การเปิดสำนักงานใหม่ในประเทศไทยของสำนักข่าวต่าง ประเทศ ที่มีอยู่มากมายหลายแห่ง อาจเป็นเพียงปรากฏการณ์ปกติ ที่ไม่ใคร่มีผู้สนใจมากนัก แต่สำหรับ AP (Associated Press) การย้ายหน่วยที่เรียกว่า Asia Pacific Desk จากกรุงโตเกียวมา ยังกรุงเทพฯ ย่อมเป็นกรณีที่ไม่ควรจะมองข้ามอย่างยิ่ง

การย้ายสำนักงานในระดับภูมิภาคของ AP Asia Pacific News Services หลังจากที่ปักหลักอยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศ ญี่ปุ่น มาตั้งแต่เมื่อครั้งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือเมื่อกว่า 57 ปีมาแล้ว เข้ามาดำเนินการในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ในช่วง ปลายเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา นับเป็นการส่งสัญญาณที่มีนัยถึง การปรับยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ของ AP ต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยองค์รวมเลยทีเดียว

บทบาทของ AP Asia Pacific Desk ซึ่งเปรียบเสมือน สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาค จะทำหน้าที่ editing ข่าวสาร ข้อมูลจากผู้สื่อข่าวของ AP ในสำนักงานท้องถิ่นแต่ละประเทศ เพื่อให้บริการกับลูกค้าทั้งที่เป็นผู้ประกอบการสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุ โทรทัศน์ รวมถึงองค์กรเอกชนอื่นๆ ในลักษณะ 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ไม่มีวันหยุด

"AP ในฐานะผู้ให้บริการด้านข่าวสารข้อมูลที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ต้องการเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญ ของภูมิภาคนี้ ในฐานะที่เป็นอาณาบริเวณของข่าวที่กว้างใหญ่และเต็มไปด้วยเรื่องราวน่าสนใจ ซึ่งการเลือกประเทศไทยเป็นที่ตั้ง ของสำนักงาน ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าการ ปฏิบัติการในญี่ปุ่นแต่มูลเหตุหลักอยู่ที่การเป็นศูนย์กลางของไทย ทั้งในมิติของทำเลที่ตั้งและความสะดวกในการเชื่อมต่อไปยัง ประเทศต่างๆ ในเอเชีย" Geoff Spencer ซึ่งดำรงตำแหน่ง Asia News Editor หรือหัวหน้าสำนักงาน Asia Pacific Desk แห่งนี้ บอกกับ "ผู้จัดการ"

เป็นเรื่องบังเอิญเหลือเกินที่ การเปิดสำนักงานระดับ ภูมิภาคของ AP ในครั้งนี้ ดำเนินไปในลักษณะที่สอดรับกับ ความพยายามของรัฐบาลไทยในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ เชิงรุก ว่าด้วยการระดมผู้นำของชาติในเอเชียมาพบปะกัน ภายใต้ กรอบของ ACD : Asia Cooperation Dialouge โดยการเปิด สำนักงานของ AP เกิดขึ้นหลังจากการประชุม ACD เสร็จสิ้นลง เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น และดูจะเป็นการเน้นย้ำความสำเร็จใน การสร้างภาพลักษณ์ในระดับนานาชาติของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร อีกครั้งหนึ่ง โดยนายกรัฐมนตรีของไทยได้ให้ความสำคัญเข้าร่วม เปิดสำนักงานแห่งนี้ พร้อมกับ Claude Erbsen รองประธานของ AP ภายใต้บรรยากาศที่ชื่นมื่นอีกด้วย

แม้จะเป็นความเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญ แต่การเปิดสำนัก งาน AP แห่งใหม่นี้ กลับถูกบดบังด้วยข่าวการให้สัมภาษณ์ของ นายกรัฐมนตรีไทย เกี่ยวกับรายงานข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศ อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นไปในลักษณะที่ชี้ให้เห็นถึงความไม่น่าเชื่อถือ ของการรายงาน และการวิพากษ์วิจารณ์โดยหยิบยกมาตรฐานการ ทำงานของสำนักข่าว ด้วยวาทกรรมเผ็ดร้อนของนายกรัฐมนตรี ไทยแทน