|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ มิถุนายน 2539
|
|
“เทศกิจ” แยกออกมาเป็นสำนักเทศกิจขึ้นตรงกับกทม.ในสมัยพลตรีจำลอง ศรีเมืองเป็นผู้ว่ากทม. เป็นหน่วยงานที่สามารถบังคับให้ลูกบ้านในเขตปกครองของกทม.ให้ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายของกทม.ได้ทุกประการ
ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจมาดูแล กทม.เคยจัดให้มีตำรวจเทศกิจขึ้นมาดูแลในส่วนนี้อยู่ก่อน โดยเกิดขึ้นในสมัยที่ชลอ ธรรมศิริเป็นคณะผู้บริหารราชการกรุงเทพมหานครโดยจัดตั้งตำรวจเทศกิจ จากความยินยอมของกรมตำรวจและความเห็นชอบของคณะกรรมการข้าราชการและพลเรือนเมื่อเดือนมกราคม 2520
จุดประสงค์หลักในการก่อตั้งตำรวจเทศกิจ มาจากการรณรงค์เรื่องหาบเร่แผงลอย ซึ่งมีการคิดการแก้ไขปัญหาหาบเร่แผงลอยมาก่อนหน้านั้นเป็นเวลาถึง 20 ปีเริ่มแรกกทม.ได้ร่วมมือกับกรมเจ้าท่าและกรมตำรวจกำหนดแผนปฏิบัติขึ้นก่อนในการควบคุมดูแล แล้วต่อมากทม.จึงร่วมมือกับตำรวจจัดตั้งตำรวจเทศกิจเป็นหน่วยงานขึ้นภายหลัง เพื่อลดปัญหาการขัดแย้งระหว่างกรมตำรวจกับกทม.ในการรณรงค์หาบเร่แผงลอยในยุคดังกล่าว ที่ทำให้กทม.ไม่สามารถปฏิบัติงานได้เต็มที่
ในยุคที่เริ่มตั้งตำรวจเทศกิจจึงถือเป็นขั้นทดลองโดยตั้งขึ้นจำนวน 32 สถานีนครบาล อัตรากำลังสถานีนครบาลละ 8-12 นายรวมทั้งสิ้นมีประมาณ 320 คนโดยให้รับเงินเดือนและงบค่าใช้จ่ายจากงบประมาณของกรุงเทพมหานคร เมื่อมีการปฏิบัติอย่างจริงจังแม้จะมีการต่อต้านจากประชาชนบ้างแต่หน่วยงานนี้ก็ยังคงดำเนินงานต่อไปด้วยดี จนแยกมาเป็นสำนักเทศกิจในยุคของพลตรีจำลองดังกล่าวข้างต้นพร้อมกับให้มีประจำทุกเขต
การบริหารงานดูแลหาบเร่แผงลอยยึดหลัก 3 ประการคือมีความสะอาด ปลอดภัย และเป็นระเบียบเรียบร้อยมีการรณรงค์จับทั้งผู้ซื้อผู้ขายที่ซื้อขายกีดขวางเกะกะทางเท้า และให้หยุดเพื่อทำความสะอาดในทุกวันพุธ มีการกำหนดจุดกวดขันพิเศษห้ามตั้งวางขายของโดยเด็ดขาด เช่น บริเวณป้ายรถเมล์ สะพานลอยคนข้าม บริเวณทางเท้าที่มีความกว้างไม่ถึง 2 เมตรเป็นต้น ซึ่งเป็นนโยบายที่ปฏิบัติสืบต่อมาถึงยุคที่ ร.อ.กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยาเป็นผู้ว่ากทม.
แต่ในยุคนี้จะยังคงนโยบายเดิม หรือเปลี่ยนไปก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ว่าคนล่าสุดนี้แล้วว่าจะให้ขายของได้ทุกวันแต่ต้องทำความสะอาดทุกวันหรือปฏิบัติตามนโยบายเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
|
|
|
|
|