|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
พิษน้ำมันฉุดดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมต่ำสุดเป็นประวัติการณ์หรือในรอบ 32 เดือน นับตั้งแต่จัดทำดัชนี วิตกดีเซลปรับขึ้น ฟันธงดัชนีเชื่อมั่นตลอดครึ่งปีหลังจะต่ำกว่า 100 ต่อเนื่องเหตุน้ำมันยังไม่มีวี่แววลดลง ผวาแรงซื้อครึ่งปีหลังต่ำหนัก คนไทยเริ่มบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโตผิดปกติชี้สัญญาณแรงซื้อเริ่มหดตัว ชี้ศก.ไทยขึ้น 3 ปัจจัย 1. ราคาน้ำมัน 2. การท่องเที่ยว 3.แรงซื้อในประเทศ
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือนพ.ค. 48 จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 489 ตัวอย่างครอบคลุม 33 กลุ่มอุตสาหกรรมของส.อ.ท.พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 90.5 จาก 97.2 ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นค่าดัชนีที่ต่ำกว่า 100 เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันตั้งแต่ก.พ.48 และยังเป็นค่าดัชนีต่ำสุดตั้งแต่การจัดทำดัชนีเชื่อมั่นต.ค. 2545 หรือในรอบ 32 เดือน
ทั้งนี้ค่าดัชนีเชื่อมั่นโดยรวมของยอดคำสั่งซื้อ ยอดขาย ต้นทุนประกอบการและกำไรสุทธิ ปรับลดลงจาก 120.8 116.4 และ 101.7 ในเดือนเม.ย.เป็น 115.5 110.3 40.3 และ 91.8 ในเดือนพ.ค. ตามลำดับ โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ดัชนีเชื่อมั่นภาพรวมลดลงเนื่องจากช่วงสำรวจยังไม่มีปัจจัยบวกมากระตุ้นแต่ขณะนั้นท่าทีของรัฐบาลกลับจะมีการปรับลอยตัวราคาดีเซลจึงส่งผลให้เอกชนเกิดความวิตกกังวล ขณะที่เบนซินก็ปรับขึ้นต่อเนื่องแม้จะไม่กระทบต่อผู้ผลิตโดยตรงแต่ก็จะกระทบกับแรงซื้อของคนไทยให้ลดลง รวมถึงปัญหาระดับราคาวัถตุดิบที่ปรับสูงขึ้น
สำหรับราคาดีเซลจากการสำรวจที่เอกชนรับได้คือระดับ 18.55 บาทต่อลิตร แต่ขณะนี้ดีเซลได้วิ่งไปสู่ระดับ 20.99 บาทต่อลิตร ซึ่งเมื่อรัฐบาลมีความชัดเจนในการลดภาระการชดเชยของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็จะทำให้ดีเซลราคาขยับเพิ่มอีกดังนั้นเดือนมิ.ย.คาดว่าดัชนีจะต่ำไม่ถึง 100 อีกครั้ง แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะต่ำสุดหรือไม่คงต้องดูการสำรวจก่อน อย่างไรก็ตามจากการพิจารณาปัญหาน้ำมันที่เคยเกิดขึ้นและฉุดดัชนีเชื่อมั่นให้ต่ำสุดเคยเกิดขึ้นในเดือนเม.ย.46 โดยดัชนีฯ อยู่ที่ 95.9 ซึ่งขณะนั้นราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 29.30 เหรียญต่อบาร์เรล
"ดัชนีที่ต่ำสุดรอบ 32 เดือน โดยอยู่ที่ 90.5 น้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 47.53 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงมากและยังคงเป็นสิ่งที่เอกชนยังคงกังวลต่อต้นทุนการผลิตอยู่ ประกอบกับยังมีปัญหาภัยแล้ง ปัญหาภาคใต้ และการขาดดุลทางการค้าซึ่งแนวโน้มดัชนีครึ่งปีหลังเฉลี่ยแล้วก็น่าจะต่ำกว่า 100 ทุกเดือนอยู่" นายสันติกล่าว
ทั้งนี้เศรษฐกิจครึ่งปีหลังและดัชนีฯ เชื่อมั่นจะมีปัจจัยสำคัญที่จะบ่งชี้ว่าจะไปทิศทางใดได้แก่ 1. ราคาน้ำมันจะลดหรือไม่ 2. การท่องเที่ยวจะต้องรอฤดูท่องเที่ยวหรือไฮด์ซีซั่นว่า นักท่องเที่ยวจะกลับมาหรือไม่หากไม่กลับก็จะกระทบกับเศรษฐกิจพอสมควร 3. แรงซื้อจะลดมากน้อยเพียงใดเพราะจะมีผลต่อยอดขายในประเทศ ซึ่งจุดนี้หากรัฐเร่งโครงการเมกะโปรเจกต์และเร่งเบิกจ่ายงบประมาณที่ค้างจ่ายให้เร็วขึ้นก็จะกลับมาช่วยกระตุ้นแรงซื้อได้ดีขึ้น
นายสันติกล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันที่แพงขึ้นการส่งออกของภาคอุตสาหกรรมที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายเติบโตไว้ 10% นั้นก็อาจจะไม่ถึงเป้าหมายนัก และจะมีผลกระทบต่อแรงซื้อมากน้อยเพียงใดคงจะเริ่มเห็นชัดเจนในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้ โดยยอมรับว่ายอดขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในเครือสหพัฒน์มียอดขายที่โตกว่า 10% หรือในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา มียอดขายสูงถึง 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดได้ตัวหนึ่งว่าคนไทยเริ่มที่ประหยัดมากขึ้นและน้ำมันอาจจะกระทบกับแรงซื้อแล้วระดับหนึ่ง
นายสันติกล่าวว่า ดัชนีฯ ที่ลดลงแยกตามกลุ่มอุตสาหกรรม 33 กลุ่ม พบว่า ดีชนีปรับลดลง 19 กลุ่มอาทิ การพิมพ์ เหมืองแร่ เครื่องปรับอากาศ ปูนซิเมนต์ เคมี พลาสติก โรงกลั่นน้ำมัน ฯลฯ ส่วนที่เหลืออีก 14 กลุ่ม ปรับเพิ่มขึ้นอาทิ ปิโตรเคมี เครื่องจักรกลการเกษตร รองเท้า เหล็ก ฯลฯ โดยเอกชนส่วนใหญ่ต้องการให้ภาครัฐกระตุ้นการลดใช้พลังงานในประเทศ และดูแลระดับราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การจัดระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพ ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเอกชนเพื่อกระตุ้นการขยายการลงทุน และกระตุ้นบรรยากาศในประเทศให้เอื้อต่อการลงทุน
|
|
|
|
|