Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2539
เบื้องหลังแห่ง “คอบร้า โกลด์” พลโทไพโรจน์ นุชฉายา นายพลจัตวาบรุซ บี.ไบรัม             
 





พลโทไพโรจน์ นุชฉายาเจ้ากรมยุทธการทหารร่างสมาร์ทมาวันนี้ในฐานะผู้อำนวยการฝึก “คอบร้า โกลด์” ฝ่ายไทยจบจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เข้ารับราชการผ่านร้อนผ่านหนาวในสงครามเกาหลีในฐานะผู้บังคับหมวดปืนเล็ก กองร้อยอิสระ ผลัดที่ 15 และในเวียดนามในฐานะนายทหารฝ่ายยุทธการและการฝึกกองอาสาทหารอาสาสมัคร

การฝึกคอบร้า โกลด์ในปีนี้นับเป็นปีที่สองภายใต้อำนวยการของนายทหารผู้นี้

“ความมุ่งหมายพัฒนาพร้อมรบในสมัยใหม่นี้ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ดูอย่างสงครามอ่าวเปอร์เซียซึ่งจะเน้นยุทโธปกรณ์เทคนิคที่ทันสมัย มีอำนาจทำลายสูง”

ในการฝึกคอบร้า โกลด์พลโทไพโรจน์ นุชฉายากล่าวว่า ได้มีการจำลองยุทธ์บริเวณหรือที่เรียกว่า JOINT THEATRE STIMULATOR ทำให้ภาพการสู้รลที่เคยส่งมาล่าช้ากลับเร็วขึ้นและมีข้อมูลป้อนเข้าไปให้ผู้บังคับบัญชาได้อย่างรวดเร็วที่ไฮเทกไปกว่านั้นก็เห็นจะเป็นระบบการสื่อสารที่ทั้งสามเหล่าทัพของทั้งสองประเทศนำมาใช้ก็คือระบบดาวเทียมที่นำมาขช่วยในการรับข้อมูล การส่งข่าวสารให้ทันเวลา บางครั้งจะมีระบบทีวีไกด์ช่วยทำให้ตื่นตัวกันมาก

ในการฝึกครั้งนี้ได้มีการฝึกที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือการฝึกที่เรียกว่า “CROSS TRAINNING” เป็นการฝึกแลกเปลี่ยนทหารกันระหว่างสหรัฐฯกับไทย ซึ่งช่วยให้ทหารไทยได้เรียนรู้อีกมาก

นายพลจัตวาบรุซ บี. ไบรัม (BRIGADIER GENERAL BRUCE B. BYRUM) จากซานดิเอโก้ แคลิฟอร์เนีย ปัจจุบันมีฐานะเป็นรองผู้บัญชาการ 3 กองกำลังนาวิกโยธินลาดตระเวน ประจำเมืองโอกินาว่าประเทศญี่ปุ่น

เมื่อ 29 ปีก่อนนายพลไบรัมเข้ารับราชการในหน่วยนาวิกโยธิน ต่อมาก็ได้เข้ารับการฝึกบินในระดับอนุปริญญาที่ฐานทัพอากาศรีส (REESE AIR FORCE BASE) แท็กซัสจนได้เป็นนักบินแห่งราชนาวีสหรัฐฯ เมื่อ 26 ปีก่อน

ภารกิจสำคัญที่นายพลบรุซส์เคยได้รับมอบหมายก็ตอนที่บินเครื่องบิน A6A INTRUDER ซึ่งเป็นหน่วยจัดกำลังรบของอ่าวทอนกิ้น ซึ่งใช้เครื่องบินรบ USS CORAL SEA เป็นพาหนะและภารกิจนั้นเขาจะต้องบินนำหน่วยกล้าตาย 125 ชีวิตไปปฏิบัติการลับที่เวียดนามและลาว

หลังจากโยกย้ายหลายแห่ง จนได้รับเลือกให้เป็นผู้แทนทหารเข้าสู่วิทยาลัยการสงครามของกองทัพบกที่ CARLISIE PA. และสำเร็จรับปริญญาบัตรนายพลใจดีคนนี้ก็ได้รับการมอบหมายให้เข้ารับหน้าที่ที่กองกำลังต่อสู้และสนับสนุนราชนาวีที่กรุงเนเปิล ประเทศอิตาลีและที่นั่นก็ได้รับการเลื่อนขึ้นเป็นผู้ช่วยเสนาธิการฝ่ายวางแผนและนโยบาย เคลื่อนย้ายก้าวไปจนเป็นเสนาธิการทหาร ที่ยุโรปในปี 1993 และในปีถัดมาก็ได้การแต่งตั้งเป็นรองผู้บัญชาการ กองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐฯ ที่แอตแลนต้า จนปัจจุบันนี้

ในชีวิตนายพลไบรัมมีความสุขกับครอบครัวลูกสามที่มีพื้นเพเป็นทหารตั้งแต่บิดา ได้รู้ได้เห็นความเป็นระเบียบวินัยของชีวิตทหารและนั่นคือประกายไฟที่จุดเร้านายพลไบรัมไม่นึกถึงอาชีพอื่นใดนอกจากการสวมเครื่องแบบนาวิกโยธินดั่งใจปรารถนา   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us