Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2539
นิวซีแลนด์ใกล้พอที่จะไปเที่ยว             
 





เมืองโอ๊กแลนด์ (AUCKLAND) ได้รับการขนานนามว่า เมืองแห่งการล่องเรือ (CITY OF SAIL) เมืองหลวงของประเทศนิวซีแลนด์ที่ผู้คนใฝ่ฝันอยากสัมผัสกับกิติศัพท์ภูมิประเทศที่แสนสงบปราศจากซึ่งมลภาวะ

นักท่องเที่ยวชาวไทยคงต้องเริ่มที่ถนนควีนส์สตีตเพื่อสำรวจตลาดของที่ระลึกและชอปปิง และถ้าเดินเรื่อยๆไปทางด้านตะวันออกของถนน QUAY ที่นี่จะมีแนวหาดสวยแสนร่มรื่นด้วยร่มใบของต้นโปหูตูกาว่า (POHUTUKAWA TREE)

สถานที่สำคัญและน่าดูก็เห็นจะเป็นชีวิตสัตว์น้ำทะเลใหญ่ๆและนกเพ็นกวินที่ KELLY TARLTON ที่ชาวนิวซีแลนด์ภูมิอกภูมิใจเป็นที่ยิ่งเพราะเป็นอาคารเรียมชิ้นมหึมาเจาะทะลุทะเลนำน้ำเค็มเข้าไปใช้เลี้ยงป่าฉลาม ปลากะเบนยักษ์และสัตว์ทะเลอื่นๆโดยผู้ชมจะยืนอยู่บนสายพานเลื่อนพาชมไปรอบๆ

พอออกจากโลกแห่งสัตว์น้ำใต้บาดาลที่น่าชมนี้แล้ว ชาวนิวซีแลนด์ที่เรียกตัวเองว่า “ชาวกีวี” แทบจะทุกคนมักจะชักชวนให้ได้ไปเห็นความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของชนเผ่าเมารีดั่งเดิมที่อพยพโดยเรือคานูเมื่อประมาณปี ค.ศ. 750 มาตั้งรกรากกันอยู่ตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกที่ตั้งของเมืองโอ๊กแลนด์ในปัจจุบัน

ที่นี่ก็จะได้เห็นวัฒนธรรมการเป็นอยู่หลงเหลืออีกมากที่ AUCKLAND MAORI HERITAGE อาจเป็นเพราะชาวเมารีพื้นเมืองที่นี่ได้รับการเหลียวแลและยอมรับอย่างออกหน้าออกตาจากภาครัฐและสังคมชาวผิวขาวก็ว่าได้เลยทำให้ชาวเผ่าเมารีทุกคนเข้ากับสังคมสมัยใหม่มีชีวิตความเป็นอยู่ทัดเทียมกันทั่วไปหรือแม้แต่จะแต่งงานกับคนผิวขาวก็ดูจะไม่แปลกสำหรับประเทศนี้

สำหรับประชากรชาวแกะว่ากันว่ามีมากกว่าจำนวนประชาชนของประเทศจึงได้มีโอกาสเห็นการแนะนำการแสดงของแกะในฟาร์มต่างๆที่น่าสนใจมากที่สุดก็เห็นจะเป็นที่อากราโดม (AGRODOME) แหล่งจูงใจนักท่องเที่ยวของเมืองโรโตรัวอีกแห่งหนึ่งที่มีกิจกรรมแสดงบนเวทีของแกะพันธุ์ต่างๆกว่า 19 พันธุ์ตั้งแต่การตัดขนแกะด้วยเครื่องบะตาเลียนไฟฟ้าโดยใช้เวลาประมาณ 10-5 นาทีต่อตัวและการแสดงของสุนัขต้อนแกะที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัววิ่งไปมาบนหลังแกะในฐานะผู้คุมฝูง

RAINBOW SPRINGS ก็เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งที่น่าชม เพราะจะได้เห็นปลาเทรามีน้ำหนักกว่า 10 กิโลหลากหลายพันธุ์ที่กลายเป็นปลาเพื่อการไล่ล่าและบริโภคแต่มีกฎหมายห้ามการซื้อขายกันไม่ว่าจะในทางตรงหรือทางอ้อมอย่างเด็ดขาดและที่ RAINBOW SPRING นี้ก็จะเห็นปลาเทราพันธุ์ต่างๆโดดขึ้นมากินอาหารที่นักท่องเที่ยวโปรยปรายลงไปส่วนที่หาดูได้ยากเพราะกำลังจะหมดพันธุ์ลงไปทุกทีก็เห็นจะเป็นนกกีวีสัตว์สงวนที่ไม่ชอบพะปะผู้คนจึงสังเกตได้ว่านักท่องเที่ยวจะทำท่าย่องเดินเมื่อผ่านกรงนกกีวี

และเมื่อมาถึงเมืองโรโตรัวทั้งที การคลายเครียดสุขภาพด้วยน้ำแร่จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ จนนักจัดทัวร์ไทยบางเจ้าวางแผนวาดหวังว่าจะเป็นแหล่งทำเงินกันได้โขในการจัด “ทัวร์สุขภาพ” เพราะที่นี่มีน้ำพุร้อน POLYNESIAN SPA ประดุจการอาบน้ำมนต์ที่หลายคนหายจากอาการอมโรครูมาติซั่มและปวดเมื่อยที่เจ็บป่วยกันมาเป็นแรมปี

น้ำแร่ธรรมชาติในบางจุดของเมืองโรโตรัวมีอดีตภูเขาไฟที่มีทั้งระเบิดแล้วและยังปะทุอยู่ส่งควันไอน้ำกลิ่นกำมะถันพวยพุ่งสูงเป็นเมตรๆส่วนน้ำแร่ที่นำมาใช้อาบในรูปแบบของสปานั้นก็แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด PRIST และ RADIUM ไหลรินออกมาจากแหล่งธรรมชาติโดยไม่มีการควบคุมอุณหภูมิและมีความร้อนตั้งแต่ 33-43 องศาเซลเซียสจากความลึกกว่า 100 เมตรของแหล่งน้ำ ใครได้แวะเวียนเข้ามาเป็นต้องติดอกติดใจเพราะมีบริการหลากหลายรูปแบบอย่างเพรียบพร้อม

ว่างๆยามเย็นก่อนออกจากโรโตรัวต้องไปนั่งเรือเลคแลนด์ ควีน ท่องทะเลสาบโรโตรัวที่ใหญ่ที่สุดในบรรดา 14 ทะเลสาบเพราะเป็นทะเลสาบที่มีลักษณะเป็นหลุมยักษ์กว้างใหญ่ อันเกิดจากภูเขาไฟที่ระเบิดแล้วเมื่อ 1 แสนปีมาแล้วรายล้อมด้วยภูเขาและเกาะแก่งกว่า 10 ลูก

เมืองโรโตรัวนี้ชวนมองชวนชมอย่าบอกใครเชียว !   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us