RK เตรียมทำทีวีดาวเทียมหลังเข้าถือหุ้นในนิวส์ มัลติมีเดีย เปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือนหน้า ขณะที่เข้าร่วมทุนกับ SHAREINVESTOR PTE LTD. จากประเทศสิงค์โปร์ จะทำธุรกิจขายโปรแกรมสำเร็จรูปเกี่ยวกับกิจกรรมด้าน IR ดึงลูกค้าบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก คาดจดทะเบียนร่วมทุนได้ปลายปีนี้

นายไพศาล ศรีจรัสจรรยา ประธานกรรมการ บริษัท อาร์ เค มีเดีย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (RK) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2548 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2548 ว่าคณะกรรมการมีมติให้ขยายขอบข่ายการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะด้านโทรทัศน์โดยบริษัทฯ จะไปลงทุนในบริษัท นิวส์ มัลติมีเดีย จำกัด เพื่อทำธุรกิจด้านโทรทัศน์ ดาวเทียม ซึ่งบริษัท นิวส์ มัลติมีเดีย จำกัด ได้จัดสรรหุ้นจำนวน 10% ของทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท หรือคิดเป็นเงิน 3 ล้านบาท ให้กับ RK และ RK จะได้ชำระเงินลงทุนดังกล่าว ภายในเดือนมิถุนายน 2548

สำหรับบริษัท นิวส์ มัลติมีเดีย จำกัด มี ดร.วีรพงษ์ รามางกูร เป็นประธานกรรมการ มีนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ เป็นกรรมการผู้จัดการ และมีบริษัท จีจี นิวส์ เนทเวิร์ค จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยได้เริ่มทดลองแพร่ภาพตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2548 และจะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคม 2548 โดยเน้นเป็นสถานีข่าวด้านตลาดเงินตลาดทุน เศรษฐกิจและการเงิน ( Business Channel)ก่อนเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 30 ล้านบาท ในเดือนพฤษภาคม 2548

สำหรับงบการเงินของ บริษัท นิวส์ มัลติมีเดีย จำกัด ณ 31 ธันวาคม 2547 (ก่อตั้งเมื่อเดือนตุลาคม 2547) มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยประกอบด้วย จำนวนหุ้นสามัญ 10,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เรียกชำระแล้ว 250,000 บาท มีสินทรัพย์รวม 0.31 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 0.21 ล้านบาท มีหนี้สิน 0.11 ล้านบาท

นายไพศาลยังกล่าวอีกว่า บอร์ดได้มีมติให้บริษัทฯ ร่วมลงทุนกับ SHAREINVESTOR PTE LTD. จากประเทศสิงค์โปร์ เพื่อดำเนินธุรกิจขายโปรแกรมสำเร็จรูป เกี่ยวกับกิจกรรมด้าน Investor Relation (IR) สำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย โดย SHAREINVESTOR PTE LTD. เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีในเรื่องนี้ และประสบความสำเร็จในการขายโปรแกรมดังกล่าวให้กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศสิงค์โปร์

สำหรับบริษัทร่วมทุนใหม่ จะมีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยบริษัท อาร์ เค มีเดีย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 51% SHAREINVESTOR PTE LTD. ถือหุ้น 30% และผู้ถือหุ้นรายย่อยอีก 19% โดยบริษัทฯ ได้เซ็นข้อตกลงความร่วมมือกับSHAREINVESTOR PTE LTD. และเริ่มทดสอบตลาดแล้วคาดว่าจะจดทะเบียนบริษัทร่วมทุนภายในสิ้นปี 2548

สำหรับบริษัทใหม่ที่ตั้งขึ้นมานี้ จะเริ่มทดลองตลาดได้เดือนหน้าและคาดว่าในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้น่าจะมีลูกค้าประมาณ 5-6 ราย ซึ่งรายได้จากส่วนนี้ยังไม่อาจบอกได้อย่างชัดเจนว่าจะมีเข้ามาจำนวนเท่าใด เพราะต้องรอสรุปผลการทดลองตลาดก่อน

นายไพศาลกล่าวว่า ส่วนใหญ่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ต่างนิยมการใช้บริการธุรกิจแบบ IR นี้ เพราะทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงบริษัท และสามารถรู้นโยบายและทิศทางของบริษัทมากขึ้นด้วย เพราะบริษัทนี้จะเหมือนตัวกลางทำหน้าที่เปิดช่องทางประชาสัมพันธ์และส่งรายละเอียดทั้งหมดที่ผู้บริหารต้องการสื่อถึงนักลงทุน และหากนักลงทุนต้องการเข้าถึงบริษัทและผู้บริหารมากขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพียง 3 แสนบาทต่อปีเท่านั้น โดยรายได้จากธุรกิจที่กล่าวมาแล้วนั้น ขณะนี้ยังประเมินไม่ได้ ต้องรอให้ทดลองตลาดและดำเนินการก่อนจึงจะประเมินได้ แต่ก็เป็นการเพิ่มช่องทางของรายได้เข้าสู่บริษัทให้มากขึ้น