|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ มีนาคม 2539
|
|
ผลักประตูไม้สักสลักลายหรูชั้น 5 อาคารบ้านฉางสุขุมวิทเข้าไปจะเป็นที่ตั้งสถานทูตใหม่เอี่ยมอ่องของชาติในกลุ่มอาหรับที่ยังไม่คุ้นหน้าคุ้นตาชาวไทยอย่างประเทศโมร็อกโก (MOROCCO) ประเทศในอาณานิคมแอฟริกาค่อนไปทางยุโรปกลาง เจ้าของชายทะเลยาวเหยียดกว่า 3,500 กิโลเมตรริมทะเลเมดิเตอร์เรนียนทางภาคเหนือและแอตแลนติกทางตะวันตก
เมื่อภูมิประเทศของโมร็อกโกตั้งประชิดกับกลุ่มประเทศอาหรับและยุโรปฉะนี้ผู้คนชาวโมร็อกกันจึงแลดูสวยงามหล่อเหลาตามสไตล์ลูกผสมอาหรับ-ยุโรป และที่เห็นเป็นตัวอย่างได้เด่นชัดก็ท่านทูต เอ.ซาและห์ เอ็ดดีน ทาซิ (A SALAH EDDINE TAZI) ผู้บุกเบิกก่อตั้งสถานทูตแห่งราชอาณาจักรโมร็อกโกแห่งนี้ในประเทศไทย
ท่านทูตนั้นเติบใหญ่และได้รับการศึกษาจากมหาวิทยาลัยการปกครองสถาบันที่มีบันไดสำเร็จรูปทอดไว้ให้เดินไปสู่ถนนทางการทูตได้โดยอัตโนมัติของประเทศโมร็อกโก ท่านทาซิจึงต้องดำเนินชีวิตในแวดวงการทูตแทนที่จะประกอบอาชีพเป็นคอนดักเตอร์ (CONDUCTOR) นายวงดนตรี ออเคสตราตามใจรักและปรารถนาทันทีที่จบกระบวนยุทธด้านการทูต ท่านทูตทาซิก็โดดเข้าศึกษาปริญญาโทด้านกฎหมายที่ประเทศฝรั่งเศสรวมไปถึงการค้าการลงทุนและอื่นๆเพียงเพื่อเหตุผลง่ายๆว่าเป็นตัวแทนของประเทศต้องรอบรู้ทิศคิดรอบด้านเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศชาติภาคี
อายุเพียง 27 ปีรับตำแหน่งรองกงสุลเมืองแองซอง ปราวอง (AIX EN PRAVENCE) ตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสที่ๆท่านกงสุลต้องเผชิญกับปัญหานานัปการกับชาวโมร็อกกันกว่า 120,000 คนตกวันละ 300-500 คนอาศัยอยู่ในฝรั่งเศส ซึ่งดูจะแตกต่างไปจากชีวิตเอกอัครราชทูตประจำประเทศโปรตุเกสที่ทูตทาซิบอกว่าเป็น 7 ปีแห่งความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนเพราะไปได้ภาษาท้องถิ่นโปรตุเกสที่นอกจากภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส อาหรับ สเปนมาเป็นภาษาที่ห้าอีกหนึ่งภาษา
ไม่ว่าจะมีพรสวรรค์อย่างไร นักการทูตมือคาราเต้ เทกวันโด ผู้พกพารอยยิ้มไว้เป็นนิจผนวกกับความมีมนุษยสัมพันธ์ชั้นเลิศของทูตทาซิ ใครบ้างจะคิดว่าอายุปาเข้าไปกว่า 30 ปีแล้วยังหาเจ้าสาวให้แก่ตัวเองไม่ได้ ถ้าปราศจากซึ่งความช่วยเหลือของพี่สาวที่อยู่ในแวดวงการแพทย์นั่นแหละท่านทูตจึงพบรักกับแพทย์หญิงอัสมา (ASMAA) สาวงามชาวโมร็อกกันในเวลาอันรวดเร็วและมีพยานรักเป็นหญิงหนึ่งคน
วันนี้ทูตทาซิใช้เวลาทำนุบำรุงร่างกายให้แช่มชื่นด้วยการวิ่งออกกำลังกายที่สวนลุมพินีเป็นประจำนอกจากนั้นก็ยังมีการเต้นแอโรบิก ไม่ก็เข้าสถานออกกำลังที่มีบริการไว้ที่ทำเนียบที่พัก
เอกอัครราชทูตซาและห์ เอ็ดดิน ทาซิผู้นี้ถือครองคติพจน์ประจำใจไว้อย่างมั่นคงว่า “จะขอเป็นผู้ให้มากกว่าเป็นผู้รับ” (GIVE AND GIVE MORE THAN TAKE AND TAKE)
|
|
|
|
|