Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ 5 กรกฎาคม 2548








 
นิตยสารผู้จัดการ5 กรกฎาคม 2548
Developer for real demand             
โดย ณัฐวัฒน์ หอมจิตต์
 

 
Charts & Figures

ผลการดำเนินงานพฤกษา เรียลเอสเตท
ผู้ถือหุ้นใหญ่ พฤกษา เรียลเอสเตท


   
www resources

โฮมเพจ พฤกษา เรียลเอสเตท

   
search resources

พฤกษา เรียลเอสเตท, บมจ.
ทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์
Real Estate




บุคลิกของทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เป็นคนพูดน้อย แต่สิ่งหนึ่งที่เขามักกล่าวถึงด้วยความภาคภูมิใจอยู่เสมอก็คือจุดเด่นของพฤกษาฯ ในการควบคุมต้นทุนที่ทำให้ทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวของพฤกษาฯ มีราคาต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่น 10-20% ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทมาตั้งแต่ต้น

ราคาที่ต่ำกว่าดังกล่าว น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พฤกษาฯ ครองส่วนแบ่งตลาดทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯ และ ปริมณฑลได้เป็นอันดับหนึ่งตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ด้วยยอดโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 3,246, 4,043 และ 4,964 หลัง ในปี 2545-2547 คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 56.3% 33.2% และ 35.2% ตามลำดับ

พฤกษาฯ ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 จาก แรงบันดาลใจของทองมา ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างศูนย์การค้าดิโอลด์สยาม พลาซ่า ติดตามเพื่อนที่กำลังเลือกซื้อบ้านไปดูโครงการบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งแล้วเกิดความรู้สึกว่าราคาขายค่อนข้างสูง น่าจะทำ ได้ในราคาที่ต่ำกว่า จึงเป็นที่มาของโครงการ แรกคือพฤกษา 1 จำนวน 1,000 ยูนิต ในทำเลรังสิต คลอง 8 ที่จับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและประสบความสำเร็จด้วยดี

ความสำเร็จในการควบคุมต้นทุนของพฤกษาฯ เป็นผลมาจากการนำเทคโน โลยีก่อสร้างบ้านด้วยระบบสำเร็จรูปมาใช้ตั้งแต่โครงการต้นๆ เริ่มจากระบบโครงสร้างผนังรับน้ำหนักแบบหล่อในที่ (Cast Insitu Load Bearing Wall Structure) จากประเทศฝรั่งเศส และพัฒนาต่อเนื่องมาจนปัจจุบันใช้ระบบผนังสำเร็จรูปรับน้ำหนักในการก่อสร้างบ้านเดี่ยว ซึ่งได้มีการลงทุนสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูป (Precast Concrete Factory) ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ด้วยเงินลงทุนกว่า 650 ล้านบาท ที่เริ่มทำการผลิตแล้วในช่วงต้นปีนี้

ระบบก่อสร้างสำเร็จรูปมีข้อดีที่ช่วย ลดเวลาในการก่อสร้าง จากเดิมแต่ละหลัง ต้องใช้เวลา 6 เดือนก็ลดเหลือเพียง 2 เดือน เท่านั้น ประหยัดทั้งเวลา ค่าแรงงานและดอกเบี้ย ส่งผลต่อเนื่องถึงการกำหนดราคาขายได้ต่ำกว่าคู่แข่ง

จากจุดเริ่มต้นที่เป็นทาวน์เฮาส์ จนถึงในปี 2544 ทองมาเห็นว่า บ้านเดี่ยวเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง น่าจะเป็นโอกาสของบริษัทพฤกษาฯ จึงได้พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ ภัสสร จับกลุ่มลูกค้ารายได้ปานกลางและในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เพิ่มสินค้าในแบรนด์ พฤกษาวิลล์ ซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์ระดับราคา 1.2-1.7 ล้านบาท และพฤกษาวิลเลจ บ้านเดี่ยวราคา 1.7-2.2 ล้านบาท ทำให้พฤกษาฯ มีโครงการรองรับกลุ่มตลาดกว้าง ขึ้นตั้งแต่ทาวน์เฮาส์ราคา 6 แสนบาทไปจนถึงบ้านเดี่ยวที่ราคาเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไป

นอกจากนี้ พฤกษาฯ ยังอยู่ในระหว่างการเก็บข้อมูลเพื่อขึ้นโครงการคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยในระดับราคา 4-7 แสนบาทและในกลุ่ม 0.9-1.5 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปีหน้า

ไม่เพียงเพิ่มสินค้าให้มากขึ้นเท่านั้น พฤกษาฯ ยังได้มีการปรับโครงสร้างองค์กร ให้ชัดเจน มีการแต่งตั้งกรรมการอิสระ คณะ กรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการบริหาร ความเสี่ยง รวมทั้งยังได้เชิญ ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ มาเป็นประธานกรรมการ กรรมการอิสระ และประธานคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัท เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

พฤกษาฯ เตรียมระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชน ทั่วไปจำนวน 425 ล้านหุ้น และการจัดสรร หุ้นส่วนเกินอีก 42.5 ล้านหุ้น โดยมี บล. ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน คาดว่าจะดำเนินการขายหุ้นและเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ภายในสิ้นปีนี้

เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้ในการซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการ ในอนาคต จำนวน 1,000 ล้านบาท ใช้ก่อสร้างโรงงานผลิตรั้วและเสาสำเร็จรูปและโรงงานผลิตห้องน้ำสำเร็จรูป 200 ล้าน บาท ชำระคืนเงินกู้ 300 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและเงินทุน ในการดำเนินงานทั่วไป

นอกจากผลการดำเนินงานที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแล้ว จุดเด่นของพฤกษาฯ อีกประการหนึ่งคือ การได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอในโครงการทาวน์เฮาส์ส่วนใหญ่ของบริษัท ทำให้ผลกำไรจากโครงการเหล่านี้ได้รับการยกเว้นภาษีและหากนำกำไรส่วนนี้มาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นก็ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ด้วยเช่นกัน โดยในปีที่ผ่านมาพฤกษาฯ มีกำไรสุทธิ 930 ล้านบาท แบ่งเป็นกำไรที่ได้รับยกเว้นภาษีจำนวน 563 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 60% ของกำไรสุทธิทั้งหมดและในงวดไตรมาสแรกของปีนี้มีกำไรที่ได้รับยกเว้นภาษี 137 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 297 ล้านบาท

ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีจะมีแนวโน้มที่ไม่สดใสนักจากผลกระทบของราคาน้ำมันและแนวโน้มขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรง ต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่พฤกษาฯ มีเป้าหมายที่จะเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ถึง 12 โครงการ จำนวนกว่า 7,600 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 9,500 ล้านบาท การขยายงานดังกล่าวสะท้อนความมั่นใจของทองมา ที่เชื่อว่ากลุ่มเป้าหมายหลักของพฤกษาฯ ที่เป็นผู้มีรายได้น้อยและปานกลางนั้นเป็น real demand ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ ซื้อบ้านอย่างแท้จริงและการตัดสินใจซื้อบ้าน จะไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจมากนัก   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us