การเข้ามาทำงานของต่างชาติที่ทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น MFC จึงเริ่มมองเห็นถึงความเป็นไปในการจับธุรกิจมาจัดตั้งเป็นกองทุนแรก หลังการพิจารณาความเสี่ยงที่สัมพันธ์กับรายได้

โดยเมื่อมองจนรอบด้านแล้ว MFC จึงสรุปว่าอพาร์ตเมนต์และ office building จะเป็นดาวเด่นที่นักลงทุนให้ความสนใจ เนื่องจากฐานลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่มาจากกลุ่มคนทำงานในธุรกิจภาคบริการ เช่น บริษัทตรวจสอบบัญชี แม้เศรษฐกิจจะเกิดปัญหาและคนต้องตกงานก็ตาม แต่กลุ่มธุรกิจทั้ง 2 นี้จะรับผลพวงเป็นลำดับสุดท้ายรองจากกลุ่มศูนย์การค้า

กระนั้นก็ตามเมื่อพิจารณาถึงที่มาของรายได้ศูนย์การค้าบนปัจจัยความเสี่ยงแวดล้อมปัจจุบัน เช่น ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่ม แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต จะส่งผลกับความสม่ำเสมอของรายได้อาจลดลงจากการหั่นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในการบริโภคของลูกค้า ขณะที่ตัวผู้เช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าอาจมีรายได้ไม่มากพอที่จะแบกรับค่าเช่าที่ต้องเพิ่มขึ้นในปีหน้าได้ ดังนั้นการรักษาความสามารถในการทำธุรกิจโดยภาพรวมของศูนย์การค้าแต่ละเจ้า จึงต้องพึ่งพาทีมการตลาดผู้มากด้วยฝีมือเป็นหลัก

เมื่อมองที่นิคมอุตสาหกรรม MFC ลงความเห็นอย่างไม่เกรงใจว่า เป็นพวกที่มีระดับความเสี่ยงสูงสุดของอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท เพราะลูกค้า SME จากต่างประเทศเป็นฐานใหญ่ และเน้นความรวดเร็วในการย้ายฐาน จึงไม่นิยมลงทุนในทรัพย์สินถาวร นอกจากเช่าพื้นที่ตั้งโรงงานและรับโปรโมชั่นตามแต่เจ้าของโครงการจะหยิบยื่นให้

ส่วน service apartment แม้ที่ผ่านมาจะทำผลงานได้ดีกว่าโรงแรม ทั้งเรื่องสนนราคาที่ถูกกว่า ขนาดห้องพักที่กว้างขวาง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมด้วยความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใช้เวลาสั้นๆ ในไทยก็ตาม แต่ MFC มองเห็นว่าในอีกไม่นาน service apartment จะมีข้อจำกัดในการทำธุรกิจ เนื่องจากเงื่อนไขใหม่ของทางการที่ขยายระยะเวลาการเช่าไม่น้อยกว่า 1 เดือนสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในที่พักประเภทนี้