|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โนเกียวิเคราะห์ตัวเลขตัวเลขผู้ใช้โทรศัพท์ต่อประชากรที่ 40% พบส่วนใหญ่เป็นการซื้อซ้ำ วางกลยุทธ์การตลาดครึ่งปีหลัง มุ่งสร้างประสบการณ์จริงให้เกิดกับผู้ใช้สัมผัสความแตกต่างที่โนเกียมีให้ ในรูปแบบการเดินสายเวิร์คช็อปทั่วประเทศให้ผู้ใช้สัมผัสเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายอย่างใกล้ชิด
มร. บ็อบ แมคดูกอล กรรมการผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าและการตลาด บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแนวทางการทำตลาดครึ่งปีหลังว่า โนเกียจะให้ความสำคัญกับการสร้างตลาดในรูปแบบ “คอนซูเมอร์เอ็กซ์พรีเรียล” สร้างประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับผู้บริโภคให้มากที่สุด โดยมองว่าการสร้างประสบการณ์ในตัวสินค้าจะนำไปสู่การเข้าถึงตัวสินค้า สัมผัสจริง และทำให้เกิดความต้องการใช้งานจริงในที่สุด
“จากตัวเลขอัตราการใช้โทรศัพท์ต่อประชากรที่ 40% แสดงให้เห็นแนวโน้มกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์เกิดจากการซื้อซ้ำในสัดส่วนสูง ซึ่งกลุ่มนี้มีประสบการณ์ในการใช้โทรศัทพ์มือถือมาบ้างแล้วจึงต้องการหาประสบการณ์ใหม่ๆ ลูกเล่นใหม่ๆ ในการใช้งาน”
ด้านนางสาวอูณา ตัน ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า สิ่งที่โนเกียทำคือสร้างประสบการณ์ในการใช้งานจริง โนเกียจะทำมากกว่าแค่การเปิดตัวโทรศัพท์มือถือ แต่เราจะให้ลูกค้าได้สัมผัสจริงกับสิ่งที่แตกต่างกว่า ความคมชัดกว่าด้วยระดับ 2ล้านพิกเซลส์จากโทรศัพท์ของโนเกีย กลยุทธ์ของโนเกียจะมุ่งไปที่การให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงความคาดหวังของลูกค้าที่มีต่อโนเกียให้กลับมา คู่ไปกับเริ่มความสัมพันธ์กับคู่ค้าอย่างเจมาร์ท และพาวเวอร์บายให้มากยิ่งขึ้น โดยมองว่า คู่ค้าจะเป็นช่องทางสำคัญในการผลักดันสินค้าให้ตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากที่สุด
โนเกียวิเคราะห์ตลาดรวมโทรศัพท์มือถือในเมืองไทยปีนี้ว่า ตลาดรวมจะสูงถึง 8 ล้านเครื่อง ในจำนวนนี้เป็นสัดส่วนการซื้อซ้ำครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งเป็นการซื้อเครื่องใหม่จากผู้ที่ไม่เคยมีโทรศัพท์ใช้มาก่อน จากตลาดรวมในปีที่ผ่านมาประมาณ 6.8 -7 ล้านเครื่อง โดยโนเกียวางกลยุทธ์ไว้ว่าจะให้ความสำคัญในการทำตลาดทั้ง 2 ตลาดไปพร้อมๆ กัน โดยมีโปรดักส์ที่จะเปิดตัวทำตลาดในประเทศไทยปีนี้กว่า 30 รุ่น ซึ่งผู้บริหารบอกว่าทำให้โนเกียครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ทุกกลุ่มเป้าหมาย
ในส่วนตลาดรวมทั้งโลกในปีนี้ผู้บริหารโนเกียกล่าวว่า คาดว่าจะสูงถึง 700 ล้านเครื่อง จากปีที่ผ่านมาที่ 600 ล้านเครื่อง โดยโนเกียมีส่วนแบ่งในตลาดโลก ไตรมาส 1 ของปี 2548 ประมาณ 32% ซึ่งเป็นสัดส่วนเดียวกับไตรมาส 1 ของปี 2547 ที่ผ่านมา
เพื่อเป็นการเดินตามแนวคิดการทำตลาดที่ต้องการสร้างประสบการณ์จริงจากการใช้งาน โนเกียจับมือกับศูนย์กลางการเรียนรู้ ICT แห่งชาติ จัด Nokia: The Next Generayion งานนิทรรศการและเวิร์คช็อป ที่ศูนย์กลางการเรียนรู้ ICT แห่งชาติ ชั้น 6 ตั้งแต่วันนี้ถึง 7 กรกฏาคม พร้อมมีแผนที่จะเดินสายจัดงานรูปแบบที่ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมความรู้ เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้สัมผัสกับเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายอย่างใกล้ชิด ในลักษณะโซนต่างๆ 6 โซนคือ 1. Work Zone จะเป็นการสาธิตอุปกรณ์ไร้สายในชีวิตการทำงานที่ใช้การเชื่อมต่อกันกับอุปกรณ์สำนักงานอื่นๆ เช่นคอมพิวเตอร์ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานแม้ไม่ได้อยู่ในสำนักงาน
2.Imaging Zone เป็นการสาธิตฟังก์ชั่นกล้องดิจิตอลในโทรศัพท์มือถือและโปรแกรมการใช้งาน เช่น การตัดต่อภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว 3. Music Zone เป็นการสาธิตฟังก์ชั่นด้านเพลง เช่นการดาว์นโหลดเพลงในรูปแบบต่างๆ เช่น MP3 และการสาธิตเทคโนโลยีใหม่อย่าง visual radio ซึ่งสามารถฟังเพลงพร้อมเห็นภาพ หรือข้อมูลที่ส่งมาจากสถานวิทยุนั้นรวมทั้งร่วมกิจกรรมกับผู้จัดรายการได้ทันที โดยบ็อบกล่าวว่า นับถึงวันนี้ประเทศไทยและผู้บริโภคมีความพร้อมกับเทคโนโลยีนี้แล้ว 4.Game Zone จะเป็นการสาธิตเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายเพื่อความบันเทิงด้านเกม ด้วยเกมไร้สายล่าสุดที่มีเทคนิคการสร้างภาพและเสียงที่สมจริง และ 5. Future Zone เป็นการสาธิตเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายในอนาคต ที่มีการพัฒนาไปถึงยุค 3G ที่จะทำให้สามารถสื่อสารด้วยภาพ เสียง และข้อความได้ในคราวเดียวกัน
พร้อมกันนี้โนเกียยังแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด N series ทั้ง N 90 และ N91 โดยชูจุดสมบัติเด่นของเลนส์ “คาร์ลไซส์” ที่ติดตั้งในตัวโทรศัพท์ทำให้ได้ภาพที่คมชัด ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่นำมาเปิดตัวในไทยหลังเปิดตัวที่ประเทศมาเลเซียมาแล้ว
บ็อบกล่าวในตอนท้ายว่า เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ราคาน้ำมันแพงขึ้น คาดว่าจะไม่ส่งกระทบกับการทำตลาดโทรศัพท์มือถือ ทั้งเห็นได้จากในช่วงที่ผ่านมาแม้เกิดปัญหาสึนามิ ประเทศไทยได้รับผลกระทบแต่ตลาดรวมโทรศัพท์มือถือก็ไม่ได้ลดลงเช่นกัน
|
|
|
|
|