Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน30 มิถุนายน 2548
"สุวิทย์" เชื่ออี-กัฟเวิร์นเมนต์เสร็จ ยอดผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่ม 20 ล้าน             
 


   
www resources

โฮมเพจ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

   
search resources

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร




"สุวิทย์" ผลักดันให้หน่วยงานราชการมีการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ยันโครงข่ายที่เข้าถึงพร้อมทุกหน่วยงาน แต่ผู้ใช้ขาดทักษะ เชื่อหากโครงการอี-กัฟเวิร์นเมนต์เสร็จสมบูรณ์ ข้าราชการ 20 ล้านคน จะต้องใช้เน็ต ด้านเอชพีและอีเอสอาร์ไอมอบระบบไอทีหนุนโครงการเนชันแนล จีไอเอส พอร์ทัล มูลค่ากว่า 29 ล้านบาท พัฒนาเป็นฐานข้อมูลสำหรับภาครัฐ ขณะที่นายกฯ จี้โครงการสมาร์ทการ์ด

นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงแผนการดำเนินการเกี่ยวกับระบบรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-กัฟเวิร์นเมนต์ ว่า ในอีก 1-2 ปี ระบบ อี-กัฟเวิร์นเมนต์เชื่อว่าน่าจะดีขึ้น 100% เพราะไทยเริ่มจากทีละน้อย และหาก ระบบนี้เสร็จสมบูรณ์จะทำให้ข้าราชการที่มีประมาณ 20 ล้านคนใช้อินเทอร์เน็ต เนื่องจากมีระบบบริหารจัดการแบบออนไลน์ ข้าราชการทุกส่วนต้องการใช้ต้องปฏิบัติตาม

ด้านโครงข่ายของระบบไอทีที่เข้าถึงหน่วยงานราชการขณะนี้พร้อม แต่ยังขาดการส่งเสริมให้มีการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรัฐบาลพยายามผลักดันในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝึกอบรม แต่ข้าราชการก็ยังไม่มีการนำมาใช้งานอย่างเต็มที่

เกตส์ สนใจไอซีทีไทยแลนด์อไลอัลซ์

ส่วนการเดินทางมาประเทศไทยของนายบิลล์ เกตส์ ประธาน บริษัท ไมโครซอฟท์นั้น นายสุวิทย์กล่าวว่า การเดินทางมาไทยของบิลล์ เกตส์ถือให้ความสำคัญกับประเทศไทยแล้ว และการเข้ามาของเกตส์เพราะเห็นว่าไทยมีการพัฒนาในเรื่องของอุตสาหกรรมไอซีที มีอี-ไทยแลนด์ และให้ความสนใจในหลายๆ โครงการ เช่น โครงการไอซีที ไทยแลนด์ อไลอัลซ์ หรือพันธมิตรในการร่วมมือพัฒนาอุตสาหกรรมไอซีที เป็นต้น ซึ่งไมโครซอฟท์ต้องการที่จะเข้ามามีบทบาทในเรื่องดังกล่าว

การพัฒนาไอซีทีจะทำให้ภาครัฐและเอกชนเกิดการขับเคลื่อนองค์กรมากขึ้น จากเดิมต่างฝ่ายต่างทำ ถ้ามีพันธมิตรและมีการเชื่อมต่อระบบจะทำให้เกิดประโยชน์มากขึ้น รัฐบาลมีอี-เซอร์วิสมากขึ้น ซึ่งทางเอกชนซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติเองก็ให้ความสนใจในเรื่องของการพัฒนาไอซีที ไม่ว่าจะเป็นฮิวเลตต์-แพคการ์ด (เอชพี) ไมโครซอฟท์ ซัน ไมโครซิสเต็มส์ หรือออราเคิล

จัดระบบฐานข้อมูลภาครัฐ

พร้อมกันนี้ กระทรวงไอซีทีได้รับมอบระบบไอทีทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จากเอชพี (ประเทศไทย) และบริษัท อีเอส อาร์ไอ (ประเทศไทย) มูลค่ากว่า 29 ล้านบาท เพื่อใช้งานในโครงการภูมิสารสนเทศสำหรับศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (เนชันแนล จีไอเอส พอร์ทัล) เพื่อให้ภาครัฐมีฐานข้อมูลด้านภูมิศาสตร์ประเทศไทยที่ครบถ้วนทันสมัย และทันต่อสถานการณ์ เพื่อใช้ในการวางแผนการวิเคราะห์ และการแสดงผลที่ถูกต้องแม่นยำ โดยสามารถนำเอาผลลัพธ์ไปใช้ในการวางแผนและพัฒนาประเทศต่อไป ส่วนการรักษาระบบเอกชนจะดำเนินการดูแลรักษาให้เป็นระยะเวลา 1 ปี

ระบบดังกล่าวจะให้บริการแบบวันสตอปเชอร์วิสกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อสามารถเข้าถึงข้อมูล Geospatial Portal ได้ตลอดเวลาแบบ 24 ชั่วโมง 7 วัน หรือ 24 X 7 ซึ่งทางกระทรวงไอซีทีมีแผนจะพัฒนาระบบนี้ให้เป็นระบบฐานข้อมูลของภาครัฐทั้งหมด เพื่อให้เกิดความง่ายและสะดวกในการนำข้อมูลไปใช้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง ขณะเดียวกันยังสามารถลำดับความสำคัญได้ด้วย เช่น การแก้ปัญหาภัยแล้ง สามารถรู้ได้ว่ามีพื้นที่ไหนบ้าง ต้องใช้งบเท่าไหร่ เป็นต้น

"ระบบนี้เราใช้มาตั้งแต่เดือนม.ค. ที่มีการนำไปใช้งานเกี่ยวกับภัยพิบัติสึนามิ แต่เซิร์ฟเวอร์มีขนาดใหญ่มาก เราจึงมีการพัฒนาให้เป็นระบบฐานข้อมูลของภาครัฐ"

นายกฯ จี้สมาร์ทการ์ด

นายสุวิทย์กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์หรือสมาร์ทการ์ดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้เร่งดำเนินการโครงการสมาร์ทการ์ด เนื่องจากโครงการมีความล่าช้าทั้งที่เป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางกระทรวงไอซีทีได้ให้คณะกรรมการตรวจรับบัตรสมาร์ทการ์ดไปดำเนินการตั้งแต่เดือน พ.ค. ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป และจะมีการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us