นอกเหนือจากคุณภาพของสินค้าแล้ว การเจาะเข้าตลาดโดยเฉพาะตลาดต่างประเทศยังจำเป็นต้องอาศัยกลเม็ดเด็ดพรายอื่นๆเสริมหรือเป็นกลยุทธ์หลักอีกด้วยและบริษัทแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ซึ่งขึ้นชื่อในธุรกิจการแปรสิ่งมีชีวิตทางธรรมชาติให้เป็นเครื่องเสริมสุขภาพด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ก็อาศัยกลวิธีจับมือกับบรรษัทข้ามชาติ ที่มีฝีมือและเครดิตดีเพื่อกรุยทางเข้าตลาดเป็นสำคัญ

บริษัทเอเวอร์บลูม ไบโอเทคโนโลยีเป็นบริษัทที่ผลิตสินค้าประเภทเห็ดเสริมสุขภาพและผลิตภัณฑ์อื่นๆมานาน 14 ปีแล้วและปีที่แล้วบริษัทนี้ก็เพิ่งจะสร้างผลกำไรได้

คำถามจึงอยู่ที่ว่า แล้วบริษัทนี้ทำอย่างไรจึงสามารถพลิกโผและกลับมาสร้างรายได้ให้บริษัทได้ทั้งๆที่ตกระกำลำบากมานานถึงสิบกว่าปี

นายแพทย์ตันก็อกเค็งกรรมการผู้จัดการจากเอเวอร์บลูมกล่าวว่า การลดการผลิตในสิงคโปร์และหันมาเน้นขอใบอนุญาตจากต่างประเทศและผูกมิตรกับสเตอร์ลิง เฮลธ์ซึ่งเป็นบริษัทค้าเวชภัณฑ์ข้ามชาติแห่งหนึ่ง เป็นวิธีที่เอเวอร์บลูมใช้รุกเข้าตลาดนานาประเทศสำหรับสินค้าที่ชื่อว่าหลินจือ

หลินจือเป็นเห็ดชนิดหนึ่งที่ชาวจีนเชื่อถือกันมานานกว่า 2000 ปีแล้วว่าช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ตันใช้เวลานานหลายปีทำการค้นคว้าวิจัยสรรถคุณพืชชนิดนี้และในปี 1992 บริษัทก็เริ่มนำผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากพืชชนิดนี้ออกจำหน่ายในสิงคโปร์ ทว่ายอดจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ตัวนี้กลับไม่น่าพอใจนัก

ตันกล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่สินค้าของเอเวอร์บลูมจะขายได้เท่ากับที่สเตอร์ลิง เฮลธ์ขายสินค้าของเขา เอเวอร์บลูมใช้เงินทุน 35,000 ดอลลาร์โฆษณาแคปซูลลินเซียร์ แต่สเตอร์ลิง เฮลธ์แทบจะไม่ต้องเสียเงินเพื่อร้องแร่แห่กระเฌอโปรโมตสินค้าประเภทเดียวกันของบริษัทแม้แต่น้อยเพียงแต่วางอยู่บนชั้น ก็มีคนมาซื้อแล้ว

ในช่วงเวลาเดียวกับที่เอเวอร์บลูมกำลังจะไปไม่รอด ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สเตอร์ลิงเฮลธ์กำลังเล็งเจาะตลาดยาสมุนไพรจีนในเอเชีย ซึ่งมีขนาดใหญ่อยู่พอดี

สเตอร์ลิง เฮลธ์เลือกหลินจือของเอเวอร์บลูม และทุ่มเงินกว่า 700,000 ดอลลาร์ส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในปีแรกและนำสินค้าตัวนี้วางขายตามซูปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา ร้านค้าและตามสถานที่จำหน่ายยาจีนทั้งหลายในสิงคโปร์และที่สำคัญสเตอร์ลิง เฮลธ์ยังได้นำสินค้าตัวนี้เข้าไปรุกตลาดนานาประเทศอาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์และเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วก็ได้ตลาดฮ่องกงเข้ามาเป็นแนวร่วมอีกหนึ่งตลาด ซึ่งเป็นตลาดที่สเตอร์ลิง เฮลธ์จะเชื่อมต่อเข้าตลาดยักษ์อย่างจีนแผ่นดินใหญ่ได้อย่างสบาย และผลสำเร็จก็จะตกอยู่กับทั้งสองบริษัท