Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2539
อนาคตฟอร์ด 2000             
 





ในสนามธุรกิจรถยนต์โลก ดูเหมือนว่าฟอร์ดมอเตอร์จะสตาร์ทเครื่องช้ากว่าเพื่อน แต่ด้วยวิสัยทัศน์ “ฟอร์ด 2000” ทำให้เอ็ด ฮาเก้นล็อคเกอร์ ผู้บริหารอันดับสองของบริษัทมั่นใจว่าฟอร์ดจะเร่งเครื่องร้อนไล่บี้คู่แข่งได้ทันท่วงที สภาพของฟอร์ดที่เพิ่งผ่านมา ดูท่าว่าชะตากรรมจะตกต่ำถึงชีดสุด ผลกำไรในปีที่แล้วเกือบจะหดหาย ขณะที่การดำเนินงานในยุโรป ก็ถูกจีเอ็มแซงหน้าทั้งยอดขายและกำไร ขณะที่ในวอลล์สตรีทหุ้นของฟอร์ดยังคงขายในระดับเดียวกับเมื่อสองปีที่แล้ว

“ทุกคนรีบร้อนตัดสินกันเร็วเกินไป” เอ็ด ฮาเก้นล็อคเคอร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ดูแลการดำเนินงานทั่วโลก ผู้บริหารมือวางอันดับสองของฟอร์ดแย้ง

ฮาเก้นล็อคเกอร์กล่าวว่าฟอร์ดได้ผ่านจุดต่ำสุดในวงจรนี้มาแล้ว และกำลังจะทะยานขึ้นอีกครั้ง“ผมเคยสัญญาในสิ่งที่ผมทำไม่ได้หรือเปล่า?” ฮาเก้นล็อคเกอร์ย้อนถามนิตยสารฟอร์บส์ที่ไปสัมภาษณ์

ข้อเท็จจริงคือว่าเขายังไม่เคยหลายปีที่ผ่านมา ฮาเก้นล็อคเกอร์คาดการณ์ว่ารถบรรทุกของฟอร์ดจะแซงหน้าของจีเอ็มได้ ซึ่งในขณะนั้นดูจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก แต่แล้วมันก็เกิดขึ้นได้จริงๆ

ฮาเก้นล็อคเกอร์ในวัย 56 ปีไม่ได้เป็นผู้บริหารในวงการรถยนต์ตามแบบฉบับที่เห็นได้ทั่วไป เขาได้ปริญญาเอกสาขานิวเคลียร์ฟิสิกส์ แต่ขึ้นเป็นผู้บริหารอันดับ 2 ของฟอร์ดได้จากการคาดการณ์แม่นยำเกี่ยวกับตลาดรถบรรทุกและการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เกือบจะได้รับความนิยมและทำกำไรที่สุดให้กับฟอร์ดนั่นคือฟอร์ด EXPLORER และรถปิกอัพ BIG F ซีรีส์

ถึงแม้ว่ากำไรไตรมาสแรกของฟอร์ดจะต่ำกว่าปีที่แล้ว แต่ฮาเก้นล็อคเกอร์เตือนว่า “เมื่อคุณเห็นผลกำไรที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2,3และ 4 คุณจะเห็นว่าเราเริ่มที่จะเลื่อนไหลไปตามบางส่วนของการปรับปรุงต้นทุนอย่างที่เราพูดไว้ในแผนฟอร์ด 2000” ซึ่งทางวอลล์สตรีทก็เห็นด้วย ฮาร์เก้นล็อคเกอร์คาดการณ์ว่าฟอร์ดจะชิงส่วนแบ่งตลาดที่เสียไปกลับคืนมาจากการแข่งขันทำยอดขายในช่วงสิ้นปีจากปิกอัพ TAURUS และรถรุ่นใหญ่ใหม่ EXPEDITION

TAURUS ในราคา 20,000 ดอลลาร์ขึ้นไป นับเป็นราคาในช่วงกลาง ซึ่งฮาเก้นล็อคเกอร์กล่าวว่าจะทำยอดขายแซงฮอนด้า แอคคอร์ด และเป็นรถเบสต์เซลเลอร์ของสหรัฐฯอีกครั้ง และหากยอดขายของ TAURUS น้อยก็เนื่องมาจากคนซื้อรถเก๋งน้อยลงและหันไปซื้อรถบรรทุกมากกว่า

EXPEDITION ฟอร์ดจะเปิดตัวรถสปอร์ตอเนกประสงค์รุ่นใหญ่ (ที่นั่ง 3 ตอนปีนี้ในฤดูใบไม้ร่วง (เวอร์ชั่นลินคอล์นคือ NAVIGATOR จะเปิดตัวปีหน้า) ตั้งเป้าว่าจะทำยอดขายปีละ 150,000 คัน ตี CHEVROLET TAHOE ของจีเอ็ม

EXCORT ฟอร์ดทุ่มเงินให้กับรถ ESCORT เล็ก รถรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว ซึ่งฮาเก้นล็อคเกอร์กล่าวว่ามีศักยภาพที่จะคุ้มทุนได้

BIG PICKUPS รถปิกอัพฟอร์ดรุ่นใหม่ทำยอดขายได้ถึงปีละเกือบ 800,000 คันในขณะนี้ จากที่คาดการณ์ไว้ 700,000 คันเมื่อต้นปียิ่งกว่านั้นฟอร์ดยังมีศักยภาพพอที่จะขยายไปถึงรุ่น 3 ประตูซึ่งจะทำยอดขายได้ถึง 50% เทียบกับ 30% ของรถรุ่นเก่า ซึ่งเป็นรุ่นที่จำหน่ายได้ช้ากว่า ความแตกต่างนี้จะเพิ่มยอดขาย 500 ล้านดอลลาร์

ฮาเก้นล็อคเกอร์ยังมองไม่เห็นว่าการบูมของรถปิกอัพจะหยุด “เมื่อคุณเห็นศักยภาพเปี่ยมล้นในตลาดขณะนี้จะพบว่าเป็นรถบรรทุกน้อยมากและด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆทั้งหมดและความหลากหลายที่จะทยอยเผยโฉม ความต้องการรถบรรทุกควรจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง”

แนวโน้มความนิยมรถบรรทุกนั้นเป็นผลดีสำหรับฟอร์ดก่อนปี 2000 ครึ่งหนึ่งของรถยนต์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯและเป็นรถบรรทุกเพิ่มขึ้น 43% จากปัจจุบัน รถบรรทุกจะคิดเป็นสัดส่วน 60% ของยอดจำหน่ายตัวเลขนี้รวมถึงรถเอนกประสงค์อย่าง EXPLORER และมินิแวนอย่าง WINDSTAR และรถบรรทุก

สำหรับ WINDSTAR “โอกาสพลาดไป” ฮาเก้นล็อคเกอร์ถอนใจ รถมินิแวนขนาดใหญ่รุ่นนี้ของฟอร์ดมี 3 ประตูแต่ไครสเลอร์เปิดตัวรถ 4 ประตูในปีที่แล้ว ทำให้ WINDSTAR ต้องล้าหลังและจะไม่มีทางไล่ตามได้ทันจนกว่าจะถึงต้นปี 1999 แต่ฮาเก้นล็อคเกอร์ยังคงคาดว่าฟอร์ดจะสามารถจำหน่ายรถรุ่นนี้ได้ 240,000 คันต่อไป รถรุ่นนี้เป็นรถมินิแวนมากกว่า 3 แผนกของจีเอ็มจะจำหน่าย เมื่อรถรุ่นใหม่อยู่ในกำลังผลิตเต็มที่ บางทีอาจจะเป็นปีหน้า

ส่วนรถรุ่นอื่นๆที่กำลังจะเปิดตัว ได้แก่ รถเอนกประสงค์รุ่นเล็ก ซึ่งสร้างบนแชสซีส์รถยนต์แทนที่จะเป็นรถบรรทุกในราคาราว 15,000-20,000 ดอลลาร์เพื่อแข่งขันกับรถญี่ปุ่นคาดว่าจะวางตลาดได้ในปี 1999 และรถรุ่นนี้สามารถเป็นยนตรกรรมระดับโลกที่จะผลิตในยุโรปด้วยเช่นกัน

สำหรับรถปิกอัพเล็ก 4 ประตู (RANGER) ฮาร์เก้นล็อคเกอร์กล่าวว่า “3 ประตูก็ดี แต่ 4 ประตูดีกว่า” JAGUAR รุ่นที่เล็กที่ว่าจะขนาดราว BMW ซีรีส์ 5 ราคาอาจจะตกราว 45,000 ดอลลาร์และอาจจะวางตลาดในอีก 3 ปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มยอดจำหน่ายของ JAGUAR เป็น 2 เท่าได้ถึง 80,000 คันวอลุ่มขนาดนี้จะเริ่มทำกำไรให้กับการลงทุนกับ JAGUAR ขณะนี้รถรุ่นใกล้เคียงแต่ราคาต่ำกว่าลินคอร์นจะเปิดตัวด้วยเช่นกัน (โชคร้ายสำหรับฟอร์ด จีเอ็มจะวางตลาดรถทำนองเดียวกันฤดูใบไม้ร่วงนี้ เป็นรถที่ผลิตในเยอรมนี คือ CADILLAC CATERA)

ในตลาดยุโรปนั้น สำหรับฟอร์ดแล้ว ทำยอดขายได้ 26,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้วทว่ามีการเข้าออกของผู้บริหารขาดแคลนตัวสินค้าและยังไม่ทำกำไร

“ตามโครงสร้างของเราผมจะต้องไปดูแลยุโรป” ฮาเก็นล็อคเกอร์กล่าวถึงภารกิจที่ต้องเริ่มดูแลธุรกิจในยุโรปตั้งแต่ปีหน้า และอีกหนึ่งปีครึ่งหลังจากนั้นเขากล่าวว่าค่อยมาพูดกันอีกครั้ง

ในเอเชีย ฟอร์ดมีโรงงานรถบรรทุกที่กำลังก่อสร้างในไทย (ร่วมมือกับมาสด้า) ทั้งฟอร์ดและจีเอ็มกำลังบุกตลาดอินเดีย และฮาเก้นล็อคเกอร์กล่าวว่าจะเริ่มการผลิตเดือนกันยายนนี้ อาจจะก่อนหรือหลังจีเอ็ม ส่วนในจีน โชคร้ายที่จีเอ็มได้สิทธิในการสร้างโรงงานรถยนต์ไป ขณะที่ฟอร์ดซื้อหุ้น 20% ของบริษัทจีนและเตรียมที่จะผลิตรถแวนเล็กในจีน

ฮาเก้นล็อคเกอร์ให้เครดิตกับแผน “ฟอร์ด 2000” เต็มที่ว่าฟอร์ดจะสามารถเริ่มผลิตรถเล็กในบราซิล 2 ปีหลังจากตัดสินใจ

เรากำลังจะผลิตรถ ESCORT (เล็ก) ยุโรป และรถ RANGER (ปิกอัพเล็ก) ในอาร์เจนตินาสิ้นปี และจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ถ้าขาดแผนฟอร์ด 2000

ฟอร์ดใหม่ระดับโลกนี้จะทำอะไรได้เร็วกว่าฟอร์ดเก่าซึ่งแบ่งเป็นเซ็กเมนต์ตามภูมิศาสตร์

“เนื่องจากองค์กรเดิมนั้นจะมุ่งเน้นไปที่ตลาดของตัวเอง” มาบัดนี้ ทั้งองค์กรจะเน้นไปที่ทั้งโลก “รถยนต์ที่จะวิ่งในอินเดียและจีน เป็นผลิตผลและแผนการที่เกิดจากฟอร์ด 2000 ทั้งนั้น” ฮาร์เก้นล็อคเกอร์ย้ำ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us