|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ พฤษภาคม 2539
|
|
ความสำเร็จของฮิวเลตต์ แพคการ์ (เอชพี) ได้กลายเป็นตำนานบทหนึ่งของวงการธุรกิจสหรัฐฯไปแล้วจากโรงรถเล็กๆในแคลิฟอร์เนียผันผ่านวันเวลาอันยาวนานมาเป็นซิลิคอน วัลเลย์แหล่งผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่สำคัญของโลกจากพลังที่อัดแน่นอยู่ในหัวสมองของสองสหายสแตนฟอร์ด เดวิด แพคการ์ดและวิลเลียม ฮิวเลตต์
ผลิตภัณฑ์ของเอชพีมีตั้งแต่เครื่องคิดเลข คอมพิวเตอร์ไปจนถึงอุปกรณ์การแพทย์ที่สามารถจับเสียงหัวใจเต้นของลูกน้อยก่อนลืมตาออกมาดูโลก
ในเวลานี้ เอชพีมีรายได้กว่า 31,000 ล้านดอลลาร์มีพนักงานกว่า 100,000 คนแต่ที่ขาดไปตอนนี้คือตัวแพคการ์ผู้ก่อตั้งเพราะเขาเพิ่งอำลาโลกนี้ไปในวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมาด้วยวัย 83 ปีบุรุษผู้กลายมาเป็นตำนานหน้าหนึ่งของวงการเซมิคอนดักเตอร์โลก
แพคการ์ดและฮิวเลตต์มักเดินตรวจตราที่ทำงานในชุดเสื้อผ้าสบายๆแต่นั่นหาได้เป็นอุปสรรคต่อการได้รับการคารวะจากพนักงานของบริษัทไม่และคำว่า “HP WAY” ที่ทั้งสองสหายมักเน้นย้ำอยู่เสมอทุกคนถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานของเอชพี
แต่ใครเลยจะล่วงรู้ถึงความใจบุญสุนทานของสองสหายราชาเซมิคอนดักเตอร์ผู้ไม่ยอมเอ่ยนามยามบริจาคเงินให้กับสถาบันหรือองค์กรต่างๆแต่หลังจากสองผู้เฒ่าล่วงลับไปแล้ว สมควรมิใช่หรือที่ชาวโลกสมควรรับรู้ความใจบุญแบบไม่เอาหน้าของทั้งสอง
เจ้าหน้าที่ของสแตนฟอร์ดคำนวณว่าทั้งสองบริจาคเงินให้มหาวิทยาลัยเป็นตัวเลขไม่ต่ำกว่า 300 ล้านดอลลาร์ เงินที่ได้ทางมหาวิทยาลัยนำไปเป็นทุนให้นักศึกษาในภาควิศวกรรมและวิทยาศาสตร์เพื่อเป็นเกียรติคุณแก่ศาสตราจารย์เฟรดเดอริค เทอร์แมนแห่งภาควิศวกรรมที่ทั้งสองบูชาและถือว่าเป็นผู้เปิดทางสว่างสายวิชาชีพได้
ว่ากันว่าฮิวเลตต์ผู้ล่วงลับมีสุขภาพแบบไม่ทนลมทนฝนและไม่ชอบออกงานสังคม ส่วนแพคการ์ดผู้เพื่อน อนุญาตให้สาธารณชนรู้จักได้บ้างด้วยการบริจาคเงิน 40 ล้านดอลลาร์ให้มอนเตเร่ย์ เบย์ อควอเรียม ในขณะที่มูลนิธิแพคการ์ดก็บริจาคเงิน 480 ล้านดอลลาร์สนับสนุนงานวิจัยทางทะเลฝึกอบรมคนเลี้ยงเด็ก การอนุรักษ์ฟิล์มในฮอลลีวูดและการติดตั้งระบบดิจิตัลให้ห้องสมุดรัฐสภาคองเกรส
แพคการ์ดยังบริจาคเงินสร้างโรงพยาบาล CHILDREN’S HOSPITAL ที่สแตนฟอร์ดเพื่ออุทิศให้กับภรรยาผู้ล่วงลับไปแล้ว นามลูซิลล์ นอกจากนี้ แพคการ์ดยังยกหุ้นที่เขาถืออยู่ในบริษัทที่ตอนนี้มีมูลค่า 4,300 ล้านดอลลาร์ให้มูลนิธิของเขาอีกด้วย เพื่อนำไปใช้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมต่อไป
“พวกคุณไม่ควรย่ามใจกับความสำเร็จที่คุณได้รับพวกคุณต้องเดินหน้าต่อไปและพยายามค้นหาสิ่งที่ดีกว่า แพคการ์ดกล่าวทิ้งข้อคิดไว้กับพนักงานในวันที่เขาอำลาจากตำแหน่งประธานบริษัทในปี1993
|
|
|
|
|