|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ ตุลาคม 2539
|
|
“เราเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยกว่า 10 ปีโดยเน้นที่ตลาดรถยนต์นั่งแต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลูกค้าของเราได้เรียกร้องที่จะเห็นรถยนต์ฮอนด้าในรูปลักษณ์ต่างๆที่หลากหลายกว่านี้ เราจึงคิดค้นหาวิธีและพัฒนาเพื่อให้ได้รถยนต์ครอบคลุมตลาดต่างๆมากขึ้น ครั้งนี้ก็เป็นหนทางหนึ่ง ที่ทำให้เราสามารถเปิดตลาดรถยนต์ปิกอัพในไทยได้” ซาอิชิโร ฟูจิเอะ ประธานบริษัท ฮอนด้าคาร์ส์(ประเทศไทย) จำกัดกล่าว
ตลาดรถยนต์ปิกอัพในเมืองไทย แม้ว่าช่วงเวลาหนึ่งเมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อนจะมีแนวโน้มไม่ขยายตัวแต่มาวันนี้ค่อนข้างชัดเจนว่า บทบาทของรถยนต์ปิกอัพจะยังคงเข้มข้นอยู่ต่อไป เป็นตลาดหลักของรถยนต์เมืองไทยและอีกหลายประเทศที่เศรษฐกิจเริ่มเติบโตขึ้น
เหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ฮอนด้า ต้องขวนขวายเพื่อหาทางลงมาเล่นในตลาดนี้
สำหรับเมืองไทยฟูจิเอะ ได้ชี้ให้เห็นตัวเลชและการเติบโตของตลาดรถยนต์ว่าภายในปี 2539 นี้ยอดจำหน่ายรถยนต์ของไทยจะสูงถึง 600,000 คันและในปีค.ศ. 2000 หรือพ.ศ. 2543 ประเทศไทยได้ถูกทั่วโลกจับตามองว่าจะเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
ฮอนด้าคาร์ส์จึงได้วางแนวทางที่จะส่งรถยนต์เข้าสู่ตลาดเมืองไทยให้ครบทุกระดับในตลาดหลักๆและตลอดเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ในส่วนของตลาดรถยนต์นั่งนั้นเส้นทางเดินแต่ละช่วงได้ทำให้ตลาดรถยนต์ฮอนด้า แข็งแกร่งขึ้นสามารถเติบโตขึ้นเป็นอันดับสอง รองเพียงโตโยต้าเท่านั้นและที่สำคัญภาพพจน์ของฮอนด้าแข็งแกร่งและดูดีขึ้นเป็นเงาตามตัว ควบคู่ไปกับยอดจำหน่าย
ในหมู่รถยนต์นั่งด้วยกันแล้ว ฮอนด้าถือว่ามีจุดแข็งอยู่มากทีเดียวไม่ด้อยไปกว่ายักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้า แต่ขณะที่ฮอนด้ารักษาจุดแข็งในส่วนตลาดรถยนต์นั่ง ให้ดำรงอยู่ต่อไปก็ใช่ว่าจะสามารถขยายตลาดออกไปในวงกว้างได้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะตลาดรถยนต์นั่งของฮอนด้ากระจุกตัวอยู่ที่เมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครและเมืองใหญ่ๆเท่านั้น
เหตุผลหนึ่งเพราะฮอนด้ามีแต่รถยนต์นั่งไม่มีรถยนต์ขวัญใจชาวต่างจังหวัดอย่างปิกอัพ นี่คือข้อด้อยตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา
เมื่อโครงการผลิตรถยนต์แลกเปลี่ยนระหว่างฮอนด้ากับอีซูซุ สัมฤทธิผลในญี่ปุ่น จึงไม่รั้งรอที่จะขยายผลมายังเมืองไทย
“การขยายตัวของตลาดรถยนต์เมืองไทย เริ่มจากหัวเมืองใหญ่ไปสู่ส่วนภูมิภาค ซึ่งทำให้เกิดการใช้รถยนต์ในรูปแบบต่างๆขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้บริโภคที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนภูมิภาค รถยนต์เพื่อการพาณิชย์จะมีการขยายตัวสูง ฮอนด้าทัวร์มาสเตอร์ ในรูปลักษณ์ของปิกอัพขนาด 1 ตันจึงออกสู่ตลาด” ฟูจิเอะกล่าว
ฮอนด้าคาร์ส์ได้เน้นการจำหน่ายไปที่ตลาดภูมิภาคเป็นหลัก โดยย้ำนโยบายต่อดีลเลอร์ทุกแห่งว่า โชว์รูมใดที่อยู่ในพื้นที่ต่างจัดหวัดจะต้องมีฮอนด้าทัวร์มาสเตอร์ ให้ลูกค้าได้เห็นและสัมผัสหรือทดลองขับได้ ส่วนในเขตกรุงเทพมหานครนั้น จะดูความเหมาะสมของแต่ละโชว์รูม
ปัจจุบันความต้องการรถยนต์ปิกอัพของเมืองไทยอยู่ที่ต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่คือประมาณ 70-80 % จากสถิติตรงนี้ ฮอนด้าคาร์ส์จึงวางเป้าหมายที่จะจำหน่ายทัวร์มาสเตอร์ไว้ที่ตลาดต่างจังหวัด 90% อีก 10% เป็นการจำหน่ายในกรุงเทพมหานครและในจำนวนยอดจำหน่ายนั้น ออนด้าคาร์ส์คาดหมายว่าจะเป็นยอดจำหน่ายที่เกิดจากลูกค้าเก่าของฮอนด้าคาร์ส์ราว 60-70% เท่านั้น
สำหรับยอดจำหน่ายนั้นในขั้นต้นคาดว่าจะจำหน่ายได้ 2,000 คันในปี 2539 นี้และตั้งเป้าในปี 2540 ไว้ที่ 5,000 คันซึ่งผู้บริหารของฮอนด้าคาร์ส์เชื่อว่าเป็นเป้าหมายที่ไม่สูงเกินไปนัก
ความน่าสนใจในการเปิดตัวฮอนด้าทัวร์มาสเตอร์ อีกประการหนึ่งก็คือฮอนด้าคาร์ส์ไม่ได้วางว่าจะใช้ปิกอัพทัวร์มาสเตอร์เป็นความหลากหลายใหม่ที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับลูกค้าเท่านั้น แต่จะใช้ทัวร์มาสเตอร์เป็นหัวหอกในการเปิดตลาดต่างจังหวัด สำหรับรุ่นอื่นๆด้วยหรืออย่างน้อยจะทำให้ผู้บริโภคในส่วนภูมิภาคหันมามองหรือเข้าออกโชว์รูมของฮอนด้ามากขึ้น
“เมื่อลูกค้าซื้อรถยนต์ปิกอัพฮอนด้า ทัวร์มาสเตอร์ไปใช้ เราเชื่อมั่นว่าลูกค้าจะต้องประทับใจในชื่อเสียงของฮอนด้า เพราะนอกจากสินค้าที่มีคุณภาพแล้ว เราได้เน้นเรื่องงานบริการหลังการขายเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจตรงนี้จะเป็นจุดขายของเราในต่างจังหวัดและคิดว่าโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการที่มีอยู่เกือบ 100 แห่งทั่วประเทศจะสามารถรองรับลูกค้าจากทุกจุดของประเทศได้และความพอใจนี้จะส่งผลไปยังรถยนต์รุ่นอื่นของฮอนด้าด้วย” ผู้บริหารของฮอนด้าคาร์ส์กล่าว
ยุทธศาสตร์ของฮอนด้าคาร์ส์ครั้งนี้อย่าคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา
เพราะนี่คือการรุกคืบไปข้างหน้าในพื้นที่ ที่ฮอนด้าคาร์ส์แทบไม่ได้รับความสนใจและครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพื่อแย่งแชร์ปิกอัพจากตลาด แต่เพื่อเป้าหมายที่สำคัญกว่านั้น
ฮอนด้าคาร์ส์ กำลังจะนำภาพพจน์และชื่อเสียงที่แข็งแกร่งไปเล่าขานให้ลูกค้าของยี่ห้ออื่นๆได้รับฟัง
เชื่อแน่ว่าฮอนด้าคาร์ส์ยังมีงานต่อเนื่องรออยู่และนับจากนี้ลูกค้าในต่างจังหวัด คงจะไม่คุ้นชื่อแต่เพียงโตโยต้า อีซูซุ นิสสันหรือมิตซูบิชิเท่านั้น
|
|
|
|
|