม่อยากเสียเงินไม่ใช่น้อยซื้อดีวีดีมาใช้แต่ไม่มีแผ่นจะเล่น เช่นเดียวกับทางด้านผู้พัฒนาที่ต่างเชื่อมั่นเต็มร้อยว่าดีวีดีเป็นเทคโนโลยีสดใหม่ที่จะมาปฏิวัติระบบความบันเทิงภายในบ้าน ซึ่งผู้สังเกตการณ์จำนวนมากก็เอนเอียงไปแล้วเกินครึ่ง แต่ที่ยังข้องใจไม่หายก็คือ เมื่อไหร่ที่ดีวีดีจะทำความฝันของผู้พัฒนาให้กลายเป็นความจริงเสียทีเท่านั้นเอง
|