|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"สุวิทย์" ผลักดันให้หน่วยงานราชการมีการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ยันโครงข่ายที่เข้าถึงพร้อมทุกหน่วยงาน แต่ผู้ใช้ขาดทักษะ เชื่อหากโครงการอี-กัฟเวิร์นเมนต์เสร็จสมบูรณ์ ข้าราชการ 20 ล้านคน จะต้องใช้เน็ต ด้านเอชพีและอีเอสอาร์ไอมอบระบบไอทีหนุนโครงการเนชันแนล จีไอเอส พอร์ทัล มูลค่ากว่า 29 ล้านบาท พัฒนาเป็นฐานข้อมูลสำหรับภาครัฐ ขณะที่นายกฯ จี้โครงการสมาร์ทการ์ด
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงแผนการดำเนินการเกี่ยวกับระบบรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-กัฟเวิร์นเมนต์ ว่า ในอีก 1-2 ปี ระบบ อี-กัฟเวิร์นเมนต์เชื่อว่าน่าจะดีขึ้น 100% เพราะไทยเริ่มจากทีละน้อย และหาก ระบบนี้เสร็จสมบูรณ์จะทำให้ข้าราชการที่มีประมาณ 20 ล้านคนใช้อินเทอร์เน็ต เนื่องจากมีระบบบริหารจัดการแบบออนไลน์ ข้าราชการทุกส่วนต้องการใช้ต้องปฏิบัติตาม
ด้านโครงข่ายของระบบไอทีที่เข้าถึงหน่วยงานราชการขณะนี้พร้อม แต่ยังขาดการส่งเสริมให้มีการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรัฐบาลพยายามผลักดันในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝึกอบรม แต่ข้าราชการก็ยังไม่มีการนำมาใช้งานอย่างเต็มที่
เกตส์ สนใจไอซีทีไทยแลนด์อไลอัลซ์
ส่วนการเดินทางมาประเทศไทยของนายบิลล์ เกตส์ ประธาน บริษัท ไมโครซอฟท์นั้น นายสุวิทย์กล่าวว่า การเดินทางมาไทยของบิลล์ เกตส์ถือให้ความสำคัญกับประเทศไทยแล้ว และการเข้ามาของเกตส์เพราะเห็นว่าไทยมีการพัฒนาในเรื่องของอุตสาหกรรมไอซีที มีอี-ไทยแลนด์ และให้ความสนใจในหลายๆ โครงการ เช่น โครงการไอซีที ไทยแลนด์ อไลอัลซ์ หรือพันธมิตรในการร่วมมือพัฒนาอุตสาหกรรมไอซีที เป็นต้น ซึ่งไมโครซอฟท์ต้องการที่จะเข้ามามีบทบาทในเรื่องดังกล่าว
การพัฒนาไอซีทีจะทำให้ภาครัฐและเอกชนเกิดการขับเคลื่อนองค์กรมากขึ้น จากเดิมต่างฝ่ายต่างทำ ถ้ามีพันธมิตรและมีการเชื่อมต่อระบบจะทำให้เกิดประโยชน์มากขึ้น รัฐบาลมีอี-เซอร์วิสมากขึ้น ซึ่งทางเอกชนซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติเองก็ให้ความสนใจในเรื่องของการพัฒนาไอซีที ไม่ว่าจะเป็นฮิวเลตต์-แพคการ์ด (เอชพี) ไมโครซอฟท์ ซัน ไมโครซิสเต็มส์ หรือออราเคิล
จัดระบบฐานข้อมูลภาครัฐ
พร้อมกันนี้ กระทรวงไอซีทีได้รับมอบระบบไอทีทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จากเอชพี (ประเทศไทย) และบริษัท อีเอส อาร์ไอ (ประเทศไทย) มูลค่ากว่า 29 ล้านบาท เพื่อใช้งานในโครงการภูมิสารสนเทศสำหรับศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (เนชันแนล จีไอเอส พอร์ทัล) เพื่อให้ภาครัฐมีฐานข้อมูลด้านภูมิศาสตร์ประเทศไทยที่ครบถ้วนทันสมัย และทันต่อสถานการณ์ เพื่อใช้ในการวางแผนการวิเคราะห์ และการแสดงผลที่ถูกต้องแม่นยำ โดยสามารถนำเอาผลลัพธ์ไปใช้ในการวางแผนและพัฒนาประเทศต่อไป ส่วนการรักษาระบบเอกชนจะดำเนินการดูแลรักษาให้เป็นระยะเวลา 1 ปี
ระบบดังกล่าวจะให้บริการแบบวันสตอปเชอร์วิสกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อสามารถเข้าถึงข้อมูล Geospatial Portal ได้ตลอดเวลาแบบ 24 ชั่วโมง 7 วัน หรือ 24 X 7 ซึ่งทางกระทรวงไอซีทีมีแผนจะพัฒนาระบบนี้ให้เป็นระบบฐานข้อมูลของภาครัฐทั้งหมด เพื่อให้เกิดความง่ายและสะดวกในการนำข้อมูลไปใช้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง ขณะเดียวกันยังสามารถลำดับความสำคัญได้ด้วย เช่น การแก้ปัญหาภัยแล้ง สามารถรู้ได้ว่ามีพื้นที่ไหนบ้าง ต้องใช้งบเท่าไหร่ เป็นต้น
"ระบบนี้เราใช้มาตั้งแต่เดือนม.ค. ที่มีการนำไปใช้งานเกี่ยวกับภัยพิบัติสึนามิ แต่เซิร์ฟเวอร์มีขนาดใหญ่มาก เราจึงมีการพัฒนาให้เป็นระบบฐานข้อมูลของภาครัฐ"
นายกฯ จี้สมาร์ทการ์ด
นายสุวิทย์กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์หรือสมาร์ทการ์ดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้เร่งดำเนินการโครงการสมาร์ทการ์ด เนื่องจากโครงการมีความล่าช้าทั้งที่เป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางกระทรวงไอซีทีได้ให้คณะกรรมการตรวจรับบัตรสมาร์ทการ์ดไปดำเนินการตั้งแต่เดือน พ.ค. ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป และจะมีการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร
|
|
|
|
|