คนไทยส่วนใหญ่ดีใจไปกับเธอค่ะ...
ดิฉันหมายถึงดีใจไปกับข่าวดีของ ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก หรือ "ปุ๋ย" อดีต
นางสาวไทยและนางงามจักรวาลคนที่ 2 ของไทยวัย 34 ปี ที่กำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝา
กับมหาเศรษฐีอเมริกันวัยคราวพ่อ หลังจาก เธอมีความรักที่ไม่ถึงฝั่งมาหลายครั้ง
คุณสมบัติที่ได้รับการกล่าวขวัญถึง อย่างอื้ออึงสำหรับคนรักคนล่าของภรณ์ทิพย์
เห็นจะเป็นคุณสมบัติการเป็นอภิมหาเศรษฐี ของเขา
เขาผู้นี้มีชื่อว่า เฮอร์เบิร์ต ไซมอน (Herbert Simon)
ได้ยินชื่อนี้ตอนแรก ดิฉันนึกไปถึงผู้ที่ ได้รับรางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์
ปี 2521 แต่ก็นึกได้อีกทีว่าศาสตราจารย์เฮอร์ เบิร์ต ไซมอนได้ล่วงลับไปแล้วตั้งแต่เมื่อปี
กลาย ก็เลยเชื่อมั่นว่าคงจะไม่ใช่แน่ แม้จะมีชื่อตัวและชื่อสกุลเหมือนกันก็ตาม...
สำหรับเฮอร์เบิร์ต หรือเฮิร์บ (Herb) ไซมอนของภรณ์ทิพย์คนนี้ เขาเป็นประธาน
ร่วม (Co-Chairman) ของ Simon Pro-perty Group, Inc. (SPG) ซึ่งเป็นกลุ่มที่
ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ซึ่งใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ
(สหรัฐ อเมริกาและแคนาดา) คือเป็นทั้งเจ้าของ บริหารจัดการ ให้เช่าพื้นที่
ซื้อ และพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ โดยอสังหาริมทรัพย์ส่วน ใหญ่ของกลุ่มจะเป็นศูนย์การค้าในระดับ
ภูมิภาคและชุมชน ครอบคลุม 36 รัฐใน สหรัฐฯ และนอกจากจะมีธุรกิจใหญ่โตใน สหรัฐฯ
แล้ว SPG ยังมีธุรกิจอีกจำนวนหนึ่ง ในยุโรปและแคนาดาอีกด้วย
SPG มีมูลค่าทุนตามราคาตลาดอยู่ ประมาณ 2 หมื่น 1 พัน 5 ร้อยล้านดอลลาร์
สหรัฐ และสำหรับไตรมาสแรกของปีนี้ SPG มีรายได้เพิ่มขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์ เป็น
494 ล้าน 9 แสนดอลลาร์สหรัฐ
รู้อย่างนี้แล้ว ก็คงไม่แปลกใจใช่ไหมคะ ที่คุณแม่ของภรณ์ทิพย์มีท่าทีดีอกดีใจอย่าง
ออกนอกหน้ากับว่าที่ลูกเขยคนนี้ แม้จะออก ตัวว่าเขาอายุมากไปสักหน่อย รวมทั้งเคยผ่าน
การแต่งงานมาแล้วถึง 2 ครั้ง 2 ครา แต่ก็เชื่อ มั่นว่า คุณสมบัติทั้งสองประการหลังนี้ไม่เป็น
ปัญหาแต่อย่างใด
ก็ไม่ทราบเหมือนว่าเป็นเพราะสาเหตุ เดียวกันกับของ "คุณว่าที่แม่ยาย" หรือไม่
ที่ทำให้กระแสต้อนรับภรณ์ทิพย์และคนรัก ในการมาเยือนไทยครั้งหลังสุดนี้ ออกจะอบอุ่นกว่าครั้งก่อนๆ
ต้องยอมรับความจริงว่า ระยะหลัง มานี้ สังคมไทย "หายเห่อ" ภรณ์ทิพย์ หรือ
"พี่ปุ๋ย" ของเด็กๆ ไปมากโขแล้ว
อย่างไรก็ตาม ถ้าใครอยากดีใจกับ ภรณ์ทิพย์ให้มากไปกว่านี้ สามารถเข้าไป
ดูรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจของกลุ่มที่เธอ จะเข้าไปเป็นสะใภ้ ได้ที่เว็บไซต์ของ
SPG - www.shopsimon.com
อย่างไรก็ตาม เฮิร์บ ไซมอนเป็น เพียงส่วนหนึ่งของ SPG เท่านั้น
ผู้ซึ่งริเริ่มธุรกิจก่อนที่จะมาเป็น SPG ในวันนี้ คือพี่ชายคนโตของเฮิร์บที่ชื่อ
เมลวิน หรือเมล ไซมอน (Melvin "Mel" Simon) ซึ่งจะมีอายุครบ 76 ปี ในเดือน
ตุลาคมที่จะถึงนี้ ตำแหน่งปัจจุบันของเมล ก็คือ ประธานร่วมของ SPG เช่นเดียวกับ
เฮิร์บ
เมล ไซมอนเกิดและโตที่นิวยอร์ก แต่ระหว่างรับราชการทหารเขาถูกส่งไป ประจำการอยู่ที่อินเดียแนโพลิส
และเกิด ติดใจจนถึงขั้นย้ายถิ่นไปลงหลักปักฐาน ที่นั่น และต่อมา ได้ก่อตั้ง
Melvin Simon & Associates, Inc. ขึ้นในปี 2502 ซึ่ง เติบโตเรื่อยมาจนกลายเป็นบริษัทมหาชน
ทางด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับยักษ์ SPG ในปี 2536
ตอนที่เมล ไซมอน เริ่มธุรกิจด้านอสังหาริม ทรัพย์นี้ เขาได้ชักชวนน้อง
ชาย 2 คนเข้ามาร่วมงาน ด้วย แต่ทว่าเฟรด (Fred) น้องชายคนกลางมาทำอยู่ ด้วยกันพักหนึ่ง
ก็ปลีกตัว ออกไปจับธุรกิจด้านอื่น คง เหลือแต่น้องชายคนเล็กคือ เฮิร์บเท่านั้น
ที่ร่วมหัวจม ท้ายอยู่ด้วยกันจนทุกวันนี้
เฮิร์บซึ่งปัจจุบันอายุ 67 ปี เกิดที่บรูกลิน ใน นิวยอร์ก เช่นเดียวกับ
พี่น้องคนอื่นๆ เขาจบการ ศึกษาทางด้านธุรกิจจาก City College of New York
และเมื่อพี่ชายก่อตั้ง Melvin Simon & Associates, Inc. เขาก็มี ตำแหน่งเป็นประธานร่วม
โดยที่ก่อนหน้า นั้น เขาเคยทำงานให้กับ Albert Frankel Company อยู่ระยะหนึ่ง
นอกจากธุรกิจทางด้านอสังหาริม ทรัพย์แล้ว เฮิร์บและเมลวิน ไซมอนยังได้
ร่วมกันเป็นเจ้าของทีมบาสเกตบอล "Indiana Pacers" ของเอ็นบีเอ (NBA - National
Basketball Association) อีกด้วย โดยสองพี่น้องได้ร่วมกันพัฒนาทีม บาสเกตบอลนี้จนโดดเด่นเป็นที่กล่าว
ขวัญถึง
ครอบครัวไซมอน ไม่ได้จับแต่งาน ธุรกิจเท่านั้น พวกเขายังสนใจกิจกรรมทาง
ด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมทั้งได้ก่อ ตั้ง Simon Youth Foundation (SYF)
เพื่อให้โอกาสแก่เด็กและเยาวชนใน รูปแบบต่างๆ ส่วน หนึ่งเป็นเพราะปรัชญาในการ
ทำงานของกลุ่มนี้ ที่ต้องการจะเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและชุมชนนั่นเอง
คงอยากทราบใช่ไหมคะว่า เวลานี้ใครคือผู้บริหาร สูงสุด หรือ ซีอีโอ (CEO)
ของ SPG เพราะทั้งเมล และเฮิร์บ ไซมอน ก็อายุมากแล้ว
อย่างไรเสียหนีไม่พ้นคน ในตระกูลไซมอนหรอกค่ะ...
ซีอีโอคนปัจจุบันของ SPG คือเดวิด ไซมอน (David Simon) อายุ 41 ปี เดวิดซึ่งหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว
เป็นลูกชายคนโตของเมล เขาจบปริญญาตรี จาก Indiana University และไปต่อปริญญา
โท ทางด้านบริหารธุรกิจที่ Columbia Uni-versity เดวิดเคยทำงานกับ First
Boston Corp. และ Wasserstein Perella & Co. ก่อนที่จะมาดูแลธุรกิจที่ครอบครัวก่อร่าง
สร้างไว้
นอกจากเดวิด ไซมอนแล้ว ลูกหลาน คนอื่นๆ ของครอบครัวไซมอน ต่างก็ช่วย ทำธุรกิจในเครือกันอย่างเอาการเอางาน
หลายคนด้วยกัน
ตอนนี้ก็มาถึงเรื่องส่วนตัวของเฮิร์บ ไซมอนกันล่ะค่ะ
เฮิร์บแต่งงานครั้งแรกกับชีลา รูท ไซมอน (Sheila Ruth Simon) ระหว่างปี
2502 - 2519 มีบุตรด้วยกัน 1 คน คือ สตีเฟน (Stephen) ซึ่งเวลานี้เป็นซีอีโอของ
Melvin Simon & Associates, Inc. อีกทั้งเป็นประธาน SYF และกรรมการ "Indiana
Pacers"
ต่อมาในปี 2524 เฮิร์บ ไซมอนได้ แต่งงานใหม่กับไดแอน ไมเออร์ ไซมอน (Diane
Meyer Somon) ทั้งคู่มีบุตรด้วย กัน 3 คน คือ ซาราห์ (Sarah) เรโชล (Rachel)
และแอชเชอร์ (Asher) ในที่สุด การแต่งงานครั้งที่ 2 ก็จบลงด้วยการเลิกร้าง
อีกเช่นกัน
ไดแอน ไมเออร์ ไซมอน วัย 50 ปี เป็นผู้หญิงอเมริกันที่มีความโดดเด่นในเรื่อง
กิจกรรมทางการเมืองและสังคมคนหนึ่ง โดย เฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม หลังจากที่เลิกกับ
เฮิร์บแล้ว ก็มีข่าวลือว่าเธอมีความสัมพันธ์ ลึกซึ้งกับพ่อม่ายมีฮาอิล กอร์บาชอฟ
(Mikhail Gorbachev) อดีตประธานาธิบดี ของอดีตสหภาพโซเวียต แต่ทางเจ้าหน้าที่
ของกอร์บาชอฟได้ออกมาปฏิเสธข่าวดัง กล่าวว่าเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระ ยอมรับ
แค่เพียงว่าทั้งคู่เป็น "เพื่อน" กัน
แม้ไดแอน ไมเออร์ ไซมอนจะแก่ กะรัตกว่าภรณ์ทิพย์โขอยู่ แต่เท่าที่เห็นจาก
ภาพ รูปร่างหน้าตาของเธอก็ยังดูดีเข้าท่า เข้าทีอยู่ไม่น้อย
บางคนเปรียบภรณ์ทิพย์ว่าเป็น ซินเดอเรลลา...
ถ้าจะมองในมุมของเทพนิยายแบบ นั้น ดิฉันคงต้องจบเรื่องนี้ว่า...
แล้วทั้งคู่ก็ครองรักร่วมกันอย่างมี ความสุขชั่วนิรันดร!
The beautiful girl meets an old prince, they fall in love, get married
and then live happily ever after!