นับตั้งแต่จีนอ้าแขนรับนักลงทุนต่างชาติ ผืนแผ่นดินอันประกอบด้วยประชากรนับพันล้านคนแห่งนี้ก็กลายเป็นตลาดในฝันของบริษัทต่างประเทศไปในทันที แต่ดูเหมือนว่าแปซิฟิก แอนเดส อินเตอร์เนชั่นแนล (พีเอไอ) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาแปรรูปของฮ่องกงจะเป็นหนึ่งในบริษัทไม่กี่รายที่สามารถสร้างฝันให้กลายเป็นความจริงได้ หลังจากที่ขายปลาแช่แข็งให้กับลูกค้าหลังม่านไม้ไผ่เป็นมูลค่าสูงถึง 66% ของรายได้ทั้งหมดและในขณะนี้ บริษัทแห่งนี้กำลังวางแผนจะบุกทำผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายโดยอาศัยเครือข่ายโรงงานผลิตอาหารเป็นหัวหอก

อึ้ง จู เซียง กรรมการผู้จัดการของพีเอไอให้ความเห็นว่า “เราต้องการเป็นบริษัทที่ประสานกันเป็นหนึ่งเดียวผลิตทั้งเนื้อปลาสดและปลากระป๋องสิ่งที่ว่านี้เป็นแผนการระยะยาวของเรา”

พีไอเอ ตั้งขึ้นมาในปี 1986 โดยรับหน้าที่ขายส่งปลาแช่แข็งไปยังตลาดไต้หวันและออสเตรเลีย จากนั้นก็ขยายกิจการไปสู่การผลิตผลิตภัณฑ์ปลาแปรรูปก่อนจะหันไปจัดจำหน่ายเองในภายหลังและเมื่อย่างเข้าปลายปี 1994 พีไอเอก็นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง

ต้นทศวรรษ 1990 พีเอไอทำสัญญากับกองเรือประมงของรัสเซียโดยรับหน้าที่จัดหาน้ำมัน อาหารและจ่ายเงินเดือนให้แก่ลูกเรือเพื่อแลกกับการส่งปลาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งทำให้กระบวนการผลิตของพีเอไอดำเนินไปอย่างราบรื่นทั้งปีต่างกับบริษัทอื่นที่จะเจอปัญหาขาดปลาในบางฤดูกาล

ที่สำคัญการแลกเปลี่ยนปลากับสิ่งของตามข้อตกลงระหว่างเรือของพีเอไอกับกองเรือรัสเซียกันกลางทะเลทำให้เรือของรัสเซียไม่จำเป็นต้องย้อนกลับไปขึ้นท่าที่ประเทศของตัวเองเพื่อส่งปลาออกจากที่นั่นจึงช่วยลดระยะเวลาลงไปได้มากในส่วนของพีเอไอนั้นก็สามารถขนปลาใส่เรือมุ่งหน้าตรงไปยังโรงงานทางตอนเหนือของจีนได้เลย

ปลาสดส่วนหนึ่งแปรรูปเป็นเนื้อปลาสดแล่ตามยาวและส่งออกไปยังยุโรปและอเมริกาเหนือซึ่งในทั้งสองตลาดดังกล่าวพีเอไอมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายของตัวเองอยู่ แต่ปลาส่วนใหญ่หรือประมาณ 80% ยังคงส่งป้อนลูกค้าในเมืองจีน

ผลจากการผนึกกระบวนการผลิตในแนวดิ่งของพีเอไอดังที่ว่านี้ เซียงบอกว่าช่วยเสริมความได้เปรียบในด้านราคาให้แก่บริษัทเป็นอย่างมาก

และในขณะนี้ พีเอไอกำลังคิดหาทางผนวกกระบวนการผลิตในจีนให้เป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น โดยการรุกเข้าคุมกิจการต่างๆมากขึ้น ทั้งในด้านการแปรรูปและการจัดจำหน่าย ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาพีเอไอได้ให้บริษัท 10 แห่งในเมืองจีนรับหน้าที่ผลิตปลาแปรรูปให้แก่บริษัทและในขณะนี้พีเอไอกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาขอซื้อบริษัทจัดจำหน่ายรายหนึ่งซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในอีกสองสามเดือนหน้า หลังจากนั้นพีเอไอก็จะหาทางขยายธุรกิจจัดจำหน่ายต่อไปอีก แม้ว่าในปัจจุบันธุรกิจจัดจำหน่ายในจีนแผ่นดินใหญ่จะตกอยู่ในความดูแลของบริษัทนำเข้า-ส่งออกของรัฐบาล

ในทัศนะของเซียงมองว่าเมื่อพีเอไอกุมธุรกิจจัดจำหน่ายไว้ได้แล้ว บริษัทก็จะสามารถลดทอนรายจ่ายที่จะให้แก่บริษัทจัดจำหน่ายนอกเครือลงได้ เรายอมรับว่าการจัดจำหน่ายเป็นแหล่งที่มาของมาร์จิน เราจึงต้องหาบริษัทจำหน่ายของตัวเอง ยิ่งขณะนี้การบริโภคปลาสดในจีนขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา พีเอไอจึงเห็นโอกาสในการเติบโตอีกมาก

แม้วันนี้คนจีนจะบริโภคเนื้อปลาเป็นอาหารเพียง 1.7% ของปริมาณอาหารทั้งหมดที่บริโภคกันภายในประเทศ เมื่อเทียบกับ 13.8% และ 14.5% ในไต้หวันและฮ่องกงตามลำดับ แต่พีเอไอก็ยังเชื่อมั่นว่ายิ่งจีนพัฒนามากขึ้นเท่าไหร่ คนจีนก็จะยิ่งบริโภคเนื้อปลากันมากขึ้นเท่านั้น