Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ 5 กรกฎาคม 2548








 
นิตยสารผู้จัดการ5 กรกฎาคม 2548
MFC แจ้งเกิดกองทุนอสังหาฯ             
โดย ณัฐวัฒน์ หอมจิตต์
 

 
Charts & Figures

กองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน


   
www resources

โฮมเพจ บลจ. เอ็มเอฟซี

   
search resources

เอ็มเอฟซี, บลจ.
Funds




งานแถลงข่าวเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซี-นิชดาธานี (MNIT) เมื่อต้นเดือนก่อน ถูกใช้เป็นเวทีประกาศแนวทางการบริหารกองทุนอสังหาริมทรัพย์ของ บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC)

พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ MFC และสมพร บุรินทราธิกุล ผู้ช่วยกรรมการอาวุโส ใช้โอกาสนี้บอกกล่าวสาธารณชน ถึง 3 แนวทางที่ MFC จะนำมาใช้ แนวทางแรกคือ การคัดทีมบริหารเข้ามาบริหารกองทุน ซึ่งจะมาจากผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์โดยตรง ด้วยเหตุผลที่ว่าการลงทุนในโครงการที่สร้างเสร็จจนเปิดให้บริการแล้ว รายได้หลักของกองทุนจะมาจากการให้เช่าทรัพย์สิน การอาศัยการบริหารจากทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะจะทำให้กองทุนได้รับประโยชน์ทั้งในเรื่องกลยุทธ์บริหารความเสี่ยง การบริหาร รายได้ ตลอดจนการหาแหล่งรายได้เพิ่มเติมในอนาคต น่าจะสำคัญกว่าการใช้ทีมจากภาคการเงิน

"เราจะไม่ใช้คนจากภาคการเงินเพราะความเสี่ยงไม่ได้อยู่ที่เรื่องดอกเบี้ย และผมไม่คิดด้วยว่าพวกเขาจะรู้เรื่องการบริหารค่าเช่ามากไปกว่าคนของ MFC ซึ่งมีประสบการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว" พิชิตกล่าว

แนวทางนี้ดูเหมือนเป็นการชูจุดแข็งขึ้นมาเป็นจุดขายให้กับหน่วยลงทุนทดแทน จุดที่ MFC เสียเปรียบบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรายอื่น เนื่องจาก MFC ไม่มีธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทำให้ ช่องทางการจำหน่ายหน่วยลงทุนมีน้อยกว่า

แนวทางถัดมาคือการบอกถึงแนวทางพิจารณาเลือกโครงการที่จะเข้าไปลงทุน ซึ่งจะเจาะกลุ่มอพาร์ตเมนต์สำหรับชาวต่างชาติที่ทำงานในไทย ที่มีปริมาณน้อยกว่าความต้องการในตลาด และมีระบบ broker ที่เป็นปึกแผ่น

"อพาร์ตเมนต์สำหรับชาวต่างชาติ ถือเป็นทรัพย์สินที่มีผู้เช่าที่ดี เจ้าของมีรายได้ที่แน่นอนจากสัญญาปีต่อปี ค่าเช่ายังมีโอกาสขึ้นได้อีกในปีต่อไป ทางฝั่ง broker ก็จะคอยป้อนลูกค้ามาให้ ทำให้สบายใจว่าจะมีคนมาอยู่ใหม่แทนคนเดิมที่หมดสัญญาทำงานในไทย"

แนวทางสุดท้ายคือนโยบายการซื้อเพื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สินในราคาที่สมเหตุสมผล แทนการซื้อสัญญาเช่าจากเจ้าของเดิม โดย MFC ให้เหตุผลว่าแม้จะมีรายได้สม่ำเสมอจากค่าเช่าก็ตาม แต่ยังน้อยมากเมื่อเทียบมูลค่าเพิ่มของทรัพย์สินในวันข้างหน้า ขณะเดียวกันการไม่ได้เป็น เจ้าของ ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจมีทางเลือกน้อยลง ทั้งในแง่โอกาสการได้รับผลตอบแทนเพิ่มจากการขายสินทรัพย์ในอนาคต การรับสินไหมทดแทนจากการทำประกันอัคคีภัยหรือความเสียหายต่อทรัพย์สินระหว่างการลงทุน

"มีสัญญาเช่าไม่ได้หมายความว่าเราเป็นเจ้าของด้วย พอเกิดอะไรขึ้นมาเราไม่ได้อะไรเลย เมื่อเราจะซื้ออพาร์ตเมนต์จากนิชดา เราจึงให้เขาทำประกันและกองทุนเป็นคนรับสินไหม MNIT เป็นกองทุนแรกที่ MFC จะลง เราจึงอยากสร้างมาตรฐานใหม่ของกองทุนในหลายๆ เรื่อง เพื่อให้ผู้ลงทุนรู้ว่าการลงทุนแบบนี้มันได้ประโยชน์จริงหรือเปล่า"

เงื่อนไขการลงทุนใน MNIT กำหนดให้ราคาขายหน่วยลงทุน 1,000 บาท ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับผลตอบแทน 5.8-6.5% ตลอดอายุกองทุน 7 ปี โดยการลงทุนของกองทุนจะเป็นการเข้าซื้อที่ดิน และ 2 อพาร์ตเมนต์หรูหรา 17 ชั้น ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบในหมู่บ้านนิชดาธานี นนทบุรี เจ้าของเดิมจะถือหุ้นในกองทุน 25% ฐานะผู้เช่า ปีแรกนิชดาธานีต้องวางเงินมัดจำล่วงหน้า 6 เดือน จ่ายค่าเช่า 47.9 ล้านบาท ซึ่งจะเพิ่มขึ้นทุกปีจนถึง 52.3 ล้านบาทในปีสุดท้าย หากผู้เช่าบอกเลิกสัญญาก่อนกำหนดต้องเสียค่าปรับให้กองทุนเท่ากับค่าเช่า 24 เดือน

นอกจากการประเดิมตลาดด้วยกองทุน MNIT แล้ว MFC ยังมีแผนเข้าลงทุนในอาคารสำนักงานให้เช่าอีก 2 แห่ง โดยมูลค่ากองทุนทั้งหมดที่จะมีรวมกันทั้งสิ้น 3,000-4,000 ล้านบาท

"MFC ชัดเจนว่าต้องการเป็น big player ตอนนี้ NPV เราเป็นรอง ING ที่มี อยู่ราว 30,000 ล้านบาท ส่วน MFC อยู่ที่ 21,000-22,000 ล้านบาท จาก 18 กองทุน" สมพรกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us