Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2539
ทาวเวอร์ เรคคอร์ดครองแดนปลาดิบ             
 





หลายคนคงเคยได้ยินชื่อทาวเวอร์ เรคคอร์ดร้านขายเทปและซีดีเพลงชื่อดังของสหรัฐฯที่ตอนนี้กำลังขยายสาขาไปทั่วโลกรวมถึงในญี่ปุ่นที่กำลังเป็นที่ฮือฮามากในขณะนี้โดยบริษัทเข้าไปตั้งสาขาแรกในย่านซัปโปโรในฮอกไกโดหลังจากนั้นก็เปิดสาขาที่ 2 ตามมาในโตเกียว

ในตอนที่ทาวเวอร์ เรคคอร์ดลุยเข้าไปในแดนปลาดิบแห่งนี้นั้น บทเพลงแนว WEST COAST กำลังได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น ทำให้ยอดขายของสาขาทะยานขึ้นจนในเวลานี้ญี่ปุ่นมีสาขาของทาวเวอร์ เรคคอร์ดอยู่ถึง 31 แห่งทั่วประเทศ

ปัจจัยที่ช่วยให้ทาวเวอร์ เรคคอร์ดเป็นที่นิยม เพราะว่าคนญี่ปุ่นรักเสียงดนตรี พวกสื่อมวลชนก็ให้ความสนใจในตัวข้อมูลเพลงต่างประเทศเช่นกัน จนทำให้ญี่ปุ่นเป็นตลาดเพลงต่างประเทศที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก ทั้งแจ็ชและเรกเก้และดนตรีประเภทอื่นอีกมากมาย

นอกจากนี้ ต้นทุนของการนำเข้าซีดีเพลงของบริษัทยังต่ำกว่าที่อื่นๆเนื่องจากบริษัทนำเข้าซีดีโดยตรงจากสหรัฐฯทำให้ได้เปรียบด้านค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนกว่าเยนในขณะที่ญี่ปุ่นเปิดทางให้ร้านค้าปลีกซีดีกำหนดราคาสินค้าด้วยตัวเอง โดยเฉลี่ยแล้วราคาซีดีในญี่ปุ่นจะตกประมาณ 25 ดอลลาร์หรือ 2,500 เยนส่วนของทาวเวอร์ เรคคอร์ดจะอยู่ที่ 1,800 เยนอีกสาเหตุหนึ่งคือร้านขายซีดีส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นจะเน้นศิลปินในประเทศ ทำให้ทาวเวอร์ เรคคอร์ดไม่ค่อยมีคู่แข่ง

แต่บริษัทเพลงญี่ปุ่นก็ไม่ยอมแพ้ โดยหันเน้นสินค้าเสริม อาทิ การเพิ่มเพลงพิเศษเข้าไปในซีดี แถมเนื้อเพลงแต่บริษัทก็นำซีดีทั้งเพลงของต่างประเทศและในประเทศมาขายคู่กัน เพื่อให้คนญี่ปุ่นมีทางเลือกมากขึ้น แต่ว่าผลสุดท้ายคือซีดีนอกจะขายดีกว่าของในประเทศ

คู่แข่งใหญ่ของทาวเวอร์ เรคคอร์ดคือเอชเอ็มวี บริษัทของอังกฤษที่ร่วมทุนกับมารูอิญี่ปุ่นและยังมีเวฟที่เน้นขายศิลปินต่างประเทศเช่นกัน ซึ่งในกรณีนี้ทำให้บริษัทประมาทไม่ได้

ทั้งนี้ ศิลปินญี่ปุ่นคิดเป็นยอดขาย 20% ของบริษัทและบริษัทก็ให้ความสำคัญกับศิลปินญี่ปุ่นเช่นกัน เนื่องจากมีรายงานว่า 70% ของคนญี่ปุ่นในตลาดเพลงจะสนใจซื้อซีดีของคนกันเอง

แต่ทาวเวอร์ เรคคอร์ดกล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าตัวเลขที่ได้มาจะแม่นยำแค่ไหน เนื่องจากศิลปินญี่ปุ่นขายดีก็จริง แต่ดังอยู่ไม่นานก็ดับและก็ไม่มีใครสนใจจะซื้ออีก ไม่เหมือนศิลปินต่างประเทศอย่างเดอะ อีเกิ้ล เดอะ บีทเติ้ล

หากบริษัทจะมีอุปสรรคละก้อนั่นก็คือกฎหมายของญี่ปุ่นที่จำกัดเวลาเปิดร้านคือราว ๆ2 ทุ่มซึ่งน้อยไปสำหรับในวันหยุดที่มีคนชอบเดินจับจ่ายซื้อของไปจนดึกดื่น ในตอนที่ทาวเวอร์ เรคคอร์ดเปิดตัวครั้งแรกนั้น ทาวเวอร์ เรคคอร์ดเปิดร้านถึง 4 ทุ่มซึ่งหลายคนมองว่าประสาทแต่ก็ประสบความสำเร็จเพราะมีคนมาเดินซื้อซีดีกันไม่ขาดสาย

ในส่วนของลูกค้าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ลูกค้าหลักของบริษัทจะเป็นวัยรุ่นวัยเรียนแต่ตอนนี้มีจำนวนลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่อายุราว 30-40 เพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้ใหญ่เริ่มมีเวลาว่างมาหาความสนุกสนานให้ตัวเองมากขึ้น

ในตอนนี้ ทาวเวอร์ เรคคอร์ดมีสาขาอยู่ในไต้หวัน ไทย ฮ่องกง สิงคโปร์และเกาหลีใต้ โดยเฉพาะในไทยที่สร้างความประหลาดใจให้บริษัทมากและในอนาคต บริษัทก็มีแผนว่าจะขายจำนวนสาขาขึ้นอีกในประเทศเหล่านี้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us