Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มิถุนายน 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ มิถุนายน 2539
ฝุ่นละออง มฤตยูใกล้ตัวของคนกรุง             
 





ในขณะที่กรุงเทพฯกำลังเติบโตด้วยถาวรวัตถุหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นอาคารสูงระฟ้าหรือว่าระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ที่มีทั้งทางด่วน และรถไฟลอยฟ้าในอนาคตอันไกล

สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นมาเคียงคู่กับความเจริญของกรุงเทพฯก็คือฝุ่นละออง

กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมได้รายงานไว้ว่าในปี 2538 ปริมาณฝุ่นในกรุงเทพฯโดยเฉลี่ยมีประมาณ 568 ไมโครกรัมต่ออากาศ 1 ลูกบาศก์เมตรในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ทั้งๆที่เราตั้งมาตรฐานส่วนนี้เอาไว้ที่ 330 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในขณะที่องค์การอนามัยโลกนั้นตั้งมาตรฐานไว้ 120 ไมโครกรัม

นอกเหนือจากปริมาณฝุ่นที่เกิดจากการก่อสร้างและยานพาหนะที่วิ่งตามท้องถนนจะมากจนน่าตกใจแล้ว คนกรุงยังมีเรื่องที่น่าตกใจและน่ากลัวยิ่งกว่านี้อีก

จากการสำรวจและศึกษาร่วมกันระหว่าง ศ.ดร.นายแพทย์เทพพนม เมืองแมนกับบริษัทชีวิตและสิ่งแวดล้อมโดยความสนับสนุนด้านเงินทุนของบริษัทเรกคิทท์ แอนด์ โคลแมน (ประเทศไทย) จำกัด ในช่วงเดือนตุลาคม 2538-มกราคม 2539 พบว่าในฝุ่นละอองที่ลอยอยู่รอบตัวคนกรุงนั้นมีเชื้อจุลินทรีย์อยู่ประมาณ 225-1,750 CFU (COLONY FORMING UNITS) ต่ออากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร โดยส่วนนี้ไทยเรายังไม่มีการกำหนดมาตรฐานเอาไว้แต่ที่สหรัฐฯนั้น เขากำหนดมาตรฐานไว้ว่าในห้องทำงานที่สะอาดไม่ควรมีเชื้อจุลินทรีย์เกินกว่า 500 CFU มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนซึ่งมากจนสามารถจะเข้าสู่ร่างกายได้ลึกถึงถุงลมภายในปอดและจะลอยอยู่ได้เป็นเวลานานโดยไม่ตกพื้นเรียกกันว่า “ฝุ่นลอย” สามารถที่จะลอยไปตามกระแสลม

ทีมงานวิจัยได้ทำการสำรวจฝุ่นจากยานพาหนะต่างๆเช่น รถโดยสารประจำทางปรับอากาศ 5 คัน,รถโดยสารประจำทางพ่วงปรับอากาศ 5 คัน,รถโดยสารประจำทางธรรมดา 5 คัน,รถโดยสารไมโครบัส 5 คัน,รถยนต์ส่วนบุคคล 10 คัน, รถสามล้อเครื่อง 10 คันและรถแท็กซี่ 10 คัน

การสำรวจครั้งนี้พบว่ามีเชื้อโรคถึง 38 ชนิดที่อาศัย “ฝุ่นลอย” เป็นพาหะเพื่อเข้าสู่ร่างกายคน โดยยานพาหนะที่นำมาสำรวจนั้นทุกคันต่างก็มี “ฝุ่นลอย” เกาะติดอยู่ตามพื้นเบาะนั่ง พนักพิงราวโหนเฉพาะรถส่วนตัวเที่เราท่านมั่นใจในเรื่องของความสะอาดนั้นยังพบว่ามีเชื้อจุลินทรีย์อยู่ระหว่าง 437-1,750 CFU ต่อลูกบาศก์เมตร

เชื้อโรคที่พบจากการนำเอาเชื้อจุลินทรีย์ไปเพาะเชื้อในห้องปฏิบัติการนั้น มีอยู่ 18 ชนิดที่เป็นเชื้อราและอีก 20 ชนิดนั้นเป็นเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต่างๆเช่น

CEPHALO SPORIUM SP. ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ

CRYPTOCCUS NEOFROMANS ก่อให้เกิดโรคที่ปอดและเชื้ออาจจะเข้าสู่กระแสโลหิตก่อให้เกิดโรคตามอวัยวะส่วนอื่นๆได้ทั่วร่างกายเช่น ที่ระบบประสาทกระดูกและข้อ รวมถึงบริเวณผิวหนังและเยื่อบุด้วย

CURVULARIA SP. เป็นเชื้อราฉวยโอกาส สามารถก่อโรคที่ผิวหนังและเล็บใต้ผิวหนัง อาการคล้ายฝีมีอาการบวมอาจก่อให้เกิดโรค MYCETOMA ได้

HENDERSONULA SP. เป็นเชื้อราฉวยโอกาสอีกชนิดที่ทำให้เกิดโรคที่ผิวหนังและเล็บ

TRICHOPHYTON MENTAGROPHYTES ซึ่งจะทำให้เกิดโรคกลากที่ผิวหนัง เล็บและเส้นผม

ALCALIGENES SP. เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อในเลือดเชื้ออาจจะเข้าแผล ก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจและระบบทางเดินปัสสาวะ

ENTER OBACTER AEROGENES เป็นแบคทีเรียฉวยโอกาสอีกตัวที่ทำให้ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะและให้โลหิตเป็นพิษ

ECOLI ทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วง ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะไส้ติ่งอักเสบ เยื่อบุช่องท้องอักเสบ แผลติดเชื้อและโลหิตติดเชื้อ

KLEBSIELLA PHEUMONIA ทำให้เกิดโรคปอดบวม โลหิตเป็นพิษ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ แผลติดเชื้อช่องท้องอักเสบ ถ้าเป็นสายพันธุ์ที่มี ENTEROTOXIN จะทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วงและก่อโรคทางเดินปัสสาวะ

MORAXELLA SP. เป็นเชื้อประเภทฉวยโอกาสที่จะทำให้เกิดโรคติดเชื้อ ปอดอักเสบ อาการอักเสบในระบบทางเดินปัสสาวะ

PSEUDOMONAS AERUGINOSA เป็นเชื้อประเภทฉวยโอกาสที่จะทำให้เกิดโรคต่างๆโดยเฉพาะโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลเช่น การติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ โลหิตเป็นพิษ เยื้อหุ้มสมองอักเสบ ปอดอักเสบ หนองฝีต่างๆและโรคตาอักเสบ

SERRATIA SP. เป็นเชื้อประเภทฉวยโอกาสที่จะทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะและโรคโลหิตเป็นพิษ

STAPH AUREUS ทำให้เกิดโรคติดต่ออวัยวะและเนื้อเยื่อเกือบทุกส่วนของร่างกายที่พบบ่อยคือ การติดเชื้อที่ผิวหนัง

STREPTOCCOCUS ทำให้เกิดโรคคออักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ ไข้มารูติกโลหิตเป็นพิษ เยื่อบุหัวใจอักเสบ ไฟลามทุ่ง ไข้ดำแดง ภาวะไข้หลังคลอดและอาจทำให้ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อในช่องปาก โรคเหงือกและฟัน

STREPT VIRIDANS ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ ไซนัสอักเสบ หูอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบและหนองในเทียม

เป็นที่รับทราบกันแล้วว่าฝุ่นละอองที่ฟุ้งกระจายในอากาศรอบตัวเรานั้น อาจจะทำให้เราเกิดโรคมากมายได้โดยที่เราไม่รู้ตัวหลายท่านอาจจะกำลังเผชิญกับโรคเหล่านี้อยู่ก็ได้

เพื่อให้แน่ใจว่าท่านปลอดจากโรคที่เกิดจากเชื้อราและแบคทีเรียต่างๆเหล่านี้ ควรจะให้แพทย์ได้ทำการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดอย่างน้อยปีละครั้ง และควรอาบน้ำชำระร่างกายอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และล้างมือทุกครั้งหลังเสร็จจากการทำกิจกรรมต่างๆ

นอกจากนี้อาจใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อโรคฉีดทิ้งไว้ในรถหรือห้องนอนเพื่อช่วยกำจัดเชื้อโรคที่ติดมากับฝุ่นละอองลงบ้าง

หากบ้านอยู่ใกล้ถนนอาจจะติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเพื่อช่วยลดมลภาวะเป็นพิษลงบ้างก็ได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us